Oddbean new post about | logout

Notes by Riina | export

 นั่งนับฝนดาวตก ได้ 21ดวง บังเอิญไปไหมเนี่ย 😂
แต่ดีจัง ได้เห็นพร้อมลูกๆ พร้อมแม่ ถ้าบ้านตรงข้ามปิดไฟคืนนี้คงเห็นชัดกว่านี้น้า ตอนอยู่กรุงเทพไม่เคยเห็นเลยเพราะสว่างไปหมด+ตึกบัง ใครยังไม่เห็นไปดูได้นะ ทางทิศตะวันออก หลังเที่ยงคืนเขาว่าจะเห็นเยอะเลย😚🌠

#ฝนดาวตกเจมินิดส์ #siamstr #homeschool

https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_7926998186312437181702573374.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9722015216271444061702573388.webp  
 ช่วงนี้กำลังเป็นเลยค่ะ ติดเล่น minecraft กับลูกๆ(หนักมาก) กำลังช่วยกันสร้างอาณาจักรในเกมส์ 555 เมมเต็มแบบขั้นสุด  
 Oxytocin ฮอร์โมนแห่งความรัก 🥰 
 ไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่า การได้ใช้เวลาที่เป็นของเราจริงๆ ไปเพื่อความรื่นรมย์ในรูปแบบของตัวเรา และจะมีความสุขยิ่งกว่า ถ้าได้ใช้เวลาเหล่านั้นร่วมกับคนที่เรารัก ได้มีความสุขไปด้วยกัน เผชิญปัญหาไปพร้อมกัน ได้อยู่ใช้เวลาผ่านสิ่งต่างๆไปด้วยกัน เพราะไม่ว่าคุณจะร่ำรวยมากมายแค่ไหน เวลาเหล่านี้ก็มีจำกัดอยู่ดี การมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ที่บางครั้งอาจดูแสนจะธรรมดา นั่นแหละ มีค่ามากที่สุด

#siamstr 
 เพื่อนๆรอบตัวเริ่มบอกว่า ไม่เห็นพ... 
 นี่คือเหตุผล เราจึงแนะนำทุกคนว่า อย่าเข้ามาด้วยความโลภ (แม้มันจะเป็นสิ่งดึงดูดแรก) สิ่งแรกที่ควรทำ คือศึกษาสิ่งที่กำลังสนใจหรือสิ่งใหม่ที่เรายังไม่รู้จักนั้นให้ดีเสียก่อน เพราะมันเป็นทางเดียวที่ยั่งยืน เราจะได้ทำและตัดสินใจในเรื่องนั้นได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องไปถามคนอื่นว่า เข้าตอนนี้ได้ไหม เฮ้ยมันจะกลายเป็น0มั้ย การเริ่มเรียนรู้ มันอาจจะช้า ไม่ทันใจ แต่มันปลอดภัยและยั่งยืน เพราะการถือบิทคอยน์เอาไว้เฉยๆ มันเป็นเรื่องยาก คนภายนอกมอง มันอาจจะดูเหมือนง่ายเนอะ เพราะเหมือนไม่ต้องทำอะไร แต่บอกก่อนเลยว่า คนที่จะสามารถถือมันไว้เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย (ไม่แพนิคและไม่โลภ) คนที่จะทำแบบนั้นได้ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก นับถือใจบรรดาอาจารย์และรุ่นพี่ bitcoiner ทั้งหลายเลย ที่สามารถพูดให้ความรู้เรื่องเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อมวลมนุษยชาติได้ 

#siamstr

nostr:note1pfcx3kxap50k8nfvdtmwnsxf77yn66r2sxvfuh30qdpledzrmn5qj7tfha  
 นอสตราดามิส ทำนายอนาคต

1. Bitcoin = Real money
2. Fiat Currency = คูปองไว้แลกของหรือบริการในแต่ละท้องถิ่น
3. ตลาดหุ้น จะไปอยู่บน defi
4. การครอบครองกรรมสิทธิ์ในรูปแบบต่างๆ จะถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของ NFT

คนยุคถัดไป จะรู้แค่ว่าบิทคอยน์มีค่ามาก แต่ส่วนมากก็ยังไม่รู้อีกว่าเพราะอะไร 
 😂 
 # #North101 ใครจะจอยยกมือ !!
- ลุยงาน Block mountain ที... 
 โอ้ว วางแพลนจะไปเที่ยวเชียงใหม่ช่วงนั้นพอดีเลยค่ะ 😍 
 มกราเลยแฮะ นึกว่าธันวา 😿 
 คูปองไว้แลกของกินของใช้ (แค่ในประเทศ) 
 พาลูกเดินป่า พาก่อกองไฟ เรียนรู้องค์ประกอบของการลุกติดไฟ สอนดูทิศ ดูเวลาจากดวงอาทิตย์ขึ้นและตก ทำอาหารกินเองแบบแคมป์ปิ้ง ลงเล่นน้ำตก น้ำมาจากไหนนะ ใครลืมปิดน้ำ 🤭 (แม่เองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญ แค่เคยเรียนลูกเสือมา เปิดตำราเอา 555) แต่เด็กๆก็สนุกมาก ตอนแรกว่าจะพาลูกจุดไฟจากกระจกเลนส์นูน ทำที่พักชั่วคราวจากกิ่งไม้และใบไม้ แต่เอาไว้รอบหน้าละกัน เด็กๆสนุกมาก ได้ความรู้ด้วย เด็กๆนี่พลังเยอะจริง ทำกิจกรรมได้ทั้งวันไม่มีเหนื่อย ตกกลางคืน พานอนดูดาว ตามล่าดาวหาง(แต่ยังไม่ได้เห็น) มีความสุขจริงๆ

#siamstr #homeschool

https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_7161078518726412591701076648.webp  
 ขอบคุณค่ะคุณตุ๊ก เช่นกันค่ะ 🥰 
 จริงค่ะ 555 แต่สนุก 
 เสือดำโป่งน้ำร้อน

          จังหวัดจันทบุรี....ผมเป็นนายทหาร กับทหาร8นาย มีรถยนต์ยีเอ็มซีบรรทุกสัมภาระ
เต็ม พอแสงทองขึ้นจับฟ้า ออกจากพันร.2นย. ค่ายตากสิน ไปอ.โป่งน้ำร้อน
     ผ่านที่ว่าการอ.มะขาม เข้าทางลูกรังเต็มด้วยฝุ่นแดง  ข้ามสะพานบ้านห้วยโป่งไต่ขึ้นเขาเกลือ ลงจากเขาถึงบ้านทับไทรเพล จอดพักรถกินอาหารเดินทางต่อ ใช้ทางรถชักลากไม้ในป่าขรุขระหลุมบ่อ ผ่านเขาที่ราบลุ่มน้ำขัง(หน้าฝน) บ่ายถึงบ้านพญากำพุซ ที่นี่เสือดำขบกัดชาวบ้านตาย ผู้ใหญ่จ๊อตขอให้ช่วยล่าเสือ ไม่มีเวลา ต้องไปถึงโป่งน้ำร้อนก่อนมืด เย็นถึงโป่งน้ำร้อน มีบ้าน60กว่าหลังคาเรือน ที่ว่าการอำเภอเรือนไม้ชั้นเดียวเวลานี้ปิดประตูเงียบ 
       ผมเดินเข้าป่ามีทหารติดตาม1นาย เจอเสือดำนอนขวางทางห่างประมาณ30เมตร ตะบะเสือ ทำเอาผมจังงังยกปืนค้างไม่กล้ายิง (ก็เพิ่งเจอของจริงนี่แหละ) ทหารติดตามก็เลยไม่ยิง เสือกับคนมองหน้ากันแล้วมันก็ลุกเดินลากหางเข้าป่าไป ป่าโป่งน้ำร้อนเป็นป่าใหญ่  ต้นไม้แต่ละต้นสูงใหญ่กว่าเสาซุง มีกล้วยไม้ดอกสวยอยู่ตามคาคบ กล้วยป่ามีผลสุก ตะวันกำลังจะลับยอดไม้ อากาศกำลังเย็นลง เสียงเสือร้องคำรามไม่รู้อยู่ทิศทางใด ค่างโหน นกกาฮังก์บินเข้ารังยอดไม้สูง ความมืดเริ่มเข้ามา ผมตัดสินใจตั้งฐานพักแรมในป่านั้น
     วันนี้ปี43 ผมสมจิตร ไปทัวร์บุญกับธรรมทานทัวร์1คันรถบัส ออกจากค่ายตากสิน (แวะ
ไหว้ศาลเจ้าตาก) ไปอ.โป่งน้ำร้อน  ถนนลาดยางเรียบ ชั่วโมงกว่าก็มาถึง (มาวัดป่าพงเลิศ) พื้นที่ทั่วไปเป็นไร่ข้าวโพดไร่มันสำปะหลัง สลับทุ่งหญ้าคาป่าละเมาะ 
เมื่อก่อนนี้มันมี - เสือดำกับป่าโป่งน้ำร้อน
                                                             
                                            ทิดส่ง

#บันทึกคุณปู่   #siamstr 
 🥳 
 เมื่อเป็นอารยะประเทศ

          จังหวัดพระนคร80....จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี  นำไทยให้เป็นอารยะประเทศ ผมจะเล่าให้ฟังตามตาเห็นได้ปฎิบัติมามั่ง ไม่ได้นั่งเทียนเขียน
     ไปลามาไหว้ทัก”สวัสดี” เมื่อก่อนนี้ทัก”ไปไหนมา” จึงมีคำพังเพย”ไปไหนมาสามวาสองศอก”  แปดนาฬิกาได้เวลาชักธง เราต้องยืนตรงเคารพธงชาติไทย   สถานที่ทำงานเลิกงานแล้วต้องมีการร่วมรำวงสมานฉันท์ก่อนกลับบ้าน ผมชอบรำวงงานวัด ห้ามกินหมาก ตะบันหมากกรรบิกตัดหมากเชี่ยนหมาก คนมีตังค์จะไปซื้อที่สะพานหัน ห้ามปลูกต้นหมากต้นพลู ที่มีอยู่ก็ต้องโค่นทิ้ง ผมยังเห็นแม่กินหมากที่บ้าน ออกจากบ้านแม่เคี้ยวยาฉุนแทน    ห้ามนุ่งโจงกระเบน ผ้าโจงกระเบนโสร่ง(ชายนุ่งโสร่งหญิงนุ่งโจง) คนมีตังค์จะไปซื้อที่สะพานหัน มีผ้าม่วงผ้าลายผ้าปาเต๊ะผ้าปังลิ้นด้วย  ห้ามนุ่งโจงนุ่งโสร่ง ผมยังเห็นแม่นุ่งโจงกระเบนที่บ้าน ออกจากบ้านแม่นุ่งผ้าลาย(ผ้าซิ่น) ต้องสวมหมวก มาลานำไทยต้องใส่หมวก ไม่ใส่หมวกจะถูกตำรวจ จับปรับเสียตังค์  ผมไปรร.ต้องใส่หมวกเห็นแม่ใส่หมวกดูพิลึกกึกกือ  ก็คนแก่บ้านนอกนี่เนอะเขาใส่งอบ  ห้ามเล่นดนตรีไทย ถ้าเล่นดนตรีไทยต้องตั้งโต๊ะนั่งเก้าอี้ ไม่ให้นั่งกับพื้น ผมเล่นแมนโดลินมันเท่หน้าดูเล่นซอด้วงซออู้ดูมันเช้ยเชย  เป็นคนไทยไม่ใช้แซ่ ผมบุญส่ง แซ่โค้ว เลยชื่อวิศาล ภัทรวาณิชย์ ปรับอักษรไทย ตัดตัวอักษรไทยออกหลายตัว เช่น ศ ษ
ประกาศนียบัตรของผมจึงเขียน “ประกาสนียบัดกระซวงสึกสา” ผมยังเก็บเอาไว้ถึงวันนี้
     สมัยนั้น สมัยชาตินิยม แอนตี้สินค้าญี่ปุ่นใช้สินค้าของไทย(ยังไม่มีคุณภาพนัก)  กระดุมทำด้วยกะลามะพร้าว หมวกสานด้วยใบลาน มาลานำไทยไปสู่ - อารยะประเทศ

                                               ทิดส่ง

#บันทึกคุณปู่   #siamstr 
 หลบผู้คนไปชาร์จแบตมาค่ะ (เที่ยวป่าเขา) ☺️ 
 ยังเลยค่ะ 555 
 คนหลบฝนกับกำไลหยก

          อ่าวตากัน2495.....ในเวิ้งอ่าว เตยทะเลขึ้นรอบหาด. เหนือหาดขึ้นไปเป็นป่าละเมาะพื้นที่เขตทหารเรือ. มีอาคารที่ทำการบ้านพักหลายหลัง
     บ้านจ1 ตั้งริมทางสามแพร่ง. ทางหนึ่งไปเขาปู่จ้าว ทางหนึ่งไปเขาทุ่งโปง อีกทางหนึ่งผ่านหมู่บ้านพักไปเขาน้อยหนองไก่เตี้ย. เนื่องจากเป็นบ้านหลังแรกติดชายป่าจึงเหมือนว่า ตั้งอยู่โดดเดี่ยว. ดึกแล้วไฟฟ้าดับฝนตกพรำ. ผมเดินกรำฝนถึงบ้านพัก ก่อนก้าวขึ้นบรรได มองไปใต้ถุนเห็นเงาตะคุ่มคน2คนนั่งหลบฝนที่แคร่ไม้. แสงฟ้าแล่บสะดุดตาที่ข้อมือคนหนึ่ง สวมกำไลสะท้อนแสงฟ้า ส่องแสงเขียววาวจับตา(เข้าใจว่าเป็นหยก). ขึ้นบ้านจุดตะเกียงลงไปเรียกคนทั้งสองแต่ไม่เจอ (นึกในใจไปใหนเร็วจริง). 
      ผมเป็นจ่าใหม่ มาอยู่บ้านพักหลังนี้คนเดียว พอมืดค่ำ แผงลอยร้านค้าในกองทหารปิด ตลาดอยู่ไกล3กม. มืดค่ำจึงอยู่บ้าน คืนใดไฟฟ้าดับฝนตกพรำ. จะเห็นคน2คนมานั่งหลบฝนประจำ ไม่เห็นจะจะ  เห็นเป็นเงาตะคุ่ม พอเพ่งดูก็หายไป (บ้านพักมีว่างหลายหลังเพราะมีคนพักน้อยกว่าบ้าน)  จึงขอย้ายไปอยู่ บ้านจ101
      ต่อมา บ้านจ1  มีจ่าเก่า(และแก่) ย้ายจากกองทหารจันทร์บุรีเข้าอยู่. ไปนิมนต์พระมาทำบุญบ้าน มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิจีนขุดหาศพไร้ญาติ มาทำพิธีขุดที่ใต้ถุนบ้าน พบกระดูกคน2โครง
     โครงหนึ่ง ที่กระดูกข้อมือมีกำไลหยกสวมอยู่ ขณะผมยืนดูสะท้อนแสงแดด ส่องแสงเขียววาวจับตา เหมือนที่ผมเห็นมัน วันคืนฝนตกที่ข้อมือ - คนหลบฝนกับกำไลหยก
                                                                     
                                        ทิดส่ง 

#บันทึกคุณปู่   #siamstr 
 😂 
 ธรรมประจำวันคุณปู่

01.  บุญคือความดีความสุข/ทำดีแล้วมีความสุขนั่นแหละ”ทำบุญ”
02. ทำงานอย่าโง่กว่างาน/ทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้องนั่นแหละ”ปฎิบัติธรรม”
03. เขาด่าก็ดีไม่ด่าก็ดี/ไม่เข้าไปในเรื่องของผู้อื่นนั้น”เป็นมงคล”
04. อย่าปรุงแต่งสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดเป็นปัญหาขึ้น/ถ้ายอมรับสิ่งที่มีอยู่”ทุกข์ก็หมดไปเอง”
05. อยากให้เขามีสุข/ช่วยทุกข์เขา/ดีใจที่เขาได้ดี/ไม่ซ้ำเติมที่เขามีทุกข์นั่นแหละ”พรหมวิหารสี่”

              (ทำตามผมเช่นนี้/ไม่ต้องใส่บาตรถวายสังฆทาน/ก็ได้ไปสวรรค์แล้ว)

ถามคุณย่า นรกสวรรค์มีจริงไหม คุณย่าตอบว่า “สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ” สวรรค์หรือนรกไม่ใช่สถานที่ แต่มันอยู่ที่ใจ

#บันทึกคุณปู่ 
 รถไฟสายบางยี่ขัน

          อ.บางใหญ่2473....ไปบางกอก  ทางเรือยนต์โดยสาร”บางใหญ่-ท่าวัง” ทางรถไฟโดยสาร”บางใหญ่-บางยี่ขัน”. สมัยนี้ไม่มี มันเป็นตำนานผมเพิ่งจำความได้
     ยี่ห้อใช่หลี  ร้านค้าไม้คลองบางใหญ่ ของนายเต็งเกียวเตี่ยผมเอง. ร้านค้าเรือนริมคลอง เตี่ยอยู่คนเดียว. มีตู้กระจกไว้ปืนลูกซองและปืนไรเฟิ่ล  พื้นห้องเจาะช่อง ทำประตูลอดลงน้ำหนีภัย(ผมโตขึ้นจึงรู้พ่อเป็นนักสู้มีเชิง). รับเหมาสร้างตึกวัดหญ้าไทร ในคลองอ้อม.  นั่งเรือจ้างแจวตาแม้น โจรดักปล้นเรียกเรือจ้างจอด เตี่ยบอกถ้าแกจอดฉันยิงแกตกน้ำ โจรยิงปืนคาบศิลามา โป้ง!  เตี่ยโต้ด้วยปืนพกบราวนิงก์ ปังปังปัง!  โจรเลยถอย เตี่ยเล่าให้แม่ฟัง
     แม่อยู่เรือนปั้นหยา ติดร้านค้าเรือนริมคลองเตี่ย. เตี่ยสอนแม่และลูกคนโตให้ยิงปืนเป็น สมัยนั้นบ้านนอกยังเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไกลปืนเที่ยง มีซุ้มโจรชอบปล้นคนมั่งมี.  ทางรถทางเรือยังเป็นทางสายเปลี่ยว. แม่พาผมไปบางกอก นั่งเรือยนต์โดยสาร  ผ่านวัดบางอ้อยช้าง วัดบางกรวย ไปขึ้นที่ท่าวัง นั่งรถรางไปลงที่หัวเม็ดสำเพ็ง เดินไปบ้านน้าสงวน
      วันหนึ่งแม่พาผมนั่งรถไฟโดยสาร. สถานีบางใหญ่(วัดสะแก) ผ่านสถานีบางอ้อยช้าง   สถานีบางกรวย ไปลงสถานีบางยี่ขัน  ลงเรือข้ามฝากท่าบางยี่ขัน ไปขึ้นท่าเขียวไข่กา นั่งรถรางไปลงที่หัวเม็ดสำเพ็ง เดินไปบ้านน้าสงวน.  บางกอกตอนนั้น ไม่มีรถโดยสารประจำทาง มีรถราง รถเจ็กรถยนต์ส่วนตัวแทบจะนับคันได้. เพิ่งจะมีรถโดยสารสายแรกวิ่งถนนพญาไทย รถเมล์ขาวนายเลิศ(รถสองแถว). รถขาวเครื่องหมายกากบาทสีแดงในวงกลม วิ่งจากวัดหัวลำโพง(สามย่าน) อนุสาวรีย์ชัยสมรภูม  กรุงเทพกว้างแค่นั้น จากนั้นไปเป็นป่า สนามยิงเป้า
     รถรางมี3สาย. สายแดงสายดำสายเขียว สายแดงวิ่งรอบเมือง สายดำวิ่งจากยศเสไป
ประตูน้ำ เผื่อจะมีคนลงเรือคลองแสนแสบ. สายเขียววิ่งจากสีลม(มีกังหันลมสีข้าวแถวนั้น
นาข้าวร้าง) ไปเขียวไข่กา เผื่อจะมีคนลงเรือข้ามฝาก ขึ้น - รถไฟสายบางยี่ขัน
                                                            
                                            ทิดส่ง
ปล.ไม่รู้จะเขียนอะไร เลยเขียนกรุงเทพปี73ให้ก่อน

#บันทึกคุณปู่   #siamstr 
 วันนี้บัญชีธนาคารที่น้องชายถูกอายัดไว้ โดยไม่รู้สาเหตุเมื่อหลายวันก่อน ได้รับการปลดล็อคแล้วใช้งานได้ปกติ โดยไม่รู้เหตุผล

หลายวันก่อนติดต่อไปธนาคารเขาแจ้งเพียงว่า ตำรวจไซเบอร์เป็นผู้อายัดแค่นี้ เราค้นข้อมูลดู พบว่าคนโดนกันเยอะมากๆเลยนะ โดนอายัด แล้วอยู่ดีปลดให้ แต่รอไปเถอะ 3-7วันหลังจากติดต่อธนาคารไป ทำอะไรกับบัญชีไม่ได้เลยนอกจากนั่งมอง แล้วมานึกขึ้นได้ เมื่อราวๆ3เดือนก่อน น้าของเราก็โดนธนาคารเดียวกันนี่อายัดบัญชีแบบนี้เลยนี่หว่า

ใครจะว่าไงไม่รู้ แต่เราว่าเราได้กลิ่นตุๆ จากธนาคาร ที่ตั้งใจไม่ให้บางคนถอนเงินออกไป หรือชะลอการทำธุรกรรมทางการเงินของเจ้าของเงิน ถ้าเป็นสมัยก่อน คนจะใช้เงิน ต้องไปถอนเอาเงินสด ถ้าธนาคารไม่ให้ถอน หรือบอกรอก่อนนะคะ เงินไม่พอ ถอนได้แค่บางคน คนก็จะตกใจกันว่า เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น ทำไมธนาคารไม่มีเงิน ยิ่งแห่กันไปถอน

แต่ทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้ถอนเงินสดกันซักเท่าไหร่ ดังนั้นวิธีการอายัดบัญชีแบบดื้อๆนี่แหละ ที่เป็นการไม่ให้ถอนเงินแบบอ้อมๆ ให้ผู้คนชะลอการทำธุรกรรมออกไป ให้ถอนได้แค่บางคน อ้างเหตุผลโดยไม่มีหลักฐาน

Bank Run ยุคใหม่ ถ้าจะเกิดขึ้น ก็น่าจะมาในรูปแบบนี้แหละ เราอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ก็คิดว่าใช่ไว้ก่อน

#siamstr 
 💚 
 เหนือล่าง 101 คืออะไรหรอคะ 😂
ตกเทรนอะไรอีกแล้วนี่เรา 
 ขจีขนาดนี้ 🥹 
 ยินดีค่า เดี๋ยวเอามาลงต่อนะคะ 🥰🙏🏻 
 ไว้มีโอกาสเจอกัน มิ้นจะเปิดให้ดูนะคะ 
 คนโง่ก็แบบนี้ ชอบคิดว่าตัวเองรู้ดีแล้ว 
 ง่ะ ตกใจตรงหมดโควต้าอ่าน 555 เพราะมันสั้นมากเลยนะ  
 ทำไมผู้คนถึงยอมรับทองคำ

ในปัจจุบันเป็นที่รู้กันดีว่า ทองคำนั้นเป็นโลหะมีค่า ที่ใครๆต่างก็ยอมรับ ผู้คนมากมายยินดีนำพลังงานและเวลาของพวกเขานั้นไปเก็บไว้ในทองคำ ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันโดยมิได้นัดหมายว่าทองคำนั้นมีค่า และคนส่วนมากก็มองว่าทองคำนั้นมีค่า โดยไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่า…ทำไม

บ้างก็ให้เหตุผลว่า ทองคำนั้นมีค่าในตัวเอง ทองคำนั้นราคาแพงขึ้นเสมอ ทองคำนั้นสามารถนำไปทำเครื่องประดับได้ พูดง่ายๆว่า จริงๆแล้ว ทุกคนต่างยอมรับทองคำโดยที่หลายคนก็ไม่ได้เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำว่า ทำไมทองคำถึงมีค่า แต่ที่ทุกคนมองว่ามันมีค่า เป็นเพราะใครๆ ต่างก็ยอมรับทองคำต่างหาก 

ธาตุพื้นฐานทั้งหมดที่มนุษย์รู้จักนั้น มีจำนวนทั้งหมด 118ธาตุ เมื่อเราตัดธาตุที่มีสถานะเป็นแก๊สออก ตัดธาตุจำพวกโลหะอัลคาไลออกเพราะความไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัดธาตุกัมมันตรังสีออกเพราะไม่เสถียรและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเหลือตัวเลือกไม่มากนัก สำหรับธาตุที่มีความเสถียรสูง ไม่ได้อยู่ในสถานะก๊าซ และไม่ใช่ธาตุกัมมันตรังสี ดังนั้นทองคำเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดจากทั้งหมด 118ธาตุพื้นฐาน

ด้วยคุณสมบัติหลายประการของทองคำ
- คุณสมบัติที่ทนทานต่อการสึกกร่อน(ไม่เป็นสนิม) ไม่ไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี
- ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง เนื่องจากทองคำมีความอ่อนและเหนียวสูง สามารถขึ้นรูปได้ง่าย ซึ่งต่างจากอัญมณี จุดหลอมเหลวของทองคำที่อุณหภูมิ 1,064°C สามารถหลอมทองคำให้เป็นของเหลวและนำทองกลับมาขึ้นรูปและใช้ได้อีกตามต้องการ
- ความหายากแบบพอดีๆ(หาไม่ยากเกินไปและหาไม่ง่ายเกินไป) แต่ก็หายากพอที่จะทำให้คนที่มีทักษะทางด้านต่างๆ เลือกที่จะไม่ขุดทองและเลือกที่จะไปทำงานของตัวเอง ซึ่งสามารถสร้างคุณค่าได้ง่ายกว่าการขุดทอง 

ทองคำนั้นหายาก ทั้งยังตกน้ำก็ไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ วางทิ้งไว้ก็ไม่เป็นสนิม ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้แทบจะทำให้ทองคำนั้นเป็นอมตะ เพราะทองคำนั้นจะมีมวลเท่าเดิมอยู่เสมอ ทองคำนั้นจึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นสิ่งที่สามารถเก็บไว้และส่งต่อผ่านกาลเวลาไปยังคนรุ่นต่อไปได้โดยไม่เสื่อมสลายไป

สรุปที่ทองคำนั้นมีค่า เพราะคุณสมบัติของธาตุ ที่ทำให้ทองคำนั้นเหมาะสมที่จะถูกนำมาใช้เป็นเงิน เงินจะมีค่าจริงๆก็ต่อเมื่อสามารถนำไปแลกทรัพยากรได้ และการจะนำไปแลกทรัพยากรได้ ผู้ที่รับแลกนั้นต้องยอมรับทองคำ

เมื่อเราทราบคุณสมบัติของทองคำแล้ว แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนเริ่มต้นให้คุณค่าแก่ทองคำจนกลายเป็นที่ยอมรับ ใครกันที่ควรจะเห็นคุณค่าของทองคำแบบรู้ได้ด้วยตนเอง รู้แบบไม่ต้องมีใครมาบอก ใครกันที่ทำให้ผู้คนที่ไม่เข้าใจในทองคำด้วยซ้ำ หันมายอมรับทองคำโดยที่พวกเขาไม่ต้องเข้าใจมันก็ได้ ใครกันที่จะทำเช่นนั้นได้

ลองนึกย้อนกลับไปในอดีตกาล เศรษฐีในยุคที่มนุษย์ยังไม่รู้จักเงินนั้น ไม่ใช่คนที่มีเงินเยอะ แต่คือคนที่มีทรัพยากรเหลือเฟือ และการจะมีทรัพยากรเหลือเฟือได้นั้น คนๆนั้นต้องแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะแข็งแรงกว่า ฉลาดกว่า อดทนมากกว่า ค้นพบเร็วกว่า รวบรวมผู้คนได้เยอะกว่า ซึ่งมันทำให้เขามีทรัพยากรมากกว่า และตามมาด้วยอำนาจที่มากกว่า

พวกเขามีทรัพยากรมากมายเท่าที่อำนาจของเขาจะครอบครองไหว ทั้งแผ่นดิน ผืนน้ำ สิ่งต่างๆล้วนกินไม่หมดและใช้ไม่ทัน แต่ก็เก็บเอาไว้ไม่ได้ ถึงบางอย่างจะเก็บเอาไว้ได้ แต่ก็เก็บได้ไม่นาน ทรัพยากรต่างๆที่แม้จะใช้หรือไม่ใช้ วันนึงก็จะสลายไปอยู่ดี ตัดไม้เก็บไว้ใช้ ใช้ไม่ทันไม้ก็ผุ จะผลิตเก็บเป็นอาวุธอุปกรณ์ต่างๆ วางทิ้งไว้สนิมก็กัดกิน ผลไม้ อาหาร หรือข้าวสารต่างๆ ถ้ากินไม่ทันก็เน่าเสีย เมื่อเกิดภัยธรรมชาติ น้ำท่วมหรือไฟไหม้ทรัพยากรต่างๆเหล่านี้ก็จะสูญไป ไม่เหลืออะไรเลย ปัญหาหนักใจของคนรวย คือมีทรัพยากรมากมาย แต่จะเก็บไว้ให้อยู่ได้ตลอดไปยังไงดี

ลองนึกภาพว่า เมื่อเศรษฐีได้พบกับคุณสมบัติที่พิเศษของทองคำและเมื่อเขาเข้าใจในความเป็นอมตะของมัน แน่นอนว่าเขาพร้อมที่จะครอบครองมัน แต่แล้วใครล่ะจะหาแร่ทองคำนี้มาให้เขา

ไม่ยาก…

ใครก็ตามที่หาแร่สีทองนี้มาให้เศรษฐี เขาก็ยินดีจะแบ่งปันอาหารและสิ่งต่างๆให้ ของที่เขากินไม่หมด ของที่เขาใช้ไม่ทัน ทรัพยากรที่เขามีอยู่มากมาย

เท่านี้ก็เพียงพอ ที่จะทำให้ผู้คนนั้น ยอมนำเวลาที่พวกเขามี ไปตามหาแร่สีทอง ถึงแม้มันจะกินไม่ได้ นำมาสร้างบ้านก็ไม่ได้ เอามาใส่แทนเสื้อผ้าก็ไม่ได้ มันไม่ได้ใกล้เคียงกับปัจจัยสี่เลยแม้แต่น้อย แต่… มันใช้แลกสิ่งต่างๆจากเศรษฐีได้ พวกเขาไม่รู้หรอกว่า เศรษฐีจะเอาแร่สีทองนี้ไปทำอะไร แต่ในเวลานี้เขายอมรับมันและทุกคนต่างก็ยอมรับมัน เพราะมันสามารถนำไปแลกสิ่งต่างๆที่พวกเขาต้องการได้

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านคิดเหมือนกันไหม ว่าจริงๆแล้ว บางทีช่วงเวลาแห่งการยอมรับอะไรบางอย่าง(Adoption) มันไม่ได้ต้องรอให้ทุกคนบนโลก หรือคนส่วนมากนั้นเข้าใจมันทั้งหมดหรอก

อะไรก็ตามที่คุณสมบัติของมันนั้นพร้อมด้วยตัวมันเองแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ผู้ที่มีอำนาจ ผู้ที่ร่ำรวยทรัพยากรนั้นให้การยอมรับ ในไม่ช้าผู้คนต่างก็จะยอมรับ ไม่ใช่เพราะพวกเขาเข้าใจมัน แต่เป็นเพราะมันสามารถนำไปแลกทรัพยากรที่มีค่าจากผู้ที่มีอำนาจได้

ในบรรดาผู้คนทั้งหมด คนที่จะเข้าใจในเรื่องของ Store of value ที่สุด ดูจะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจากชนชั้นอีลิทหรือบรรดาเหล่าเศรษฐี ก็เพราะพวกเขานี่แหละ ที่เป็นกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งมากที่สุด มีมากจนล้น และพวกเขาต้องการที่เก็บ  เก็บแบบใดก็ได้ที่ใช้ต้นทุนในการเก็บน้อยที่สุด ขนย้ายได้ง่ายที่สุด นำมาใช้ได้ง่ายที่สุด ปลอดภัยที่สุด ถูกขโมยหรือถูกยึดได้ยากที่สุด ไม่เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ไม่สูญหายไปพร้อมกับภัยพิบัติ 

แน่นอนว่าในอดีต ทองคำคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุด แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอนต่างหาก การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งเกิดขึ้นอยู่เสมอ การคัดเลือกทางธรรมชาติในแต่ละยุคก็คงจะมีความแตกต่างกันออกไป และในวันนี้ทองคำไม่ใช่ตัวเลือกเดียวอีกต่อไป

โลกของเรามีสิ่งใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณสมบัติของการเป็นเงินที่ดี มีความสามารถในการเป็นที่เก็บรักษามูลค่า(Store of value)ที่เหนือกว่าทองคำ และเป็นหน่วยวัดได้(Unit of acount)ที่ดีกว่าเงินกระดาษ และมีความพร้อมที่จะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน(Medium of exchange)ที่ดีที่สุด ถึงแม้จะจับต้องไม่ได้ในแบบรูปธรรม แต่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริง และที่สำคัญคือไม่มีใครที่มีอำนาจควบคุมหรือบังคับมันได้เลย

หากเศรษฐีคนใดในวันนี้ที่ยังไม่เข้าใจในคุณสมบัติของเงินที่ดี ความมั่งคั่งของพวกเขา จะต้องถูกเคลื่อนย้ายไปสู่มือของบรรดาเหล่าหัวกะทิ ที่บางคนอาจจะไม่ใช่คนร่ำรวยในวันนี้ แต่บรรดาหัวกะทิเหล่านั้นจะกลายเป็นบรรพบุรุษของเหล่าเศรษฐีในยุคถัดไป

#siamstr 
 นอนได้แป๊บๆตื่นตลอดเลยค่ะ เพราะไอจนตื่น เพลียมากค่ะเพราะอดนอน เลยนอนไม่เป็นเวลาเลยช่วงนี้ปรับเวลาไม่ได้ 😅 
 รู้สึกดีจัง ขอบคุณค่ะ ☺️ 
 ขอบคุณค่ะ ☺️ 
 เข้าตอนนี้ทันมั้ยคะ อิอิ 😂 
 ความล่กนี้ ตลกอ่าา สรุปตอนจบตกน้ำหายอีกนะ 555 😂 
 wow มีชาวกัมพูชาด้วย 
#siamstr

nostr:note1lsu7kcfftvxt4luhve2an242mnyrxc8acmk7eqm0jeen4hs8pv3qsxn0ye  
 ดีจ้า ตุ๊กๆ 🤗 
 ชอบคุณลุงโฉลกมากๆ เลยค่ะ ชอบฟังเวลาสอน ให้ความรู้ตามคลิปต่างๆ จังหวะการพูด น้ำเสียง เวลาเล่าเรื่อง 🤩🙏🏻 
 អរុណសួស្តី! อรุณสวัสดิ์! Good morning! #Nostr 
 wow มีชาวกัมพูชาด้วย 
#siamstr

nostr:note1lsu7kcfftvxt4luhve2an242mnyrxc8acmk7eqm0jeen4hs8pv3qsxn0ye  
 GM ดีจ้า 
 ทำแบบทดสอบ Mbti แค่พอเป็นไกด์ แล้วต้องมาทำความเข้าใจแต่ละฟังก์ชั่นอีกทีค่ะ วิเคราะห์ Cognitive function ว่าใช่ตัวตนของเราไหม อย่าง INFJ ฟังก์ชั่นคือ Ni-Fe-Ti-Se
แต่ละไทป์ฟังก์ชั่นจะต่างกัน ต้องทำความเข้าใจความหมายของแต่ละฟังก์ชั่น มันค่อนข้างลึกซึ้งค่ะ บางคนทำแบบทดสอบอย่างเดียว ไม่ได้มาวิเคราะห์อีกทีอาจจะทำให้มิสไทป์ได้ และยังมีเรื่องนพลักษณ์อีก ค่อนข้างเชื่อมโยงกับไทป์

เราชอบเรื่องนี้มาก รองจากเรื่องของบิทคอยน์เลย เพราะมันสนุกแล้วก็ทำให้เข้าใจตัวเองและคนอื่นมากขึ้น 

เราจำได้ว่าคุณขิงเคยทำโพลในกลุ่ม siamese ว่ามีไทป์อะไรกันบ้าง พบว่าจากทั้งหมด 16ไทป์ Top4 อันดับแรกคือ INTJ/INFJ/INFP/INTP อื่นๆรองลงมา เป็น ISxx/ENxx และน้อยสุด ESxx ตามลำดับ นั่นแสดงให้เห็นเลยว่า กลุ่มคนที่มีลักษณะแบบ INxx คือกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องของบิทคอยนฺมากที่สุด 

แล้ว INxx คืออะไร ชาว INxx คือกลุ่มคนที่ถนัดการรับรู้นามธรรมจากภายใน การเชื่อมโยงข้อมูลภายในนั่นเอง I = introvert , N = intuition = สัญชาติญาณ(การรับรู้โดยนามธรรม) ถ้าจะมาวิเคราะห์มันก็ใช่เลย ทำไมบางคนถึงไม่คลิกกับบิทคอยน์ บางคนถึงสนใจแต่ไม่อิน ทำไมบางคนถึงศึกษาจริงจังและอินกับมันมาก เราเองก็คิดว่า Mbti ของคนๆนั้นมีส่วนมากเหมือนกัน

ส่วนเราเป็น INTP ค่ะ บ้านม่วง อิอิ อยากรู้ของคนอื่นๆเหมือนกันค่ะว่า ในนี้เป็นไทป์อะไรกันบ้าง

#siamstr

https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_8608142664212834131699118490.webp  
 เราเองศึกษามาสักพักแล้ว บางครั้งก็ยังสับสนตัวเองอยู่เลยค่ะว่า เป็น INTP หรือ INTJ กันแน่ เพราะเรารู้สึกเหมือนตัวเองใช้ Ni เยอะมากเหมือนกัน แต่ INTP จะใกล้เคียงตัวตนของเรามากกว่า จากการเช็คช่วงเวลาที่ติดGrip หรือติดลูป  
 เป็นบุคลิกพื้นฐานค่ะ มีทั้งหมด9รูปแบบ เกิดจากปมที่ต่างกันไปในวัยเด็ก 

โดยปกติแล้ว Mbti เป็นบุคลิกโดยกำเนิด คือเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ละฟังก์ชั่นมักจะพัฒนาตามช่วงวัย (แต่บางคนไม่พัฒนาก็มี อยู่ที่แต่ละคน) คือเกิดมาก็เป็นแบบนั้นเลย ไม่ส่งต่อทางพันธุกรรม พ่อแม่และลูกบางทีจึงต่างกันสุดขั้วเลยก็มี

แต่นพลักษณ์ เกิดจากปมในวัยเด็ก จะมีลักษณ์ที่เด่นที่สุด และลักษณ์ข้างเคียง(เท่านั้น)ที่สนับสนุนลักษณ์เด่น

ยกตัวอย่างเช่นเราเป็นลักษณ์ 5w6 (ลักษณ์5 ปีก6) เขียนเป็น 5w6 (ปกติลักษณ์5 จะมี ปีก2ข้างคือ 5w6 หรือ 5w4 จะข้ามไปเป็น 5w3 หรืออื่นๆไม่ได้)

ความหมายคือ ลักษณ์ของเราคือ5(ผู้สังเกตุการณ์) ปีกที่เราใช้สนับสนุน5คือ ลักษณ์6(นักตั้งคำถามหรือผู้จงรักภักดี) ดังนั้น 5w6 ก็จะแตกต่างกับ 5w4 เพราะลักษณ์4คือความเป็นศิลปิน หากคนที่เป็น 5w4 ก็จะมีอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มากกว่า 5w6 เป็นปกติ ส่วน5w6 ก็จะมีความระแวดระวังมากกว่า 5w4 เช่นกัน

ปกติแล้วนพลักษณ์และ mbti จะมีความเชื่อมโยงกัน ยกตัวอย่างของเรานะคะ เราเป็น INTP 5w6 (ลักษณ์ 5w6 จะพบได้มากใน INTP) แต่แทบจะไม่พบลักษณ์ 2 หรือ 8 เลยใน INTP ประมาณนี้ค่ะ (แนบรูปไว้ให้แล้ว)

แถมข้อมูลให้ค่ะ
อันนี้คือ ปมของทุกนพลักษณ์

1 ลักษณ์หนึ่ง: 
ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดและคำวิพากย์วิจารณ์จากผู้อื่น 

ในวัยเด็ก a) คำวิพากย์วิจารณ์จากผู้ใหญ่เป็นแรงกดดันให้ 1 ต้องทำทุกอย่างให้ดี ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ ทั้งที่ยังอายุน้อยเกินไปที่ควรจะต้องแบกรับความรับผิดชอบนั้น b) ขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเนื่องจากความไม่มั่นคงและความกังวลภายในครอบครัว ทำให้ 1 ต้องแบกรับความรับผิดชอบ วางกฏระเบียบและความมั่นคงของครอบครัวด้วยตนเองครั้นแต่เยาว์วัย

1 จึงวางกลยุทธ์โดยการสร้างกฏเกณฑ์มาตรฐานและกิจวัตรที่มั่นคงขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองจากคำวิพากย์วิจารณ์เพื่อความสบายใจ

2 ลักษณ์สอง: 
ถูกขับเคลื่อนโดยความกลัวว่าความต้องการของตนจะถูกปฏิเสธ หรือไม่ได้รับการเติมเต็มจากใครสักคน 

ในอดีตตนไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ทั้งด้านความรักความห่วงใยและการดูแลเอาใจใส่ทางด้านอารมณ์ เช่น ได้รับการยอมรับและความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข  2 จึงมองว่า a) ความต้องการของตนอาจมีมากเกินกว่าที่ผู้อื่นจะสามารถให้ได้ b) พวกเขาไม่คู่ควรที่จะได้รับความเราความเอาใจใส่เหล่านั้น และหากเขาไม่ทำอะไรเขาคงจะไม่ได้รับความรักเพียงพอเท่าที่ต้องการ

2 จึงวางกลยุทธ์โดยการกดความต้องการของตนเองเอาไว้และเข้าช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยความคิดที่ว่าหากช่วยเหลือคนอื่นมากๆจะทำให้คนเหล่านั้นรักและกลับมาตอบสนองความต้องการในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้รับเพียงพอ

3 ลักษณ์สาม: 
ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการการยอมรับที่เกิดจากความเชื่อที่ว่าการเป็นที่รักของใครสักคนขึ้นอยู่กับความประสบความสำเร็จของเขา มากกว่าตัวเขาเองในฐานะคนคนหนึ่ง

เนื่องมาจาก a) พวกเขาได้รับคำชมเชยจากผู้ใหญ่ในวัยเด็กเมื่อทำสิ่งใดสำเร็จ ทำให้พวกเขาเชื่อว่าหนทางในการเป็นที่ยอมรับ ได้รับคำชมเชยหรือได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น คือการแสดงว่าตนทำอะไรสำเร็จสักอย่าง b) ในวัยเด็ก 3 ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ตนเองต้องการ พวกเขาจึงรู้สึกว่าตนต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ปกครอง c) พวกเขาไม่ได้รับการปกป้องหรือการดูแลที่เพียงพอจากผู้ใหญ่ พวกเขาจึงเรียนรู้ที่จะทำอะไรต่างๆเพื่อความอยู่รอด หรือบางคนที่สูญเสียพ่อตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาจึงต้องพยายามสร้างความสามารถให้มากเพียงพอ เพื่อลบช่องว่างที่ขาดผู้ปกครองให้หายไป

3 จึงวางกลยุทธ์โดยการ a) ทำตามมุมมองความคาดหวังของผู้ปกครองในด้านการประสบความสำเร็จ เพื่อให้ได้การยอมรับที่พวกเขาต้องการ b) พยายามเป็นในสิ่งที่คนรอบตัวให้คุณค่า เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูมีความสามารถ น่าค้นหา มีฐานะ เชื่อถือภาพลักษณ์นั้นที่ตนสร้างขึ้นมาเสมือนเป็นความจริง

4 ลักษณ์สี่: 
ถูกขับเคลื่อนโดยความกลัวจากการสูญเสียและความเชื่อว่าตนไม่มีค่าคู่ควรกับความรัก

พวกเขาได้สัมผัสถึงการสูญเสียความรักในวัยเด็ก ถูกกีดกันหรือถูกทอดทิ้ง เพื่อทำความเข้าใจถึงการสูญเสียที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงเชื่อว่าตนมีส่วนผิดในความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น แม้โดยส่วนมากจะไม่เป็นความจริง แต่ความรู้สึกนี้ก็ช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าตนสามารถทำอะไรกับบางอย่างกับมันได้

4 จึงวางกลยุทธ์โดยการจดจ่อและคอยรำลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และมองว่าตนไม่ดีไม่คู่ควรกับความรัก และโหยหาความรักในอุดมคติที่จะสามารถมาชดเชยการสูญเสียครั้งนั้นได้ 

5 ลักษณ์ห้า:
ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการพึ่งพาตนเอง ปกป้องพลังงานและทรัพยากรที่มีจำกัดของตนเอง

ขณะที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้ปกครองหรือคนอื่นๆ พวกเขาถูกมองข้ามหรือโดนกลบความสนใจไปโดยผู้อื่น ทั้งที่เขาต้องการความช่วยเหลือเพื่ออยู่รอด คนรอบตัวขาดความใส่ใจในความต้องการของเขา เขาจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบังคับหรือเกลี้ยกล่อมให้คนสนใจนอกเสียจากต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง เขาจึงเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอยู่กับทรัพยากรอันน้อยนิดที่พวกเขามี

5 จึงวางกลยุทธ์โดยการปลีกวิเวก อยู่กับตนเองบนโลกที่ไม่มีทรัพยากรหรือความปลอดภัยเพียงพอ เพื่อปกป้องตนจากภัยอันตรายจากภายนอก ล้มเลิกความสนใจและพึ่งพาความสัมพันธ์ ลดความต้องการของตนเองสงวนทรัพยากรที่มีเอาไว้ และให้ความสนใจในความรู้ทางปัญญาแทน

6 ลักษณ์หก:
ถูกขับเคลื่อนโดยความเชื่อที่ว่าโลกเป็นสถานที่อันตราย

ประสบการณ์ที่อันตรายต่างๆในวัยเด็ก a) ผู้ปกครองติดเหล้า ป่วยทางจิต ใช้ความรุงแรง หรืออ่อนแอเกินไปที่จะปกป้องเขา b) พวกเขาอาจเผชิญเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย ถูกลงโทษอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลานาน c) ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ปกครองที่ไม่น่านับถือ โลเล และขาดความมั่นคง  ปัญหาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากความขาดแคลนผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจใกล้ตัวที่น่าเชื่อถือและพึ่งพาได้

6 จึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสังเกตความผิดปกติที่อาจเป็นสัญญานที่นำไปสู่ภัยอันตราย และสามารถคาดเดาถึงภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขาได้ ทำให้พวกเขาสามารถเตรียมพร้อมสำหรับภัยอันตรายก่อนที่มันจะมาเยือนได้ แต่ว่าแต่ละ subtype ก็มีกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยอันตรายที่แตกต่างกันออกไป

7 ลักษณ์เจ็ด:
ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดความรู้สึกแย่โดยการโฟกัสในความคิดหรือกิจกรรมที่ทำให้เขารู้สึกดี

พวกเขามีประสบการณ์ที่ดีในวัยเด็กและมักจะมีชีวิตแฮปปี้ไร้ความกังวล ความทรงจำเหล่านั้นมักจะหอมหวานกว่าที่ความเป็นจริงเสมอ อย่างไรก็ตามพวกเขาได้เผชิญกับประสบการณ์เรื่องแย่ๆอย่างกะทันหันในขณะที่พวกเขาไม่พร้อมที่จะรับมือ เหมือนตกจากสวรรค์ ด้วยเหตุนี้ 7 จึงหลบหนีความกลัวโดยการหลบอยู่ภายใต้ความทรงจำที่หอมหวานที่พวกเขารู้สึกปลอดภัยและมีทรัพยากรเพียงพอ หรือมุ่งหาประสบการณ์ที่สนุกสนานเบิกบานและมีความสุข

7 จึงวางกลยุทธ์โดยการพยายามเปลี่ยนเรื่องแย่ๆให้กลายเป็นเรื่องที่ดีเพื่อหลบหนีเรื่องแย่ๆไปอยู่ในความทรงจำที่ดี

8 ลักษณ์แปด:
ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการที่จะรู้สึกมีพลังและมีอำนาจ

ในวัยเด็ก 8 โตมากับสภาพแวดล้อมที่มีการต่อสู้และความขัดแย้งสูง ทำให้พวกเขาต้องเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อความอยู่รอด ส่วนมากพวกเขามักจะถูกพรากประสบการณ์ในวัยเด็กออกไปหรือไม่ได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอ พวกเขามักประสบกับสถานการณ์ความรุนแรงหรือถูกมองข้ามไป  โดยส่วนมาก 8 มักจะเป็นลูกคนสุดท้องในครอบครัวใหญ่ และในมุมมองของ 8 พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ โดยการปฏิเสธความจริงว่าตัวเองอ่อนแอ และสวมท่าทีว่าตนนั้นมีอำนาจและมีพลัง เพื่อเอาชีวิตรอดในโลกที่ไม่มีความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัยไว้ให้สำหรับพวกเขา

8 จึงวางกลยุทธ์โดยการแสดงความเข้มแข็งและพยายามเข้าควบคุมในทุกสิ่งที่ตนสามารถทำได้ ปกปิดความอ่อนแอของตัวเองและสร้างความเชื่อว่าตนนั้นแข็งแกร่ง

9 ลักษณ์เก้า:
ถูกขับเคลื่อนโดยความสงบสุขและการเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้อื่น

เนื่องมาจากครอบครัวที่เขาเติบโตมา a) ไม่รับฟังความคิดเห็นของเขา ในขณะที่คนอื่นๆได้ออกความคิดเห็น b) ความปรารถนาและความชอบของเขาไม่ได้รับความสนใจ c) ต้องคล้อยตามคนอื่นถ้าอยากจะอยู่อย่างสงบสุขหรือหลีกเลี่ยงความร้าวฉาน 9 มักจะเป็นลูกคนกลางหรืออยู่ในครอบครัวใหญ่ ในบางครั้งผู้ปกครองมีอำนาจในการควบคุม พวกเขาจึงต้องยอมจำนนความต้องการของตัวเองและทำตามความต้องการของคนอื่นเพื่อคงความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้

9 จึงวางกลยุทธ์โดยการลืมความต้องการของตนเอง รวมถึงความเจ็บปวดที่ไม่ได้รับในสิ่งที่ตนเองต้องการ พยายามปรับตัวเข้าหาคนอื่นเพื่อค้นหาสันติสุขและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

แหล่งอ้างอิง: Beatrice

#siamstr





https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9038514976873816241699153651.webp  
 แล้วบ้านม่วงกับเขียวที่เป็น INxx นี่หายากด้วยนะคะ (มีน้อย) 5555 ไม่แปลกเลยที่บิทคอยเนอร์คุยกับคนอื่นไม่ค่อยรู้เรื่อง (เพราะคนส่วนมากไม่เข้าใจพวกเรา) 
 INTP มีฟังก์ชั่นคือ Ti-Ne-Si-Fe
INTJ มีฟังก์ชั่นคือ Ni-Te-Fi-Se

Cognitive Function เป็นเหมือนวิธีหรือกระบวนการคิดที่เกิดขึ้นในหัวของแต่ละคน โดยใช้ฟังก์ชันต่างๆ 

เรียงเป็น 4 ลำดับ
Dominant (เด่น/นำ = อันดับ 1)
Auxiliary (สนับสนุนตัวเด่น = อันดับ 2)
Tertiary (อันดับ 3) และ 
Inferior (ด้อย/ไม่ถนัด = อันดับ 4)  
Carl Jung เป็นคนที่คิดค้นระบบนี้ขึ้นมา

เราพบว่าตัวเราเป็น INTP ที่ใช้ Ni อยู่บ่อยๆ บางครั้งเลยเกิดความสับสนว่า เอ๊ะ เราใช่ INTP ไหม แต่เราก็พบว่า เราใช้ Ti มากที่สุดอยู่ดี และเรายังสามารถเช็คได้จากการติดลูป หรือ ติดgrip ได้ (เมื่ออยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ จะทำให้ใช้ฟังก์ชั่นที่ไม่ถนัดโดยไม่รู้ตัว) เมื่อเราเจอปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ เรามักพบว่าตัวเรามักจะคิดวน ซ้ำไปมา ซึ่งเป็นลักษณะของการติดลูป Si ของ INTP และบางครั้งก็พยายามใช้Fe มากเกินไป(ติดgrip Fe) ในบางสถานการณ์ ซึ่งINTPไม่ค่อยถนัดการใช้Fe (การรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น) เราเลยประเมินตัวเองได้ว่า เราเป็น INTP ค่ะ แม้บางครั้งจะใช้ Ni บ่อยมากเลยก็ตาม 

ในขณะที่ถ้า INTJ ติดลูป Fi หรือ ติด grip Se จะเป็นอีกแบบเลย ซึ่งไม่ตรงกับเรา เราไม่ประสบปัญหาแบบชาว INTJ ในช่วงเวลาติดลูปหรือติดgrip แต่ของเราตรงกับ INTP เลย จึงคิดว่าเราแค่เป็น INTP ที่คิดบังเอิญใช้ Ni อยู่บ่อยๆ (แต่ก็บ่อยไม่เท่า Ti-Ne อยู่ดี)

https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_7292731231817971301699155443.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_7069725162639565781699155448.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_4007938414896153371699155494.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_8680471654200871931699155529.webp  
 แบบทดสอบบางครั้งก็มีความผิดพลาด และไม่ตรงค่ะ คำถามเดียวกัน แต่ละคนก็ตีความเข้าใจต่างกัน ดังนั้นทำแค่พอเป็นไกด์ แล้วมาวิเคราะห์ Cognitive function อีกทีค่ะ ไม่มีใครรู้จักตัวเราดีไปกว่าเรา และเชื่อไหมคะ ว่าหลังจากที่เราทำความเข้าใจ Cognitive function แล้ว มันทำให้เราจำลักษณะของคนทุกไทป์ได้หมดเลย เราจะทำความเข้าใจกับไทป์อื่นๆที่ไม่ใช่แค่เฉพาะไทป์ของตัวเองด้วยค่ะ ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของคนอื่นมากขึ้นด้วยค่ะ 
 สวัสดีค่ะ เราเพื่อนกันค่ะ เรา5w6 อิอิ 
 เหมือนแบ่งคนแต่ละไทป์ออกเป็น 4กลุ่มค่ะ

บ้านม่วง (xNTx) นักวิเคราะห์ ถนัดคิด วางแผน วางกลยุทธ ใช้เหตุผลเพื่อเข้าใจสิ่งต่างๆ ไม่ชอบการถูกจำกัดความคิด ไม่ชอบงานซ้ำๆ ที่ไม่ท้าทายสมอง (นามธรรม)
INTP
INTJ
ENTP
ENTJ

บ้านเขียว (xNFx) นักการฑูต ถนัดการเชื่อมถึงผู้คน สร้างแรงบันดาลใจ มักจะใจดี หรือทำเพื่อผู้อื่น (นามธรรม)
INFP
INFJ
ENFP
ENFJ

บ้านฟ้า (xSxJ) ผู้เฝ้ายาม ถนัดทำตามแบบแผน ดูแลจัดการสิ่งต่างๆให้อยู่ในกฎเกณฑ์ ไม่ชอบนอกกรอบ ชอบงานที่มีขอบเขตชัดเจน (รูปธรรม)
ISTJ
ISFJ
ESTJ
ESFJ

บ้านเหลือง (xSxP) นักสำรวจ ตามชื่อเลย ถนัดสำรวจ ค้นหาสิ่งใหม่ๆ ขี้เบื่อต้องหาอะไรทำ (รูปธรรม)
ISTP
ISFP
ESTP
ESFP


https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9025294585599005651699160725.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9154950094538706231699160730.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_6527150201087647171699160733.webp https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_8861655944071176911699160736.webp  
 ถ้าในแบบทดสอบที่ทำตามเว็บ จะมีตรงนี้ซึ่งเราเคยหาข้อมูลแล้วเราเองก็ไม่พบความแตกต่าง หรือจุดที่น่าสนใจอ่ะค่ะ เหมือนเว็บเขาทำขึ้นมาเอง (เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน)

แต่เราพบว่า Mbti แต่ละไทป์จะมี Cognitive Function(CF) ที่แตกต่างกัน ซึ่งตัวชี้วัดที่แม่นยำเราว่าคือตัวนี้แหละค่ะ เพราะ CF เป็นระบบกระบวนการคิดที่แตกต่างกันของแต่ละไทป์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับนพลักษณ์ จากการที่เราคลุกคลีอยู่กับมัน เราว่ามันค่อนข้างตรงมากๆค่ะ ถ้าไม่ตรงแสดงว่าอาจจะยังมิสไทป์อยู่ ต้องค่อยๆตรวจเช็คไป บางคนเป็นปียังหาตัวเองไม่เจอเลยค่ะ

นพลักษณ์ช่วยแยกความต่างของคนไทป์เดียวกันได้อีกขั้น เช่น เป็น INTP เหมือนกัน แต่นพลักษณ์ อาจจะแตกต่างกันก็ได้ 5w6 5w4 6w5 4w5 อาจจะมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันเลย ถึงแม้จะเป็น INTP เหมือนกันก็ตาม 
 mbti เป็นระบบกระบวนความคิดของบุคคลนั้นๆ เป็นมาแต่กำเนิด ติดตัวมาเลย เกิดมาก็เป็นแบบนั้นเลย แต่ความถนัดฟังก์ชั่นต่างๆ จะค่อยๆพัฒนาตามช่วงวัย บางคนให้คุณค่ากับข้อเท็จจริง บางคนบอกว่าข้อเท็จจริงไว้ทีหลังเอาสบายใจไว้ก่อน ปกติระบบกระบวนการคิด จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นอกจากสมองจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแบบถาวร

นพลักษณ์ เกิดจากปมในวัยเด็ก หล่อหลอมมาให้กลายเป็นในแบบที่เราเป็น ไม่ได้ติดตัวมาแต่เกิด เคยอ่านเจอว่าบางช่วงเวลา นพลักษณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ตรงนี้เราไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ

เราแค่ตอบตามข้อมูลที่เรามี เพราะเราก็ศึกษาจากหลายๆที่มาเหมือนกันค่ะ มันเป็นเพียงทฤษฎีที่พยายามอธิบายตัวตนของคนแต่ละแบบ ซึ่งเราคิดว่ามันค่อนข้างแม่นยำ แต่อาจไม่มีอะไรที่100%ค่ะ เพราะจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง 😂 
 Bank run รูปแบบใหม่หรือเปล่าเนี้ย น้องชายของเรา อยู่ดีๆบัญชีก็ถูกอายัดเหมือนกัน ทำธุรกรรมไม่ได้ อ้างตรวจสอบเส้นทางการเงิน เงินมันเป็นของไหล เราจะรู้ได้ไงว่าเงินไหนรับได้รับไม่ได้ งี้รับเงินมา ซื้อข้าวหน้าซอย ไม่ต้องไปปิดร้านแม่ค้าเลยหรอ 

สมัยก่อนจะถอนเงินต้องไปธนาคาร ถอนมาเป็นเงินสด พอคนถอนพร้อมกันถึงเห็นปัญหา

สมัยนี้คนถอนเงิน ใช้วิธีโอนออกจากธนาคาร ย้ายเงินไปที่อื่นแทนการถอนเป็นเงินสด แล้วถ้าคนย้ายเงินออกพร้อมๆกัน การอายัดบัญชี 72ชม. นี่ก็เหมือนเป็นการถ่วงเวลา ไม่ให้คนย้ายเงินเหมือนกันนะ เอาจริงไม่ว่าจะเหตุผลไหน คือน่าหัวเสียทั้งนั้นอ่ะ เงินก็เงินเราแท้ๆ

รู้สึกว่าแบงค์ไม่ปลอดภัยมานานละ แต่มันชัดเจนวันนี้เลย ของเรามีเงินติดบัญชีแค่หลักสิบบาทมานานและ จะใช้ค่อยโอนจากที่อื่นมาใช้จ่าย ทุกอย่างที่อยู่ในธนาคารรู้สึกโคตรไม่ปลอดภัยเลย เงินในธนาคารนี่เหมือนไม่ใช่เงินของเราจริงๆ รัฐหรือธนาคารมีอำนาจมากกว่าเจ้าของเงินด้วยซ้ำ เงินที่เป็นบิทคอยน์นี่แหละ เงินของเราจริงๆ

#siamstr

https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9768881012452194251699087713.webp  
 อันนี้คือถูกอายัดทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ โทรไปธนาคารบอกว่าถ้าไม่มีอะไร ให้รอ 72ชม. ถึงจะปลดล็อคค่ะ 
 น้องชายเราพึ่งโดนเหมือนกันเลยค่ะ เมื่อวานซืนนี้ โทรไปธนาคารก็บอกรอท72ชม. เหมือนกันเลย 
 ป่วยมาก อยู่ดีๆก็ป่วย นอนตื่นมาแล้วป่วยเลย ไข้ขึ้น ปวดหัวสุดๆ ทำไมเป็นไข้แล้วถึงปวดหัวหนักตลอด ปวดจนคิดว่าจะตายไหมเนี่ย ในขณะที่แฟนก็ป่วยเหมือนกัน เป็นไข้เหมือนกันแต่ทำไมเขาไม่ปวดหัวเหมือนเราเลย ส่วนลูกๆชิวสุด ไม่ป่วยทั้งคู่ มีแต่พ่อกับแม่ที่ป่วย 😷 
 ขอบคุณทุกคนนะคะ  
 เทสแล้วค่ะ ไม่ใช่โควิด แต่อาการคล้ายมากๆเลย  
 ยังแย่อยู่เลยค่ะ 😂😷 
 ขอบคุณค่ะ ☺️ 
 ขอบคุณนะคะ ☺️ 
 ขอบคุณค่ะ ยังไม่หายเลยค่ะ ไอหนักมาก 😂🙏🏻 
 ขอบคุณค่า 🤧🙏🏻 
 ขอบคุณค่า  
 กลองศึก

          น่านน้ำทะเลไทย2507....กลองศึก จังเกิ้ลดรัมพ์ โค๊ตการฝึกรบร่วม  นย.ไทย กับ นย.อเมริกัน. การฝึกรบร่วมของกองทัพเรือ
     เรือ US APK. เรือลำเลียงพลขนาดใหญ่. มีสนามบาสเกตบอลล์โรงภาพยนต์ ร้านค้าชีฟสโตร์  ห้องอาหารขนาดใหญ่โต๊ะเก้าอี้สวยงาม. ทหารไทยอยู่รวมกัน ที่ห้องชั้นดาษฟ้า  เวลาอาหารจะไปรอที่หน้าห้องอาหาร วันนั้นสูทกรรมหิ้วหม้อสตูว์มา ร้องว่าเมกอะโฮล. วิศิษฏ์หันมาถาม ฝรั่งให้ทำรูทำไม. ใครไม่รู้ตะโกนขอทางหน่อย  ทหารไทยเดินเข้าคิวรับถาดอาหาร มีสเต๊กหมูสตูว์ไก่แอ๊ปเปิ้ลขนมปัง(ขนมปังหยิบได้ตามชอบ ฝรั่ง2ชิ้นไทย6-7ชิ้นมันถึงจะอยู่ท้อง) วันฝึกยกพลขึ้นบก จ่ายเรชั่น1แพค(อาหารกระป๋อง ใต้ป๋องมีเชื้อไฟจุดอุ่นร้อนพอดี) 1แพคมี6ป๋อง สเต๊กสตูว์4ขนมปัง2   
           เมื่อเป็นนักเรียนจ่าออกฝึกสนามจ่ายเรชั่น กล้วยน้ำหว้ากับข้าวตัง ฝึกร่วมกับเศรษฐีนี่ ค่าอาหารเขาวันละ25บาท ของเราวันละ3บาท(3มื้อ) ฝึกร่วมกัน ทัพเรือต้องจ่ายค่าอาหารเพิ่มวันละ22บาท ทหารไทยพูดฝรั่งสำเนียงไทยไอฟังไม่รู้ รู้ก็โน ไม่รู้ก็โน(know no) 
           วันหนึ่ง กลับจากฝึกยกพลขึ้นบกที่หาดบางเบิด. สมาร์ทเพื่อนทหารฝรั่ง ข้อศอกบวมเขียวช้ำผมเอายาหม่องทานวดให้บอกวอรี่กูด บ่นปวดหัว(คงแพ้อากาศตากแดดถูกฝน) ผมเอายาหม่องทาขมับให้บอกวอรี่กูด  กินอาหารเย็นแล้วบอกปวดฟัน   ผมเอา
ยาหม่องอุดฟันให้ บอก โน โน โนกูด  ขอยาหม่องผมไปเอาหัวเข็มขัดเขาให้ผม(คงเอาไปไว้เป็นของที่ระลึก)
           ทหารไทย. ในเป้สะพายหลัง.มีอาหารกระป๋องเบียร์กระป๋องบุหรี่กระป๋อง (ซื้อร้านชีฟสโตร์ราคาถูกมาก) ใส่เป้สะพายหลังกลับจากฝึกรบร่วม - กลองศึก
                                                ทิดส่ง

*นย. นาวิกโยธิน (ทหารเรือ)


#siamstr   #บันทึกคุณปู่ 
 การเลี้ยงลูก หรือการกระตุ้นความใฝ่รู้ให้เด็กๆ หลักจิตวิทยานั้นสำคัญมาก นับเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง

ในวัยเด็กเล็ก ให้เด็กเล่นให้มาก ให้เขาเรียนรู้ผ่านการเล่น ยิ่งเล่นมาก ประสบการณ์ยิ่งมาก การจดจำความสุขในรูปแบบต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านการเล่นก็ยิ่งมาก ทำให้เขาสามารถค้นหาตัวตนได้ดีขึ้นในวัยถัดไป

วัยเด็กโต เด็กๆจะเริ่มมีความชอบส่วนตัว ความสนใจที่แตกต่างกัน กระทั่งความถนัดต่างๆ ที่สั่งสมมาจากการเล่นในวัยก่อนหน้า บางคนชอบคิดวางแผน บางคนชอบลงมือทำ ไม่มีแบบไหนดีกว่ากัน เพราะผู้คนแตกต่างกัน เราถึงได้ทำหน้าที่ที่ต่างกันออกไปในแบบของตัวเอง

วัยรุ่น วัยแห่งพลัง ที่ต้องปีกกล้า ขาแข็ง ในรูปแบบของตัวเอง เพื่อสร้างความพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก เขาจะลองผิดลองถูก เพื่อพัฒนาตัวตนและความสามารถในแบบของตัวเอง เพราะโดยธรรมชาติแล้ว อีกไม่นานเขาต้องออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ไปตามเส้นทางของตัวเอง เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเขาไปตลอด ความหมายคือ เขาจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป สิ่งหนึ่งที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ของวัยรุ่นกับพ่อแม่ไว้ได้นั้น คือความรักความอบอุ่นที่พ่อแม่ได้มอบไว้ให้ลูกตั้งแต่วัยก่อนหน้านี้ สิ่งนี้จะทำให้เขารักและเห็นคุณค่าของตัวเอง เขาจะคิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะเดินไปผิดทาง

ไม่ว่าจะทำโฮมสคูล หรือไม่ทำโฮมสคูลนั้น จริงๆแล้วยังไม่ใช่จุดสำคัญหลัก แต่ที่สำคัญคือพ่อแม่ได้มีเวลาให้กับลูกในแต่ละช่วงวัยหรือไม่ ได้เอาใจใส่เขาเพียงพอหรือไม่ ถ้าเพียงพอก็คงไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะส่งลูกไปโรงเรียนหรือทำโฮมสคูล แต่ส่วนมากการส่งลูกไปโรงเรียน ทำให้เวลาใน 1 วันสำหรับครอบครัวนั้นเหลือน้อยมากจริงๆ 

ทั้งยังสภาพแวดล้อมที่อยู่เหนือการควบคุม สำหรับในวัยที่ลูกยังเด็ก สภาพแวดล้อมนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมตัวตนของมนุษย์คนนึงขึ้นมา การส่งลูกไปโรงเรียนเหมือนการทอยลูกเต๋า ว่าสภาพแวดล้อมจะหล่อหลอมเด็กคนนึงให้ไปในทิศทางใด ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะคะ แต่หมายถึงว่าปัจจัยตรงนี้อยู่เหนือการควบคุมของพ่อแม่ เหมือนกับทอยลูกเต๋า มันอาจจะดีหรือไม่ดี เราควบคุมไม่ได้

บางคนอาจจะคิดว่าการปกป้องลูกทุกอย่าง เหมือนไข่ในหิน จะทำให้ลูกไม่แข็งแกร่ง แต่ส่วนตัวเรามองว่า วัยเด็กไม่ใช่วัยที่จะต้องเผชิญความโหดร้ายเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง แต่เป็นวัยที่พ่อแม่ต้องสร้างมาตรฐานของชีวิตให้กับลูก พ่อแม่เป็นส่วนสำคัญที่ต้องปกป้องและให้ความปลอดภัยในวันที่ลูกยังเด็ก การสร้างมาตรฐานให้ลูก ทำให้ลูกรู้ว่า ความปลอดภัยนั้นดีอย่างไร ความมีอิสระนั้นมีค่าแค่ไหน และการตัดสินใจในสิ่งที่ต่างออกไปจากผู้อื่นไม่ใช่เรื่องที่ผิด 

พอเขามีมาตรฐานชีวิตที่เป็นอิสระ มีทัศนคติที่ไม่ถูกตีกรอบ สิ่งนี้จะเป็นมาตรฐานของชีวิตเขา วันหนึ่ง เมื่อเขาไปเจอกับสิ่งที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาเคยโตมา เขาจะตั้งคำถามกับสิ่งนั้น เขาจะหลีกเลี่ยงมัน เขาจะไม่ทำอะไรเพียงเพราะผู้คนทำตามๆกัน 

ไม่ได้ว่าการไปโรงเรียนเลวร้ายหรือไม่ดีนะคะ แต่ถ้าเลือกได้เราก็ไม่อยากทอยลูกเต๋า และวัยสำหรับการหล่อหลอม ก็คือวัยเด็ก วัยที่เล่นอะไรก็สนุกที่สุด วัยโลกทั้งใบยังเป็นmagic วัยที่กำลังต้องการพ่อแม่มากที่สุด มันมีแค่ไม่กี่ปี และหลังจากนั้น แม้เราจะอยากให้เขาอยู่กับเรามากแค่ไหน เขาก็จะต้องออกไปจากอ้อมอกเราอยู่ดี


nostr:note16pr8rraxrr8ya2fkdrtrzpk4296g27899ar3l076m2cymv8y7dgqlclgzk  
 ชอบคำนี้มากเลยค่ะ “เค้าจะหยิบตัวตนของตัวเองมาสร้างคุณค่าได้เอง” 

เป็นคำตอบของคำถามว่า ถ้าไม่มีวุฒิ แล้วโตไปลูกจะทำงานอะไร ในมุมของเราที่มองว่างานต้องสอดคล้องกับชีวิต ไม่อยากให้งานเป็นสิ่งที่ต้องทนทำเพื่อให้ได้เงิน ลูกจะทำงานอะไรในอนาคต พ่อแม่ก็ไม่สามารถตอบได้หรอก เพราะเอาจริงๆก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าในอนาคตจะมีงานแบบไหนให้ทำ หรืองานแบบไหนที่จะหายไป 

แต่ตัวตนของตัวเองที่สร้างคุณค่าอะไรบางสิ่งขึ้นมา จริงๆนั่นก็คืองาน มันก็จะมีใครบางคนที่ชื่นชอบหรือต้องการในคุณค่านั้น และเขาจะเอาอะไรสักอย่างที่เป็นคุณค่าที่ได้จากงานของเขา พวกเขาจะเอามันมาแลกกัน

คิดอยู่นานว่าจะสื่อความหมายนี้ออกมายังไงดี แต่ก็คิดไม่ออก ขอบคุณคุณโบว์มากค่ะ กระจ่างเลย 
 แอบปลื้มใจ ขอบคุณค่ะ ☺️🙏🏻 
 ปีนี้มีเด็กเกิดใหม่ประมาณ500,000คน ใน... 
 การเลี้ยงลูก หรือการกระตุ้นความใฝ่รู้ให้เด็กๆ หลักจิตวิทยานั้นสำคัญมาก นับเป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง

ในวัยเด็กเล็ก ให้เด็กเล่นให้มาก ให้เขาเรียนรู้ผ่านการเล่น ยิ่งเล่นมาก ประสบการณ์ยิ่งมาก การจดจำความสุขในรูปแบบต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านการเล่นก็ยิ่งมาก ทำให้เขาสามารถค้นหาตัวตนได้ดีขึ้นในวัยถัดไป

วัยเด็กโต เด็กๆจะเริ่มมีความชอบส่วนตัว ความสนใจที่แตกต่างกัน กระทั่งความถนัดต่างๆ ที่สั่งสมมาจากการเล่นในวัยก่อนหน้า บางคนชอบคิดวางแผน บางคนชอบลงมือทำ ไม่มีแบบไหนดีกว่ากัน เพราะผู้คนแตกต่างกัน เราถึงได้ทำหน้าที่ที่ต่างกันออกไปในแบบของตัวเอง

วัยรุ่น วัยแห่งพลัง ที่ต้องปีกกล้า ขาแข็ง ในรูปแบบของตัวเอง เพื่อสร้างความพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก เขาจะลองผิดลองถูก เพื่อพัฒนาตัวตนและความสามารถในแบบของตัวเอง เพราะโดยธรรมชาติแล้ว อีกไม่นานเขาต้องออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ไปตามเส้นทางของตัวเอง เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเขาไปตลอด ความหมายคือ เขาจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป สิ่งหนึ่งที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ของวัยรุ่นกับพ่อแม่ไว้ได้นั้น คือความรักความอบอุ่นที่พ่อแม่ได้มอบไว้ให้ลูกตั้งแต่วัยก่อนหน้านี้ สิ่งนี้จะทำให้เขารักและเห็นคุณค่าของตัวเอง เขาจะคิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะเดินไปผิดทาง

ไม่ว่าจะทำโฮมสคูล หรือไม่ทำโฮมสคูลนั้น จริงๆแล้วยังไม่ใช่จุดสำคัญหลัก แต่ที่สำคัญคือพ่อแม่ได้มีเวลาให้กับลูกในแต่ละช่วงวัยหรือไม่ ได้เอาใจใส่เขาเพียงพอหรือไม่ ถ้าเพียงพอก็คงไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะส่งลูกไปโรงเรียนหรือทำโฮมสคูล แต่ส่วนมากการส่งลูกไปโรงเรียน ทำให้เวลาใน 1 วันสำหรับครอบครัวนั้นเหลือน้อยมากจริงๆ 

ทั้งยังสภาพแวดล้อมที่อยู่เหนือการควบคุม สำหรับในวัยที่ลูกยังเด็ก สภาพแวดล้อมนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมตัวตนของมนุษย์คนนึงขึ้นมา การส่งลูกไปโรงเรียนเหมือนการทอยลูกเต๋า ว่าสภาพแวดล้อมจะหล่อหลอมเด็กคนนึงให้ไปในทิศทางใด ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะคะ แต่หมายถึงว่าปัจจัยตรงนี้อยู่เหนือการควบคุมของพ่อแม่ เหมือนกับทอยลูกเต๋า มันอาจจะดีหรือไม่ดี เราควบคุมไม่ได้

บางคนอาจจะคิดว่าการปกป้องลูกทุกอย่าง เหมือนไข่ในหิน จะทำให้ลูกไม่แข็งแกร่ง แต่ส่วนตัวเรามองว่า วัยเด็กไม่ใช่วัยที่จะต้องเผชิญความโหดร้ายเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง แต่เป็นวัยที่พ่อแม่ต้องสร้างมาตรฐานของชีวิตให้กับลูก พ่อแม่เป็นส่วนสำคัญที่ต้องปกป้องและให้ความปลอดภัยในวันที่ลูกยังเด็ก การสร้างมาตรฐานให้ลูก ทำให้ลูกรู้ว่า ความปลอดภัยนั้นดีอย่างไร ความมีอิสระนั้นมีค่าแค่ไหน และการตัดสินใจในสิ่งที่ต่างออกไปจากผู้อื่นไม่ใช่เรื่องที่ผิด 

พอเขามีมาตรฐานชีวิตที่เป็นอิสระ มีทัศนคติที่ไม่ถูกตีกรอบ สิ่งนี้จะเป็นมาตรฐานของชีวิตเขา วันหนึ่ง เมื่อเขาไปเจอกับสิ่งที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาเคยโตมา เขาจะตั้งคำถามกับสิ่งนั้น เขาจะหลีกเลี่ยงมัน เขาจะไม่ทำอะไรเพียงเพราะผู้คนทำตามๆกัน 

ไม่ได้ว่าการไปโรงเรียนเลวร้ายหรือไม่ดีนะคะ แต่ถ้าเลือกได้เราก็ไม่อยากทอยลูกเต๋า และวัยสำหรับการหล่อหลอม ก็คือวัยเด็ก วัยที่เล่นอะไรก็สนุกที่สุด วัยโลกทั้งใบยังเป็นmagic วัยที่กำลังต้องการพ่อแม่มากที่สุด มันมีแค่ไม่กี่ปี และหลังจากนั้น แม้เราจะอยากให้เขาอยู่กับเรามากแค่ไหน เขาก็จะต้องออกไปจากอ้อมอกเราอยู่ดี


nostr:note16pr8rraxrr8ya2fkdrtrzpk4296g27899ar3l076m2cymv8y7dgqlclgzk  
 ในขณะที่ทุกคนโชว์เนื้อฉ่ำๆ แต่ของเรา ลูกเดินมาบอก แม่ อยากกินพิซซ่า 😂 แม่จัดให้ชีสจุกๆ 

#siamstr

https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9325331471055878501698247990.webp  
 นั่นสิคะ 55 
 เมื่อสงครามโลกปี87

          จังหวัดพระนคร2487 สงครามโลก2 เพิ่มความรุนแรงขึ้น เครื่องบินมาโจมตียิงทิ้งลูกระเบิด สถานที่ถูกทำลายคนตายน่าอนาจสัญญาณหลบภัยลั่นใจสั่นทุกที
     ผมอยู่กับพ่อ ปทุมวัน. สถานที่หลายแห่งมีทหารญี่ปุ่นอยู่ มีหลุมหลบภัยสาธารณะอยู่ทั่วไป พ่อสร้างหลุมหลบภัยไว้ใต้ถุนบ้าน. เครื่องบินมายิงทิ้งระเบิดทั้งกลางวันกลางคืนระเบิดลงสะพานพระรามหกพัง ลงสถานีรถไฟบางกอกน้อยพัง  ลงสถานีรถไฟหัวลำโพงพลาดไปวัดไตรมิตร ลงที่อื่นหลายแห่งพังทะลาย คนตายมากขึ้นต้องปิดรร. ที่ทำงานร้านค้า ประชาชนอบพยบหลบหนีออกจากพระนครมากมายเกือบจะเป็นเมืองร้าง 
      พ่อให้พี่สมพรพาน้องๆหลบไปอยู่กับแม่ที่บ้านบางใหญ่  สินค้ามีราคาแพงมาก บ้างก็ไม่มีขาย. ต้องขายปันส่วนจำกัดจำนวน ไม้ขีดไฟไม่มีขาย ผมทำ”ชุดจุดไฟโบราณ”ใช้. พี่สมพรเอาผมเข้าเรียน  รร.ศรีบุณญานนท์  ชุดนร.ยุวชนไม่มี ผ้าสีเขียวก็ไม่มีขาย แม่เอาถุงแป้งผ้าดิบย้อมใบแค ตัดเย็บให้ไปรร. ต้องตื่นก่อนตี5หุงข้าวด้วยหม้อดินเผาเตาไฟฟืนเชิงกราน ใส่ปิ่นโตไปกิน 3 มื้อ
(เรือจ้างแจวมารับ6โมงเช้า) วันหยุดลงคลองหาปลาหากุ้งไว้ทำกับข้าวต้องช่วยตัวเองไม่มีใครทำให้ เลี้ยงเป็ดเอาไว้กินไข่เลี้ยงหมูเอาไว้ขายหาเงินใช้. 
       เครื่องบินบินไปโจมตีพระนครเห็นได้ชัด  ลี้ภัยมาอยู่บางใหญ่ ญี่ปุ่นโดนระเบิดปรมานู2ลูกยอมแพ้.สงครามยุติ. พี่สมพรพาผมและน้องๆกลับพระนคร
     สถานที่หลายแห่ง มีทหารฝรั่งอยู่(ทหารสหประชาชาติ) เมืองที่เกือบจะร้างเงียบเหงา
เริ่มคึกครื้น มีสินค้าของเหลือใช้หลังสงครามขายข้างถนนราคาถูกมาก ผมยังใส่กางเกง
เวสปอยต์เลย
                                                                
                                                ทิดส่ง

#siamstr #บันทึกคุณปู่ 
 อนาคตอาจจะต้องเขียนถึงอดีตแบบว่า เมื่อครั้งที่โลกยังมีเงินเฟียต 😅