Oddbean new post about | logout
 ผมฟังแล้วสนุกมากๆครับ แล้วถ้าไม่ใช้ยาสีฟันแล้ว เราควรใช้อะไรอย่างอื่นแทนหรอครับ เฮียทีคำแนะนำไหมครับ 
 ยาสีฟันเลือกจากสมุนไพรก็ได้ครับ ถ้ายังอยากใช้อยู่ แต่พลิกดูฉลากก่อน แต่เอาจริงๆแล้ว ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกก็ได้ครับ ที่้เป็นสกัดเย็น

 เราเรียกว่า oil pulling ใช้น้ำมันสัก 1-2 ช้อนโต๊ะ (ช้อนโต๊ะที่อเมริกันใช้ตวงเบเกอรี่) กลั้วในช่องปากให้ทั่วทุกซี่ฟัน อาจจะสัก 10-20 นาที เชคฟิลลิ่งเอาครับ ว่าน้ำมันหนืดๆผสมกับน้ำลายเราจนได้ฟิล เจือจางเบาๆแล้ว ก็บ้วนออกได้

เราอาจรู้สึกแปลกใจว่าทำไมน้ำมันทำแบบนี่ได้ นั่นเพราะน่ำมันมะพร้าวเป็นกรดไขมันสายกลางชนิดนึงนั่นเองครับ

เอาจริงๆ oil pulling ทำความสะอาดช่องปากได้ทั่วถึงกว่าการแปรงฟันอีก เพราะการแปรงฟันทำความสะอาดได้ราวๆ 10% เท่านั้นเอง เขาจึงมีการขายน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งนั่นคือระเบิด emc ดีๆนี่เองครับ ที่บอมบ์ทุกเชื้อในปาก ดีเลวไปหมดเกลี้ยง การใช้น้ำมันวกัดเย็นธรรมชาติจะไม่รุนแรงขนาดนั้นและตัวดีๆบางตัวก็ยังหลงเหลือได้และทำประโยชน์ให้ช่องปากต่อไป

วงการแพทย์ยอมรับ oil pulling อยู่แล้วเพียงแค่ FIAT ยังพยายามหาคำขู่ออกมาใส่ไฟ เพราะตลาดน้ำยาบ้วนปาก+ยาสีฟัน มันมูลค่าสูงมาก นั่นเองครับ

#siamstr 

เอ๊ะ เม้นนี้ เอาไปเป็น note ได้เลยนะเนี่ย 5555555566 https://i.nostrimg.com/fd6bfdab12ec16cf3edb3a3d62a63d2ff0f7ca3ea432824ab66366af754fbdf0/file.jpeg https://i.nostrimg.com/fb7e3bdfff908b56c659c8f2f3ae218a9b0decb15b653fad75fe19a0ddcb1576/file.jpeg  
 ขอบคุณมากๆครับผม ได้ความรู้ดีๆเพิ่มแล้ว นึกว่าแปรงกับแค่นำ้เปล่าพอ5555 
 555 ใช้ oil pull แล้วอาจจะเลิกแปรงไปเลยก็ได้ครับ 
 Oil pulling ใช้ได้ดีเลยครับ เพียงแต่พวกน่ำมันก๊าซหรือน้ำมันพริกเผา อันนี้ไม่ดีนะครับ ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดเหมือนผม 
 555 แกสโซฮอล ก็ไม่ควรครับ มีแอลกอฮอลล์ผสม 
 ขอบคุณครับ อ่านจบผมนี่รีบไป เอาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่แม่ให้ไว้ทาหน้า มาลองบ้วนเลย และผมก็ยังไม่แปรงฟันตอนเช้าพอดี 55555 
 55555 
 20นาทีเลยหรอ 
 ถ้าไม่สะดวกไม่ต้องถึงก็ได้ครับ เชคฟิลตัวเองว่าโอเคไหม ตัวเลขก็เป็นแค่ค่าเฉลี่ยแนะนำแหละครับ จริงๆข้อแนะนำต่างๆมันก็จะกลับไป depend on something ของแต่ละคนอยู่ดี ค่อยๆขยับและเช็คตัวเองเอาได้เลยครับ เช่นไดเอทที่เรากินไม่เอื้อสภาพแวดล้อมให้แบคทีเรียบางตัวเจริญพันธุ์จนทำให้เกิดผลเสีย เราก็อาจใช้เวลาน้อยลงก็ได้ครับ ไม่มีอะไรที่ one size fit all อยู่แล้วครับ 
 เคยใช้ยาสีฟันสมุนไพรไปนานๆ แล้ว เกิดเสียวฟัน เลยเดาว่า เพราะไม่มีฟลูออไรด์ พอกลับไปใช้คอลเกต ก็ไม่เสียวฟันอีก ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ 
 ถ้าเราลองมองในอีกมุมนึงคิดว่าเป็นอย่างไรครับ
- ฟลูออไรด์ เป็นสารเคมีที่มาเกาะฟัน เคลือบฟันเอาไว้ ทำให้ไม่เสียวฟันเนื่องจาก แบคทีเรียไม่สามารถเจาะฟันเราเข้ามาได้มาก
- สมุนไพร ไม่มีสารเคมี มีแต่ somthing ที่บดรวมกันเป็นลักษณะคล้ายๆน้ำพริก เอามาถูๆกับฟันให้ความรู้สึกสดชื่น ฤทธิ์บางอย่างในพืชมีการขจัดแบคทีเรียได้บ้าง (คล้ายคุณสมบัติการรักษาแผล)

แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ ไม่มีตัวไหนที่รักษาสาเหตุของการเสียวฟัน การเสียวฟันเกิดจาก 
- เคลือบฟันสึกกร่อน จากการแปรงฟันบ่อยไป
-เหงือกร่น จากการแปรงฟันบ่อยไป/แปรงแรงแปรงวิธีไม่เหมาะสม หรือ เกิดโรคเหงือก (เกิดการอักเสบ --> สาเหตุของการอักเสบ ก็คือน้ำตาล ไม่ว่าจะทำให้ร่างกายอักเสบหรือการสะสมจนเป็นอาหารแบคทีเรียตัวเลวในช่องปาก) 
-ดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรด ทำให้กัดกร่อนเคลือบฟัน เช่น acv ที่นิยมกัน มีการใช้หลอดดูดให้ผ่านช่องปากไปแบบที่ควรทำไหม หรือ ยกแก้วกลั้วไปทั่วปากเลย ถ้าแบบหลังก็ซวยหน่อย รีบปรับ
-กรดไหลย้อน ตอนขย้อนออกมา กรดจะมากัดเคลือบฟัน และสาเหตุของกรดไหลย้อนคือ การกินคาร์บสูงเกินไป จนเป็นเมทาบอลิก ซินโดรม
-ฟันแตกฟันร้าว อันนี้มันต้องรักษาอยู่แล้ว

ดังนั้น เปรียบเสมือนคุณเป็นนักฟุตบอลบาดเจ็บ คุณจะออกมารักษาอาการบาดเจ็บ หรือ คุณจะเลือกฉีดยาชาไปตลอดชีวิต ? 
เพราะยาชามันทำให้คุณไม่เจ็บปวด และเมื่อไหร่ที่คุณหยุดฉีด มันก็เจ็บเพราะหมดฤทธิ์ยา 
แล้วเราจะบอกว่า เนี่ยพอไม่ฉีดยาชา มันก็กลับมาเจ็บใหม่ ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุและเป็นผลกัน ใช่ไหมครับ 

สรุปคือ ฟลูออไรด์ไม่ใช่การรักษาอาการเสียวฟัน และ สมุนไพร ก็ไม่ใช่ตัวที่ทำให้คุณเสียวฟัน ถ้าเรากลับมามองในมุมของ สาเหตุ และ ผลลัพธ์ ครับ ถ้าต้องการที่จะไม่เสียวฟัน ก็ต้องกลับมาแก้ไข แก้งาน ที่สาเหตุแห่งการเสียวฟัน นั่นเอง  

#siamstr  
 หาสาเหตุของปัญหา แล้วแก้ให้มันตรงจุด :)

ปัญหาที่อยู่ตรงหน้า อย่าให้ใครมาทำให้เราหันมองไปทางอื่น..
nostr:note1rdh9htk7f3hvlkt8aghfn7lkqvuyxs4gyte3hvq7symk78cdsyjs5ach03