Oddbean new post about | logout

Notes by 33bf775c | export

 Bitcoin will fulfill its purpose completely when one day, workers worldwide declare, “We will no longer accept fiat money; our wages must be in Bitcoin only”
#bitcoin #nostr #btc 
 “Bitcoin is a tool affirming the ideal that human physical and intellectual efforts are not relative but absolute, enduring over time and not subject to erosion merely for the preservation of status for a select few. Those who seek to use Bitcoin with minimal effort for enormous returns will ultimately pay the price in painful ways.”
#Bitcoin #nostr #btc 
 It’s sad that the price of Bitcoin depends on politicians’ promises

#bitcoin #nostr 
 The United States has created a more evil and terrifying demon than the original one in the Middle East already 
#nostr 
 This US election is a battle between an unpredictable agitator and a murderer disguised as a good person, with hands stained with the blood of innocent people in the Middle East and the Ukraine war

#nostr 
 Tinea Cruris is the clear result of the brutality of tropical capitalism

#btc #bitcoin #siamstr #nostr 
 If you buy Bitcoin expecting it to perform like stocks, you have absolutely no understanding of it
#bitcoin #BTC 
 Trump is a provocateur and untrustworthy in the world of Bitcoin

#Bitcoin #BTC #nostr 
 Capitalism, Surplus value, Inflation and Bitcoin

The highlight of the capitalist system, and what Marx heavily criticized, is the exploitation of labor.

The question is, how is labor exploited? Coercion by force or authority alone is neither sustainable nor safe, as it risks mass resistance, which would ultimately harm the capitalists themselves.

This brings us to the concept of surplus value. Imagine producing a single product. The price of that product consists of two components: one, the initial capital or raw materials, and two, the wages paid to the laborers. The tension in the capitalist system arises not from these two components, but from the introduction of a third component: surplus value, commonly known as profit.

Marx warned that surplus value would lead to laborers becoming alienated from the products they produce. The labor they invest (or income) in creating the product ultimately does not allow them to purchase that product with their wages because the price includes this surplus value.

This leads to Marx's prediction that this tension would cause the working masses to "suffer" from a production system where prices are artificially inflated by surplus value, beyond what labor can reasonably accept.

The suffering results from wages (in the form of currency) being insufficient to purchase the products created by their own labor, as each step in the production process compounds the surplus value. Imagine workers receiving banknotes or coins that buy less and less over time.

However, the problem wouldn't be so severe if the currency in circulation was limited. If the money workers receive remained constant in value, it would act like a limited resource, and prices would not decrease over time. Workers would not struggle if their wages retained their value.

But capitalism does not allow this. If currency had stable value, surplus value could not function effectively within capitalism, as people would use their money only for fairly priced goods, not inflated by capitalist greed. Ultimately, capitalism would collapse.

To avoid this, the system debases currency by continually printing more, using state power. A clear example is when the U.S. detached its currency from the gold standard. Without the need to back money with gold, which is finite, money can be printed indefinitely, leading to inflation.

Marx's prophecy that capitalism would cause ongoing worker suffering remains unresolved as states do not maintain currency value. Stable currency would undermine surplus value, a core capitalist feature.

When the state does not protect workers from exploitation, an alternative to currency is needed—something finite, state-independent, non-producible, transparent, and fair, yet easily transferable for goods and services.

Although gold meets most criteria, its physical limitations make it difficult to transfer, and it attracts corrupt state power.

This brings us to the only remaining option: Bitcoin. It is finite, immutable, transparent, fair, easily transferable, and state-resistant (if keys are kept private).

While Bitcoin could move humanity closer to Marx's ideals without needing collective resistance or rebellion, humanity has shown a tendency to oppress the majority for the unlikely hope of becoming the wealthy minority.

#Bitcoin #BTC #nostr 
 ทุนนิยม มูลค่าส่วนเกิน เงินเฟ้อ และบิทคอย

จุดเด่นของระบบทุนนิยมและเป็นจุดที่มาร์กซ์โจมตีหนักมากคือการขูดรีดแรงงาน 

ถามว่าแรงงานถูกขูดรีดผ่านช่องทางไหนเพราะลำพังการบังคับด้วยกำลังหรืออำนาจย่อมไม่ยังยืนและยังสุ่มเสี่ยงต่อการถูกต่อต้านจากมวลชนจำนวนมากซึ่งสุดท้ายจะกลับมาทำร้ายนายทุนเสียเอง

นั่นจึงมาสู่ระบบของมูลค่าส่วนเกิน ซึ่งหากจะสมมุติอยากจะให้ลอกนึกภาพการผลิตสินค้าขึ้นมา 1 ชิ้น ในราคาสินค้า 1 ชิ้นจะประกอบไปด้วยคือ หนึ่งทุนตั้งต้นหรือวัตถุดิบ และสองคือค่าแรงที่ต้องจ่ายให้กับแรงงาน ปัญหาความเครียดของระบบทุนนิยมจะไม่เกิดขึ้นหากราคาของสินค้าประกอบเพียงแค่สองอย่างนี้ แต่ระบบกลับสร้างส่วนประกอบของสินค้ามาอีก 1 อย่างนั่นคือ “มูลค่าส่วนเกิน” คนทั่วไปจะรู้จักมันในความหมายคือ “กำไร”

ซึ่งมาร์กซ์ได้เตือนเราไว้แล้วว่า มูลค่าส่วนเกินนี้จะก่อให้เกิดปัญหาที่จะทำให้ แรงงานถูกทำให้แปลกแยกจากสินค้าที่ตนเองผลิต เพราะกำลังแรงงานที่ตนเองลงไป(หรือรายได้)ในสินค้าที่ตนเองผลิตสุดท้ายจะไม่สามารถกลับนำมาซื้อสินค้าที่ตนเองผลิตได้เท่าที่แรงงานที่ตนเองทุ่มลงไปเพราะมันจะมีส่วนเกินของราคาสินค้าจากตัวมูลค่าส่วนเกินนี้นี่เอง

นั่นนำมาสู่สิ่งที่มาร์กซ์ทำนายไว้ว่าความตึงเครียดนี้จะก่อให้เกิดมวลชนแรงงานที่ “ทุกข์ทน” จากระบบการผลิตที่อยู่ดีๆมีราคาของอะไรก็ไม่รู้ที่นายทุนสร้างมันขึ้นมามากเกินกว่าที่จะยอมรับได้

ความทุกข์ทนที่เกิดจากรายได้(ในรูปของเงินตรา)ที่ตนเองได้รับกลับไม่สามารถซื้อสินค้าได้ในความเป็นธรรมที่ตนเองได้ลงแรงลงไปในขั้นต้น และเมื่อกระบวนการผลิตซ้อนทับขึ้นหลายชั้นมากขึ้นเรื่อยบวกกับมูลค่าส่วนเกินที่ถูกเพิ่มเข้าทบทวีในแต่ละกระบวนการแต่ละขั้นยิ่งจะทำให้ แรงงานซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานสุดของการผลิตถูกขูดรีดขึ้นมากขึ้นเท่าทบทวี ให้ลองนึกถึงแบงค์หรือเหรียญที่แรงงานได้รับแต่กลับไปซื้อสินค้าได้ลดลงเรื่อยๆ 

แต่ปัญหามันก็จะไม่เกิดมากถ้าระบบเงินตราที่ถูกสร้างมาและแจกจ่ายออกไปในระบบมีปริมาณที่จำกัด เพราะหากเราคิดว่าถ้าเงินตราที่แรงงานได้รับมีปริมาณคงที่ในระบบมันก็จะเปรียบเสมือนกับวัตถุที่มีปริมาณจำกัด และเมื่อของที่มีปริมาณจำกัดราคาในตัวมันเองก็จะไม่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แรงงานที่ได้รับเงินตราที่ “มีค่า”ในตัวมันเองตลอดก็จะไม่อยู่ในภาวะลำบากเมื่อได้รับผลตอบแทนจากแรงงานของตน

แต่ระบบทุนนิยมไม่ยอมให้สิ่งนี้เป็นไปได้เพราะหากเงินตรามีคุณค่ามากนั่นหมายความว่า มูลค่าส่วนเกิน จะทำงานในระบบทุนนิยมไม่ได้ เพราะคนจะนำเงินตราที่มีไปใช้แต่ในกับแต่สินค้าที่ราคาเป็นธรรม ไม่ถูกสร้างมูลค่าด้วย story หรือความโลภของนายทุนที่มากเกินความจำเป็น (ในอุดมคติมันไม่ควรมีสิ่งเหล่านี้แต่ผมไม่ naïve ขนาดที่ว่ามันจะมีไม่ได้) ซึ่งสุดท้ายระบบทุนนิยมมันจะดำเนินต่อไปไม่ได้และอาจจะถึงขั้นล่มสลาย

เมื่อทุนนิยมถูกท้าทายด้วยเงินตราเสียเอง ระบบของทุนมันจึงลักไก่ด้วยวิธีการที่ง่ายและชั่วร้ายที่สุดนั้นคือทำให้เงินมันเสื่อมค่าลง ซึ่งวิธีการก็ง่ายมากและไม่ซับซ้อนนั่นคือการ “พิมพ์”มันขึ้นมาเรื่อยๆ โดยอาศัยอำนาจรัฐ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเมื่ออเมริกานำระบบการเงินออกจากมาตรฐานทองคำ นั่นคือต่อไปคุณสามารถพิมพ์เงินได้โดยไม่ต้องมีทองคำ back เอาไว้ก็ได้ 

เพราะทองคำคือวัตถุที่เราถือว่ามีจำกัดในโลกใบนี้ณ.เวลานี้ ถ้าเงินถูก back ไว้ด้วยทองคำทั้งหมดก็จะเสมือนว่าเงินมีจำกัดไปโดยปริยาย การยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำและสามารถพิมพ์เงินได้เรื่อยๆจึงนำไปสู่ปรากฏการณ์เงินสูญเสียมูลค่าไปเรื่อยๆ ในทางเศรษฐศาสตร์เราเรียกสิ่งนี้ว่า “เงินเฟ้อ”

สุดท้ายแล้วปัญหาที่มาร์กซ์ได้เคยบอกไว้ว่าระบบทุนนิยมจะทำให้แรงงานทุกข์ทนไปเรื่อยๆก็ไม่ได้รับการแก้ไขจากการพยายามคงมูลค่าของเงินได้เพราะรัฐไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เพราะการที่เงินคงมูลค่าได้จะต้องแลกมากับปัญหาซึ่งเป็นจุดเด่นและจุดอ่อนหลักของทุนนิยมนั่นคือมูลค่าส่วนเกิน

เมื่อรัฐไม่ปกป้องแรงงาน ในการแก้ปัญหาแรงงานถูกขูดรีดจากระบบจึงควรแก้ไปที่หาสิ่งที่มาแทนเงินตรา ซึ่งสิ่งนั้นจะต้องมีจำกัด ควบคุมโดยรัฐไม่ได้ ไม่สามารถผลิตเพิ่มได้ โปร่งใสและเป็นธรรม ในขณะที่ต้องมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายเพื่อชำระค่าบริการหรือสินค้าได้สะดวก

ซึ่งแม้ว่าทองคำจะมีความสามารถในเกือบทุกอย่างที่ว่าไว้แต่เนื่องด้วยขีดจำกัดด้านวัตถุและมวลสารทำให้การเคลื่อนย้ายลำบาก และที่สำคัญมันเตะตาอำนาจรัฐที่ฉ้อฉลหากมันต้องการเอาออกไปจากคุณ

นั่นมาสู่สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในโลกใบนี้ณ.เวลานี้คือ “บิทคอย” สินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัด แก้ไข้ไม่ได้ โปร่งใสตรวจสอบได้ เป็นธรรม เคลื่อนย้ายสะดวก และรัฐไม่สามารถเอาไปจากคุณได้(ถ้าคุณไม่บอก keys)

แน่นอนว่าแม้บิทคอยจะสามารถทำให้มนุษยชาติเข้าใกล้อุดมคติของมาร์กซ์โดยที่ไม่ต้องให้มวลชน “รวมตัวกัน” หรือ “ต่อต้าน”ระบบทุนนิยมเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษยชาติเองก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าพร้อมที่จะกดขี่คนส่วนมากเพียงเพื่อความหวังลมๆแล้งๆว่าสักวันตนเองจะกลายเป็นคนส่วนน้อยที่มั่งคั่งและเสพสุขจากความทุกข์ของผู้อื่น

#Bitcoin #BTC 
 ทรัมป์ซึ่งเป็นคนโกหกและโอ้อวดมาพูดเรื่องสนับสนุนบิทคอยแล้วbitcoinerก็ดีใจกันใหญ่ ตลกร้ายชัดๆ 
 ช่วงที่ดีที่สุดของหุ้นไทยคือช่วงหลังโควิดที่ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำและมันจะไม่กลับมาอีกแล้วถ้าโครงสร้างระบบเศรษฐกิจไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง

ถ้าใครตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นโลกตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดจนถึงยุคหลังโควิดจะพบว่าตลาดหุ้น shock อย่างรุนแรงช่วงที่มีการปิดประเทศก่อนที่เราจะมีวัคซีน แต่เป็นเพียงชั่วเวลาสั้นๆเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นประเทศมหาอำนาจทั้งหลายต่างพร้อมใจกัน”ปั๊ม”เงินเข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็วและรุนแรง 

ผลจากสภาพคล่องทางการเงินล้นเหลือ(ทั้งๆที่ระบบเศรษฐกิจหยุดชะงัก) ส่งผลให้เงินเหล่านั้นไหลเข้ามายังตลาดทุนทั่วโลก ตัวอย่างที่ชัดเจนมากคือคริปโตเคอเรนซี่ที่พุ่งทะยานอย่างไร้เหตุผล มีเศรษฐีหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย

แต่หลังจากนั้นผลกรรมจากการปั๊มและกู้ยืมเงินปริมาณมหาศาลก็ส่งผลให้เกิดภาวะ”เงินเฟ้อ”อย่างรุนแรง สุดท้ายเกือบทุกประเทศทั่วโลกจึงใช้มาตรการทางการเงินแบบเข้มงวดนั่นคือการแข่งกันขึ้น”ดอกเบี้ย”เพื่อหวังสยบเงินเฟ้อให้ได้

ผลลัพท์คือเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอีกรอบ ถ้าเราดูตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนั่นเกือบทุกประเทศราคาหุ้นตกลงอย่างรุนแรงอีกรอบโดยเฉพาะตลาดทุนของประเทศอภิมหาอำนาจอย่างอเมริกาและยุโรป

ประเทศไทยเป็นเพียงตลาดทุนเพียงไม่กี่ประเทศในโลกเท่านั้นที่ตลาดทุนแทบไม่ลดลงเลย นักลงทุนในประเทศแทบจะเฉลิมฉลองและคิดเข้าข้างตัวเองว่าตลาดทุนไทยนั้นแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น

แต่สภาพความเป็นจริงคือโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเราไม่ควรมี value ขนาดที่ตลาดทุนจะทนได้ทั้งๆที่ตลาดทุนทั่วโลกตกลงกันถ้วนหน้าในช่วงเวลานั้น แล้วอะไรที่ทำตลาดทุนเราดูเหมือนแข็งแรงแบบนั้น

คำตอบคือในขณะที่นักลงทุนทั่วโลกหนีตายจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ส่วนนึงเขาพยายามเคลื่อนย้ายทุนจากตลาดทุนประเทศที่มีความเสี่ยงไปยังประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจณ.เวลานั้นมากกว่า

และไทยก็เป็นคำตอบหนึ่งเพราะทุนสำรองระหว่างประเทศของเราณ.เวลานั้นสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก(ผลพวงจากวิกฤติต้มยำกุ้ง) ทำให้นักลงทุนทั่วโลกมั่นใจในตลาดทุนของเรามากกว่าประเทศที่มีทุนสำรองระหว่างประเทศต่ำ และเมื่อนักลงทุนเริ่มเห็นว่าตลาดทุนเราแข็งแรงก็ยิ่งเป็นตัวเร่งให้นักลงทุนรายอื่นๆนำเงินมา”พัก”ไว้ที่ตลาดทุนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่อย่างที่ทราบตอนนี้เงินเฟ้อทั่วโลกถูกปราบลงได้แทบจะแน่นอนแล้วและบางประเทศเริ่มมาตรการลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้เงินทุนเริ่มไหลกลับไปยังตลาดทุนประเทศเหล่านั้นเพื่อแสวงหากำไรที่มากขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมตลาดหุ้นไทยจึงสวนกระแสตลาดทุนโลกตอนนี้เพราะสถานะของการเป็นสถานที่”พัก”เงินของนักลงทุนได้สิ้นสุดลงแล้ว สังเกตได้จากกระแสการ”ขายหุ้น”ไทยของต่างชาติตลอดนับตั้งแต่ดอกเบี้ยโลกกำลังจะลดลง

นำมาสู่ข้อสรุปคือถ้าเราไม่ปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจโอกาสที่ตลาดทุนเราจะกลับไปสู่จุดช่วงดอกเบี้ยโลกขาขึ้นจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว 
 วันก่อนดูรายการหุ้นรายการหนึ่งได้ยินเซียนหุ้นเล่าระบบการเรียกค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังบางเครือว่าเขาคิดค่ารักษากับผู้ป่วยอย่างไร

ปรากฏว่าโรงพยาบาลเอกชนไม่ได้คิดค่ารักษาพยาบาลจากการคำนวนต้นทุนบวกกำไรเท่านั้นนะครับ

แต่โรงพยาบาลจะมีกระบวนการการ challenge ราคาค่าบริการขึ้นเรื่อยๆตราบใดก็ตามที่คนไข้ยังยอมจ่ายเพื่อแลกกับการบริการที่ได้รับ

ความหมายคือโรงพยาบาลสามารถขึ้นราคาค่าบริการเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆตราบใดที่กำไรสุทธิรวมยังไม่ลดลง

นี่มันคือตลาดเป็นของผู้ขายชัดเจนครับ ยิ่งกว่าตลาดเสรีอีก 
 เห็นความไร้น้ำยาของ UN ในสถานการณ์ความขัดแย้งของโลกทุกวันนี้ ก็อยากจะออกโรงปกป้องนิดนึง

คือต้องเข้าใจก่อนนะว่า UN ถูกก่อตั้งมาจุดประสงค์หลักคือปกป้องโลกจากเอเลี่ยนบุก

เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาจะมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีใครในคณะมนตรีความมั่นคงถาวรของ UN กล้าออกมาวีโต้แน่นอน 
 เมื่อวานเดินออกไปซื้อของใช้จำเป็นของนอกบ้าน

พบว่าร้านค้าริมทางปิดไปเยอะมาก ทางเท้าโล่งคนเดินหายไปอย่างน่าใจหาย

ขากลับแวะซื้อซูชิและแวะร้านตัดผมพบว่าขึ้นราคาอีกประมาณ 20% หลังตัดผมเสร็จเดินต่อเห็นป้ายหน้าร้านซักผ้าประกาศขึ้นราคา กลับมาถึงบ้านเปิดซูชิกินพบเนื้อปลาที่บางลงมากและปริมาณข้าวปั้นที่ลดลง

การค้าขายที่แย่ลงแต่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น

ภาพ stagflation ลอยมา 
 ยังยืนยันว่า LGBTQ+ ในไทยที่ถูกทำให้มีพื้นที่ในสังคมมากขึ้นไม่ใช่เพราะรัฐไทยยอมรับความหลากหลายทางเพศ

แต่เป็นเพราะ LGBTQ+ ในไทยส่วนใหญ่แม้จะเป็นเสรีนิยมในเรื่องเพศแต่ในมิติอื่นๆทางความคิดและการกระทำเป็นอนุรักษ์นิยมทั้งหมด

ซึ่งคนกลุ่มนี้นอกจากไม่เป็นพิษเป็นภัยกับระบอบอำนาจนิยมในไทยแล้วในหลายโอกาสจะกลายเป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายที่ต่อต้านกลุ่มอำนาจนอกระบบเสียเองด้วย 
 เออ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ ETH พุ่งขึ้นสวน BTC ที่ลดลงแบบชัดเจนมากๆ

หลังจากที่มีคนคิดว่า spot ETF ของ ETH กำลังจะมาแน่ๆ คนเลยแห่ขาย BTC ไปซื้อ ETH แทน

พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัวแท้ๆ 
 เออ เวลาได้ยินพวกนักลงทุนบอกว่าเวลาตัดสินใจ
ซื้อหุ้นบริษัทให้คิดว่าเหมือนซื้อบริษัทแล้วก็ตลกดี

พวกที่มีส่วนลงทุนในบริษัทนั่นคือพวกมือแรกตอนบริษัทเปิดขาย IPO โน่น เขาเอาเงินชุดนั้นไปลงทุนหมดแล้ว ไอ้ที่มึงซื้อขายต่อๆกันมานี่มโนจินตนาการกันต่อล้วนๆ บริษัทไม่สามารถเอางินซื้อของคุณหลังจากนั้นไปลงทุนได้แล้ว 

สิ่งที่คุณได้รับมันคือมูลค่าส่วนเกินที่บริษัทจ่ายให้คุณต่างหาก

และมูลค่าส่วนเกินนี่แหละที่ทำให้เกิดวิกฤติในระบบทุนนิยมเอง

เพราะฉะนั้นเวลาคุณซื้อหุ้นคุณจงภูมิใจว่าคุณกำลังเป็นส่วนหนึ่งของการเร่งการบ่อนทำลายทุนนิยมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ฝ่ายซ้ายทั่วโลกจงรวมตัวกันซื้อหุ้น 
 แผนของฝ่ายขวาจัดในอิสราเอลในยามที่พันธมิตรอย่างอเมริกาเริ่มถอยหนีและประชาชนในประเทศไม่เอาด้วยกับสงคราม

เริ่มด้วยโจมตีสถานฑูตอิหร่านเพื่อให้อิหร่านเปิดหน้าเข้าร่วมสงคราม

เมื่อสร้างศัตรูใหม่เพิ่มและศัตรูเล่นด้วยก็เป็นการสร้างความหวาดกลัวตามสไตล์ผู้นำขวาจัดให้ประชาชน การประท้วงก็จะเงียบลง และความกลัวจะเป็นข้ออ้างในการอยู่ในอำนาจของตัวเองต่อ

นอกจากนี้ยังเป็นการดึงอเมริกาไม่ให้ถอยห่างออกไปเพราะอย่างที่รู้ว่าอเมริกามองอิหร่านเป็นภัยคุกคามสำหรับตนเองขนาดไหน

และแน่นอนว่าหลังจากนี้การบุกเข้าพื้นที่สุดท้ายของฉนวนกาซาที่มีประชาชนรวมผู้หญิงและเด็กเป็นล้านก็อาจจะเกิดขึ้นถ้าแรงต้านจากอเมริกาและประชาชนของตัวเองหมดลง จะมีการสูญเสียระดับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นถ้าสถานการณ์รอบนี้จุดติด

นี่เป็นความโหดเหี้ยมที่น่ารังเกียจของฝ่ายขวาจัดที่นำโดยเนทันยาฮูของอิสราเอล

และเป็นธาตุแท้นิสัยเดิมของยิวที่เจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัวอย่างมาก 
 เออ ผมว่าข้อโต้แย้งที่ว่าเราเป็นประเทศที่มีปัญหาชายเป็นใหญ่จริงๆหรือเปล่าคือปรากฏการณ์”เมียฝรั่ง”ว่ะ

คงไม่มีใครเถียงว่าฝรั่งเนี่ย”ชายเป็นใหญ่”แน่ๆ แต่ถ้าขนาดคนกลุ่มนี้ยังสามารถถูกผู้หญิงไทย”กำราบ”จนมีการแนะนำกันต่อเป็นทอดๆในหมู่ผู้หญิงว่าหาผัวฝรั่งดีกว่าอยู่กับผู้ชายไทยเนี่ย คิดดูสิว่าขนาดอำนาจในสังคมชายเป็นใหญ่จริงๆแบบนี้ฝ่ายหญิงเรายังกล้าลงไปเล่น ระดับของเรามันจะขนาดไหน

คำอธิบายแบบฝ่ายซ้ายคือผู้ชายจำนวนมากของเราถูก”ขูดรีด”จากผู้หญิงไทยจนมันไม่เหลืออะไรให้เขาอีกแล้ว

และแน่นอนว่าเมื่อ”นายทุน”กอบโกย”มูลค่าส่วนเกินจากพื้นที่หนึ่งจนหมดแล้ว ก็ต้องย้ายไปกอบโกยที่อื่นที่ประเมินแล้ว”คุ้มค่า”กว่าที่เดิม แม้ว่าอาจจะลำบากกว่าที่เก่าก็ตาม

สรุปสั้นๆคือจากปรากฏการณ์นี้ผู้หญิงของเรายังอาจจะมีอำนาจที่เหนือกว่าผู้ชายในประเทศที่เป็นสังคมชายเป็นใหญ่จริงๆด้วยซ้ำ

และผู้ชายไทยน่าจะอยู่ในจุดเกือบต่ำสุดในห่วงโซ่อาหารของโลกด้วย 
 ประเทศเราเลี้ยงเด็กมากลุ่มนึง ปรนเปรอเขาทุกอย่าง ทุกๆการกระทำไม่เคยมีความผิด เวลาเด็กกลุ่มนี้ไปแกล้งคนอื่นก็ให้ท้ายปรบมือสนับสนุน เวลาได้เอกสิทธิ์เหนือคนอื่นในที่สาธารณะแล้วถูกซุบซิบนินทาพวกเราก็รีบแจ้นออกมาโอ๋ออกมาปลอบเด็ก ร้ายกว่านั้นคือไปลงโทษคนนินทาให้เด็กมันหัวเราะชอบใจเพื่อเอาอกเอาใจเพราะตัวเองหวังจะได้ประโยชน์จากอภิสิทธิ์ของเด็กกลุ่มนี้

ถามแบบง่ายๆแบบคนที่เคยเห็นตัวอย่างเด็กในสิ่งแวดล้อมแบบนี้เลยว่าคุณคิดว่าเด็กกลุ่มนี้จะโตมาเป็นคนประเภทไหน จิตใจแบบใด และจะอยู่ร่วมกับคนในสังคมส่วนใหญ่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยได้ยังไง

เพราะเด็กกลุ่มนี้จะโตมาแบบไม่รู้จักโต ขี้น้อยใจ เจ้าคิดเจ้าแค้นเวลารู้ว่ามีคนที่ไม่ชอบตัวเองและหาทางแก้แค้นด้วยวิธีการที่เจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมแบบที่คนเลี้ยงมาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่มีสำนึกของสิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรม เด็กกลุ่มนี้ถ้าโตเป็นผู้ใหญ่และไม่มีคนดูแลในช่วงอายุที่ถ้าเป็นคนปกติต้องยืดอกรับผิดชอบการกระทำด้วยตัวเองได้แล้วสุดท้ายก็จะทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็นจนเป็นภาระสังคมไปจนตาย 
 ตอนนี้มีต้วอย่างวิธีการจัดการของฝ่ายขวาจัดที่ใช้จัดการต่อศัตรูฝ่ายตรงข้ามที่น่าสนใจมาก 2แบบ

ถ้ามีอาวุธและทรัพยากรที่เหนือกว่าให้ไปดูการกระทำของอิสราเอล

แต่ถ้าทรัพยากรและอาวุธด้อยกว่าให้ไปดูการกระทำของยูเครน 
 เห็น bitcoiner ชอบบอกว่าเงิน fiat มีปัญหาเพราะมันเสื่อมค่าลงและถูกควบคุมโดยรัฐบาลได้แต่กลับมองว่าทุนนิยมควรเสรีไม่ถูกแทรกแซงโดยใครทัั้งนั้นแล้วก็รู้สึกว่าพวกนี้สับสนและไม่เข้าใจแก่นของระบบทุนนิยมเลย

สาเหตุหลักที่เงิน fiat มันเสื่อมค่าลงและรัฐบาลต้องคอยควบคุมมาตลอดเพราะจุดอ่อน(และจุดเด่นที่สุดในเวลาเดียวกัน) ที่สำคัญที่สุดของทุนนิยมเสรีมันคือ “มูลค่าส่วนเกิน” ที่ระบบสร้างขึ้นมาจนทำให้ตัวกลางที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนคือเงิน fiat มันจำต้องถูกทำให้เสื่อมมูลค่าลง สุดท้ายการเพิ่มปริมาณ(หรือพิมพ์เงินเพิ่ม)โดยรัฐเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อจุดอ่อนของระบบทุนนิยม(หรือภาษาฝ่ายซ้ายคือการขูดรีดแรงงาน)จะไม่ถูกทำให้สั่นคลอนตัวระบบเสียเอง แต่ทั้งนี้แลกกับการที่ตัวกลางหรือเงิน fiat มันต้องเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ


คนกลุ่มนี้มี”ของดี”ที่ด้วยระบบการสร้างสามารถคงมูลค่า ไม่ถูกควบคุมจากรัฐ และทำลายไม่ได้ แต่กลับให้เหตุผลของการมีอยู่ของมันผิดไปหมด 
 Hi

#introductions 
 Hi

#introductions 
 Hi

#introductions 
 Hi

#introductions 
 Hi

#introductions