Oddbean new post about | logout

Notes by 3f90b376 | export

 When fun meets work hard, it would be a good to come back ✌🏻 
 I'm standing at the center of the vortex. 
 โชคดี คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ ความพร้อม มาเจอกับ โอกาส 
 ถ้าไม่เสียโง่ ก็คงจะไม่ฉลาด
ถ้าไม่ผิดพลาด ก็คงไม่คิดแก้ไข
ถ้าไม่เจ็บช้ำ ก็คงไม่จำใส่ใจ
ถ้าไม่ยากไร้ ก็คงไม่รู้จักใจคน 
 พูดให้ฟังดังแค่หู ทำให้รู้ถึงใจ 
 ล้ำกว่าความฉลาด คือ รู้เท่าทันการวางตัว
…..
ตามจิตวิทยาของซิกมันด์ ฟลอยด์ นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย
-ความอิจฉาริษยานั้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์
.
-ความอิจฉาเป็นแรงขับทางสัญชาตญาณของมนุษย์มาช้านาน ที่จะทำให้มนุษย์มีแรงขับทางด้านการต่อสู้ เอาชนะ ช่วงชิง แข่งขันและทะเลาะเบาะแว้ง
.....
ด้วยเหตุนี้โลกมนุษย์จึงมีสงครามเสมอๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า,จิตวิทยา,การเมือง หรือแม้กระทั่งสงครามที่หลั่งเหลือด
.
หรือแม้แต่สุภาษิตไทยที่ว่าไว้
"ทำดีได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย"
.
นั่นเพราะว่ามนุษย์เรานั้นไม่ต้องการเห็นใครเด่นเกินหน้าเกินตาตน เพราะเกิดจากแรงอิจฉาริษยา
.
ตัวอย่างมีให้เห็นชัดๆจาก โจโฉช่วงสร้างตัวที่ถูกบรรดาขุนนางเก่าๆและฮ่องเต้ แทงหลังตลอด
…..
เมื่อโจโฉนั้นรับเอาฮ่องเต้มาอยู่ด้วยที่เมืองหลวง ในขณะที่บรรดาหัวเมืองอื่นๆได้แต่อิจฉาโจโฉ
…..
โจโฉนั้นงำประกาย
เดินเกมเงียบ อ่อนนอกแข็งใน
ปฏิบัติต่อองค์ฮ่องเต้เป็นอย่างดีต่างจากคนอื่นอาทิ
.
ตั๋งโต๊ะ ปลดฮ่องเต้องค์เดิม แต่ตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่
อ้วนเสี้ยว คิดตั้งขุนนางแซ่เล่าเป็นฮ่องเต้ซ้อน
อ้วนสุด แต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้สะเลย
.
หากแต่โจโฉนั้น "เชิดชูฮ่องต้ บัญชาเหล่าขุนนางทั่วหล้า"
…..
อยู่ไปอยู่มา บรรดาขุนนางในเมืองหลวง อาทิเช่น ตังสิน พี่เขยฮ่องเต้ได้ยุให้ฮ่องเต้กำจัดโจโฉสะงั้น ทั้งที่โจโฉก็ดูแลฮ่องเต้เป็นอย่างดี
.
ทำไมฮ่องเต้ถึงคิดกำจัดโจโฉละ ประเด็นนี้น่าสนใจ
.
น่าสนใจ 1 แน่นอนว่า บรรดาขุนนางเก่าโดยมีตังสินเป็นแกนนำ ที่ต่อมาก็มีเล่าปี่,ม้าเท้งก็ไม่พอใจโจโฉ ที่เด่นเกินหน้าเกินตาตน
.
น่าสนใจ 2 แน่นอนว่า ตัวฮ่องเต้เองนั่นแหละที่ต้องการเป็น no.1 และไม่ต้องการเห็นโจโฉเด่นเกินหน้าเกินตาตน
.
แต่คนแบบโจโฉนะเหรอจะกลัว เรื่องพวกนี้
เขาย่อมรู้ทันและหาทางหนีทีไล่ไว้หมดแล้ว
…..
อ้างอิงงานทดลองของ Dr.simon G. Shamay-Tsoory แห่ง University of Haifa เมื่อมนุษย์เราเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ *****จับคลื่นความถี่ภายในสมองเบื้องลึกๆของมนุษย์ทุกคนจะรู้สึกอิจฉาไม่ว่าน้อยหรือว่ามากแล้วแต่บุคคล
.
หากแต่ใช่ว่าความอิจฉานั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะมันเป็นปัจจัยกระตุ้นให้มนุษย์เราพัฒนาตนเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม และถ้าจะดีกว่านั้นถ้าเราดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
(หากแต่ความจริง หาใช่เช่นนั้นเสมอไปไม่)
…..
จะดีกว่านั้นไหมที่ เราทำดีได้ แต่เอาที่พอประมาณ
หากว่า เด่นเกินหน้าเดินตาเจ้านายอะ
ในประวัติศาสตร์ก็มีจุดจบไม่สวยมาหลายๆคน ประเด็นนี้น่าสนใจ
.
น่าสนใจ 1 ไม่มีเจ้านายคนไหนที่ชอบเห็นลูกน้องเด่นเกินตน เพราะเขาจะรู้สึกถูกคุกคาม,ไม่มั่นคง,อิจฉา
.
ลูกน้องที่ไม่รู้ข้อนี้ ไม่มีทางหนีทีไล่ล้วนแต่จุดจบไม่สวย อาทิเช่น โจโฉ-เอียวสิ้ว,ซุยต่ำ,โหลวกุย/ เตงงาย,จงโฮย ที่เด่นเกินหน้าเกินตาสุมาเจียว หรือแม้กระทั่ง งักฮุยเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ที่เด่นเกินหน้าฮ่องเต้ซ่งเกาจง จอมทัพที่ไม่เคยนำทัพออกรบ และอื่นๆอีกมากมายเช่น หานซิ่น-เล่าปัง,ซางยาง-อ๋องแคว้นฉินคนใหม่
.
น่าสนใจ 2 เด่นที่พอประมาณ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เช่น ตี๋เหรินเจี๋ย-ฮ่องเต้หญิงบูเช็กเทียน
.
น่าสนใจ 3 จังหวะไหนที่ควรฉายแสงต้องดูให้ดี
หากว่าเจ้านายอยู่ในจังหวะที่กำลังลงจากตำแหน่ง หรือ อยู่ในช่วงขาลงนั้น เป็นจังหวะที่ลูกน้องควรฉายแสง และเด่นเอาให้สุดไปเลย แบบที่โจโฉนั้นทำ
…..
"อย่าเด่นเกินหน้าเกินตาเจ้านาย"
ทั้ง3 ประเด็นนี้ ต้องพลิกแพลงให้ดี
.
ดังที่พิชัยยุทธ์ซุนวูว่าไว้
-ชนะไม่ได้ก็รอได้
-เบื้องบน-เบื้องล่าง ปรารถนาตรงกันจะได้รับชัยชนะ
.
หากแต่ ถ้าเบื้องบนปรารถนาไม่ตรงกับเบื้องล่างละ
ก็ต้อง
.
มากด้วยความระมัดระวัง
มากด้วยความรอบคอบ
.
ฉะนั้น"อย่าเด่นเกินหน้าเกิดตาเจ้านาย"
เพราะบางครั้งคนเรานั้น"รู้หน้า ไม่รู้ใจ"
…..
แล้วจะทำเช่นไรดีละ
.
เสนอไอเดียดีๆ แจ๋วๆได้ แต่เวลาได้หน้า ต้องให้เจ้านายได้หน้าไป
.
ภาษิตจีนโบราณว่า "ให้หน้าเขา เราได้หน้า"
…..
สังเกตไหมครับ ทำไมเวลามีงานพิธีการสำคัญๆ จึงมักจะมี พิธีกรขาประจำเสมอๆ
.
ก็เพราะว่า พิธีกรขาประจำเนี่ย เขามักจะพูดถึงแต่คุณความดี เรื่องที่ต้องขอบคุณของผู้ใหญ่และผู้ร่วมพิธีไงครับ บรรดาคนที่มาร่วมงานร่วมพิธีก็ยิ้ม ซาบซึ้งไปตามๆกัน หรือว่าใครที่ไม่ได้ฟังพิธีกรพูดเพราะมัวทานอาหารบนโต๊ะก็แล้วแต่
.
และพิธีกรเขาจะ"ไม่ทำตัวเด่นเกินกว่าเจ้าของงานหรือว่าผู้ใหญ่ในงาน" เพราะเขายึดหลัก
"ให้หน้าเขา เราได้หน้า"
…..
บทสรุป
1.มนุษย์เราเวลาเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จ ภายใต้เบื้องลึกของสมองจะรู้สึก อิจฉาทุกคน มันเป็นธรรมชาติและสัญชาตญาณของมนุษย์ ไม่มากก็น้อย หากแต่ถ้าเรายินดี(มุทิตา)ได้โดยไวก็เป็นสิ่งที่ดี และถ้าดีกว่านั้นคือ "ทำดีได้อย่าเด่นจะเป็นภัย"
.
2."อย่าเด่นเกินหน้าเกินตาเจ้านาย"
และในประวัติศาสตร์ หัวหน้ามักจะระแวงเสมอๆเวลามีลูกน้องเด่นกว่าตน ด้วยเหตุนี้เมื่อมีความชอบจึงต้องให้เจ้านายได้หน้าไป
.
โจโฉเมื่อขึ้นมามีอำนาจก็มักจะมีลูกน้องที่เด่นเกินหน้าเกินตาตนเสมอ เช่น ขงหยง,เอียวสิ้ว,และพวกนี้ก็มักจุดจบไม่สวย
.
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่อยู่เป็นจึงรู้จังหวะโคน จึงสามารถงำประกายและเอาตัวรอดมาได้ เช่น กาเซี่ยง,สุมาอี้
.
3.โจโฉ คือตัวอย่างที่ดีในการ
"อย่าเด่นเกินหน้าเกินตาเจ้านาย" เพราะนอกจากมีศึกนอกแล้ว โจโฉยังมีศึกในตลอดทั้งจากบรรดาขุนนางเก่าๆและฮ่องเต้ ที่คอยคิดแทงหลังโจโฉตลอด เขาทำเช่นไรจึงเอาตัวรอดมาได้เป็นเรื่องที่น่าศึกษา หากแต่ในชีวิตจริงคนเรานั้น อาจจะไม่ได้เป็นแบบโจโฉทุกคน
.
4."ให้หน้าเขา เราได้หน้า" และ"อย่าเด่นเกินหน้าเกินตาเจ้านาย"
.
ทำประโยชน์ให้หัวหน้า ตอบโจทย์หัวหน้า หากแต่เมื่อได้หน้าก็ให้เขาได้หน้าไป
.
ทำกำไรให้เขาชอบ แต่อย่าไปหักหน้าเขาหรือทำให้เขาขาดทุนเป็นอันขาด
.
ผู้ที่ทำได้เช่นนี้จึงช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่กันยาวๆ เช่น ตี๋เหรินเจี๋ย-ฮ่องเต้หญิงบูเช็กเทียน
.
ผู้ที่ทำตรงกันข้ามมักจะมีจุดจบไม่สวยนัก เช่น
โจโฉ-เอียวสิ้ว,ขงหยง และแม่ทัพงักฮุยเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์-ฮ่องเต้ซ่งเกาจง จอมทัพที่ไม่เคยนำทัพออกสนามรบ ,เตงงายและจงโฮย-สุมาเจียว
.
5.จังหวะที่ควรเด่นและฉายแสงสำหรับ"ท่านรอง" ก็คือ จังหวะที่เจ้านายกำลังลงจากตำแหน่ง,ขาลง
.
ภาพชัดเจน คือ โจโฉ-ฮ่องเต้เหี้ยนเต้ ,CEO ที่เจ้าของกิจการไม่ค่อยชอบ แต่มีหัวหน้าแผนกที่พร้อมเสียบ,หลี่ซื่อหมิน-หลี่เจี้ยนเฉิง
.
6.คำว่า เจ้านายในที่นี่ อาจหมายถึง หัวหน้า,รุ่นพี่ที่อาวุโสกว่า พลิกแพลงใช้ให้ดี บางครั้งต้อง"งำประกาย"ดีกว่า"ฉายแสง"
.
Cr. หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว 
 "คนฉลาดไม่ใช่แต่พูดเท่านั้น ต้องนิ่งให้เป็นด้วย คนพูดเป็นนั้นต้องรู้สิ่งที่ไม่ควรพูด ยิ่งกว่าสิ่งที่ควรพูด" 
 มีกฎง่ายๆอยู่ข้อหนึ่ง ที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์บ่งการสิ่งที่เราจะทำ คือต้องลงมือทำก่อน เพราะการเคลื่อนไหวจะเปลี่ยนความรู้สึกและอารมณ์ของเรา 
 ให้ระวังความคิด เพราะความคิดจะกลายเป็นคำพูด
ให้ระวัง คำพูดเพราะคำพูดจะกลายเป็นการกระทำ
ให้ระวังการกระทำ เพราะมันจะกลายเป็นนิสัย 
 ไม่มีชีวิตใครในโลกใบ​นี้ที่ราบรื่น​ตลอดชีวิต
ไม่​มีชีวิต​ใคร​ใน​โลก​ใบ​นี้ที่มีแต่
ความสุขตลอดชีวิต

คนที่พบปะกับคุณมีมากแต่ที่รู้ใจคุณจริงๆ
มีน้อย

คนที่พูดคุ​ยกับคุณ​มีมาก แต่ที่
ค้ำจุนคุณมีน้อย

คนที่เข้าใจคุณ​มีมาก แต่ที่เชื่อมั่นในตัวคุณ
มีน้อย

เพราะ​อย่าง​นี้.....
เจ็บเองก็รักษา​เอง​ ร้องไห้​ก็ปลอบใจ​ตัว​เอง
ไม่​มีใครเข้าใจ​ ก็เข้าใจ​ตัวเอง
ไม่มีใครช่วยเหลือ​ ก็จงเป็นผู้อุปถัมภ์​ตัวเอง

รู้ว่าเวลาไหนควรพูด​ รู้​ว่า​เวลา​ไหน​ควร​เงียบ
คือ​ ลักษณะ​หนึ่งของผู้มีปัญญา

รู้ว่าเวลาไหน​ควรทำ​ รู้ว่าเวลาไหนควรถอย
คือ​ ลักษณะ​หนึ่ง​ของ​คน​มีสติ

ของที่ดีที่สุด... วันหนึ่งก็ต้อง​สูญเสีย​มันไป

ความรู้​สึกที่ดีที่สุด.. วันหนึ่ง​ก็อาจลืมกันไป

คนที่รักที่สุด.. วันหนึ่ง​ก็​ต้อง​พรากจากกัน

ต่อให้​ฝันดีสักแค่ไหน... สุดท้าย​ก็​ต้อง​ตื่น

เรื่อง​บาง​เรื่อง​ อย่าใส่ใจ​ให้มันมากนัก
ปล่อย​ให้​มัน​ผ่าน​ไป​เหมือน​ลมพัด
ผ่าน​แล้ว​ก็​ผ่าน​เลยไป

ประสบการณ์... จะสอนคุณ​ว่าควรทำอย่าง​ไร
และเวลาจะสอนคุณ​ ให้เข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น 
 "เกิดมาจน อย่าโทษพ่อแม่
ยามย่ำแย่ อย่าโทษดินฟ้า
ถึงลำบาก อย่าโทษโชคชะตา
ทุกข์หนักหนา อย่าโทษเวรกรรม

อยากสบาย จงอย่าท้อแท้
เหนื่อยแทบแย่ ให้อดทนทำ
ใครติใครว่า อย่าสนอย่าจำ
จะสูงหรือต่ำ เราลิขิตเอง" 
 เหนือขุนเขายังมีขุนเขาอีกนับไม่ถ้วน
เมื่อเราชนะอุปสรรคหนึ่งได้ ก็จะมีอุปสรรคอีกหนึ่งที่จะถาโถมเข้ามา 
เหมือนทิวเขาที่เราต้องข้ามลูกแล้วลูกเล่า

ชีวิตจึงไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น แต่เป็นการวิ่งมารธอน จึงเหน็ดเหนื่อยระยะยาว
การเอาชนะอุปสรรคครั้งหนึ่ง มันจะเพิ่มความแกร่งให้กับเรา
ในการรับมืออุปสรรคครั้งใหม่ที่จะก้าวเข้ามาให้ท้าทาย 

จงยอมรับความจริงอันนี้ ของชีวิตว่า
พื้นที่ ที่ไร้อุปสรรคหามีอยู่จริงไม่ 
ดังนั้น จงตื่นเต้น กระตือรือร้น ที่จะจัดการกับอุปสรรค
ที่จะมีมาเสมอ ด้วยความเต็มใจเถิด 
 ชมคนด้วยวาจา มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
ทำร้ายคนด้วยวาจา สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ

-ซุนวู 
 ยาที่ดีกินแล้วมักมีรสขม 
เฉกเช่นการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังแล้วขัดหู ไม่น่าฟัง แต่มักจะมีประโยชน์หากนำไปปฏิบัติ 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 ผู้ใหญ่จะรับผิดชอบ 
ผู้กระจอกจะโทษผู้อื่น
มหาสมุทรกว้างใหญ่เรือยังชนกันได้
นับประสาอะไรกับชีวิต ผิดก็แก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว 
 กางร่มให้คนอื่นได้ แต่..ไหล่เราต้องไม่เปียกด้วย
อย่าโง่..ยื่นร่มให้เขา แล้วตัวเราต้องเดินตากฝน 
 คนที่มีความสุข เพราะ “ความสามารถ” และ “ความสัมพันธ์” 

ความสามารถ นำมาซึ่ง รายได้ ความมั่นคง การงานที่ดี 

ความสัมพันธ์ นำมาซึ่ง ความสงบ มีสติ มีวุฒิภาวะ มีเกราะกำบังในใจ ในวันที่พลาดพลั้งก็ลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ 

…หลายคนคิดว่า การมีฐานะดี คือความสุข แต่ไม่เสมอไป 
 "หากคุณเจ็บเพราะมีคนตักเตือน
จงรับรู้เถิดว่าการไม่มีใครตักเตือน
เป็นสิ่งที่เจ็บกว่า" 
 พอเริ่ม คิดมาก จะพูดน้อย
พอเริ่ม คิดน้อย จะพูดมาก
พอเริ่ม คิดยาก จะพูดงง
พอเริ่ม ปลง จะไม่พูดอะไรเลย 
 ถ้าชีวิตไม่พบเจอกับปัญหา บางที
เราอาจจะมองไม่เห็นใจของคน

ถ้าชีวิตไม่เคยมีความล้มเหลว
เราอาจไม่เห็นความไม่เที่ยงได้เร็วเช่นนี้

ถ้าชีวิตไม่มีความโดดเดี่ยว
เราอาจไม่เคยคิดที่จะเข้าใจตัวเอง

ถ้าชีวิตไม่เจอทั้งคนดี คนเลว
เราอาจไม่มีโอกาสพัฒนาสติ และปัญญา

เพราะชีวิต ย่อมมีความสมดุลในตัวเอง

“เมื่อโลกนี้มีคนทำให้เราร้องไห้
ก็ต้องมีคนที่ทำให้เรายิ้มได้ ” 
 การเป็นคนดี 
ไม่จำเป็นต้องให้ใครทุกอย่าง
เป็นคนดีก็ต้องรู้จักปฏิเสธได้
ดีให้ถูกที่ ดีให้ถูกคน
อย่าดีเกินไปจนเสียเปรียบ
อย่าเสียสละเกินเหตุ
เพียงเพราะอยากเป็นคนดี
ให้เท่าที่อยากให้แค่นั้นพอ 
 ในสังคมที่มีแต่ผลประโยชน์ 
อย่าไว้ใจหรือให้ใจใครมากนัก 
เรื่องส่วนตัวอย่าป่าวประกาศ
ให้ใครรู้มากถ้าไม่จำเป็น 
ประสบการณ์จะสอน
ให้คุณรู้จักเลือกคบคน 
วางตัว และ รักษาระยะห่าง
มิตรแท้ หรือ ศัตรู จะมาพร้อมกัน 
และเห็นชัดเจนที่สุดตอนที่คุณล้ม 
 พึงชนะใจ "ผู้น้อย" ด้วยการให้ พึงชนะใจ "ผู้ใหญ่" ด้วยความอ่อนโยน 
 "ถ้าล้มเราอาจจะได้แผล ถ้ายอมแพ้เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย" 
 ค่าแห่งตน มิได้นับ ที่ทรัพย์มาก
บ้างนับจาก ตำแหน่ง ยศศักดิ์ศรี
บ้างดูจาก ปริญญา เอกโทตรี
ไม่มองที่ ผลงาน การกระทำ 
 อย่าลำพอง ผยองตน ว่าคนเก่ง
โดยตัวเอง ชาญเชี่ยว ด้วยเขี้ยวเล็บ
เรื่องพลั้งพลาด มิคาดการณ์ ถึงวันเจ็บ
ด้วยเขี้ยวเล็บ อหังกา พาตัวตาย

วันใดเจ้ายิ่งใหญ่ อย่าหลงไหล ในอำนาจ
วันใดเจ้าเก่งกาจ อย่าประมาท ในฝีมือ
วันใดเจ้าเกรียงไกร อย่าใด้ใจ ตามคำลือ
วันใดเจ้าด้านดื้อ ทุกสิ่งคือ ฉิบหายไป 
 “ผู้ที่เต็มเปี่ยมในตน
 จึงไม่แสวงหาการเติมเต็มจากผู้อื่น
 เมื่อไม่คิดจะแสวงหาการเติมเต็ม
 จึงสามารถเห็นคุณค่า และให้ความเคารพ
 ต่อผู้คนได้อย่างแท้จริง 
 ในสังคมที่มีแต่ผลประโยชน์ 
อย่าไว้ใจหรือให้ใจใครมากนัก 
เรื่องส่วนตัวอย่าป่าวประกาศ
ให้ใครรู้มากถ้าไม่จำเป็น 
ประสบการณ์จะสอน
ให้คุณรู้จักเลือกคบคน 
วางตัว และ รักษาระยะห่าง
มิตรแท้ หรือ ศัตรู จะมาพร้อมกัน 
และเห็นชัดเจนที่สุดตอนที่คุณล้ม 
 การเป็นคนดี 
ไม่จำเป็นต้องให้ใครทุกอย่าง
เป็นคนดีก็ต้องรู้จักปฏิเสธได้
ดีให้ถูกที่ ดีให้ถูกคน
อย่าดีเกินไปจนเสียเปรียบ
อย่าเสียสละเกินเหตุ
เพียงเพราะอยากเป็นคนดี
ให้เท่าที่อยากให้แค่นั้นพอ 
 คำคมเหล่านี้ เตือนสติได้ดี ✌🏻😁

“น้ำหยดกลายเป็นทะเล 
  คนอ่อนน้อมย่อมอยู่ในใจชน”

“สิ่งที่ยิ่งใหญ่มักไร้รูป 
  คนมีอำนาจหลบซ่อนตัวตน”

 “เหยี่ยวยืนเหมือนหลับ
  ต่อให้ยอดเยี่ยม ก็ไม่ต้องป่าวประกาศ ”

 “เสือเดินเหมือนป่วย
  ต่อให้มากความสามารถ ก็ไม่ต้องโอ้อวด”

“ตำแหน่งสูงอย่าจองหองทะนงตน
  ต่อให้ทางแคบ ก็ต้องเว้นทางให้คนอื่นเดิน” 
 คำสอนดีๆ จากแป๊ะโรงสี

- อย่ามัวแต่คิดว่ารวยแล้วจะใช้จ่ายเงินแบบฟุ่มเฟือยอย่างไง เพราะในวันที่ตกอับ แค่ร้อยเดียวอาจมีค่ามากมาย

- อย่าคิดว่าร่างกายจะแข็งแรง ไม่มีวันป่วย ตอนอายุยังน้อย อะไรก็ทนได้ ทำงานไม่มีวันหยุด พอแก่ตัวมา ทำได้นิดเดียวก็เมื่อยไปหมด เพราะถ้าป่วยเมื่อไหร่ กำไรแค่ไหนก็ไม่คุ้ม

- อย่ามองข้ามคนที่ด้อยกว่า หรืออย่ามองข้ามลูกค้ารายเล็ก เพราะวันหนึ่งเขาอาจจะกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราก็ได้

- อย่าหลงว่าตัวเองว่ายิ่งใหญ่ อยู่เหนือคนอื่น ต้องจำไว้ว่า คนรวยหลายคนที่เราเห็น ไม่ได้รวยแต่กำเนิด บางคนก็สร้างมาเองกับมือจากไม่มีอะไรเลย

- ต้นไม้ต้นเดียว ทำไม้ขีดไฟได้หลายก้าน แต่ไม้ขีดไฟแค่ก้านเดียว ก็สามารถเผา ป่าได้ทั้งผืนป่าเช่นกัน

- ดูนกสิ… ตอนที่มีชีวิตอยู่ มันจะกิน “หนอน” เป็นอาหาร แต่พอมันจากโลกไปแล้ว มันกลับถูก ” หนอน ” กินเป็นอาหาร ดังนั้นไม่มีใครใหญ่กว่าใครไปได้หรอก

- อย่าหลงทะนง แล้วคิดว่าจะอยู่สูงได้ตลอดไป เพราะแม้แต่นกที่บินได้สูงที่สุดในโลก สุดท้ายก็ยังต้องลงมาแตะพื้นเพื่อพักผ่อน ดังนั้นจงอย่าไปดูถูกใครเลย

- จงอย่าประมาท… ชีวิตมีความไม่เที่ยงเป็นแก่นแท้ สังขารไม่เลือกอายุ…. และ ไม่แยแสว่าเจ้าจะเป็นใคร 
 เมื่อถูกเข้าใจผิด
ไม่พูด คือ ความใจใหญ่
ความจริงความเท็จของเรื่องราว
กาลเวลาจะให้คำตอบที่ดีที่สุด

เมื่อถูกทำร้าย
ไม่พูด คือ ความกรุณา
ความอบอุ่นเย็นชาของความสัมพันธ์
กาลเวลาจะให้การพิสูจน์ที่ดีที่สุด

เมื่อถูกให้ร้าย
ไม่พูด คือ ความมีวุฒิภาวะ
ความดีความชั่วในอุปนิสัย
กาลเวลาจะให้ความกระจ่างที่ดีที่สุด

ไม่ว่าเรื่องอะไร อย่าได้รีบโต้แย้งอธิบาย
ไม่ว่าคำพูดใดๆ อย่าได้รีบพรั่งพรู
เราหัดพูดใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี
เรียนรู้จักนิ่งเงียบ ต้องใช้เวลานับสิบปี

ความสูงของชีวิต
ไม่อยู่ที่เห็นชัดได้มากน้อยเพียงใด
แต่อยู่ที่มองสิ่งต่างๆ ให้เบาบางได้เพียงใด

ความกว้างของจิตใจ
ไม่ได้อยู่ที่รู้จักคนมากน้อยเพียงใด
แต่อยู่ที่ยอมรับคนได้มากน้อยเพียงใด

เป็นคนดั่งภูผา
มองล้านสิ่ง รับได้ล้านสิ่ง

เป็นคนดั่งสายน้ำ
รู้ขึ้นลง และขึ้นลงเป็น

ผู้ยอมเสียเปรียบ ท้ายที่สุดจะไม่เสียเปรียบ
จะได้หวนคืน ไม่ช้าก็เร็ว

ผู้ยอมแพ้ ท้ายที่สุดไม่สูญเสียการนับถือตนเอง
ย่อมชนะใจคน