ขออีกนิด งานนั้นเป็นงานที่ผมประทับใจแฟนและลูกสาวมาก ผมเองบอกนโยบายของร้านตลอดว่าเราจะไม่ไปออกบูธที่ไหน เราไม่ทำตลาดแบบนั้น มันลด value ของเรา(งานนี้มันไม่ใช่การทำการตลาดไง) แต่ผมเองเป็นคนของให้แฟนมาช่วยจัดการเรื่องบูธให้ ของที่ต้องใช้ซื้อใหม่เกือบหมด นางเป็นคนไปสรรหามา ต้องตื่นเช้า ต้องขนของกันเอง(ผมถือว่ามันเรื่องส่วนตัว เอาน้องๆมาทำงานไม่ได้) ต้องเฝ้าบูธตลอดเวลา ไปไหนไม่ได้ ตกเย็นผมไปสนุกอยู่ที่ after party กับเพื่อนๆอีก แฟนผมเค้าไม่อินบิทคอย เค้าถามผมแบบไม่ต้องการคำตอบแค่ว่า “นี่ตัวใช้เงินไปเรื่องนี้เท่าไหร่แล้วเนี่ย ตัวชอบมันขนาดนั้นเลยเหรอ” แต่เค้าก็ยอมมาช่วยลุยทุกอย่าง เพราะแค่รู้ว่าผมอยากทำ ประทับใจ
ผมประทับใจทุกอย่างที่ได้เห็น ทุกเรื่องที่ได้ยินหลังจากนั้น โดยเฉพาะโอเพ่นไดม์ ผมเป็นคนแรกด้วยที่ไปเสีย Sats ให้กับขนมเฟียต ผมเข้าใจว่าทั้ง 2 ท่านเป็นพนักงานของพี่ (ต้องขอภัยจริงๆ) สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด.. ผมมัวใช้สมาธิไปกับความเรียบร้อยของจัดการงานมากเกินไป เกือบๆ จะ 100% มันทำให้ผมไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับใครเลย พี่อยู่ตรงหน้าผมแท้ๆ ผมจำได้ว่าคุยไปไม่เกิน 10 คำ แล้วผมต้องรออีก 1 ปีเพื่อแก้ไขเรื่องนี้... เมียผมก็เป็นแบบเมียพี่ ไม่อินกับเราแต่ก็ไม่ขวาง (เพราะรู้ว่าคงขวางไม่ได้) 555
จำได้ ผมจำลูกค้าคนแรกได้ 55555 แต่ก็พอกันครับ ผมก็ไม่รู้จักตั้ม