Oddbean new post about | logout

Notes by โจรจัญไร | export

 เกิดขึ้นกับตัวแล้วสิ
การวางแผนการ... 
 คุณทำถูกต้องแล้วครับ
มันจะมีอะไรดีไปกว่าการที่เราสามารถบรรเทาทุกข์ให้คนที่เรารักได้ครับ 
 ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจีและลำธารใส มีชุมชนเล็กๆ
ชื่อว่า "#Siamstr" ชาวบ้านที่นี่มีวิถีชีวิตที่แปลกไปจากที่อื่น พวกเขาใช้ชีวิตแบบ
"Low time preference" หรือการให้ความสำคัญกับอนาคตมากกว่าปัจจุบัน

ในเช้าวันหนึ่งที่ฟ้าสดใส ตะวันเริ่มต้นทำหน้าที่ของมัน ฉายแสงอบอุ่นลงบนบ้านไม้
เก่าๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในหมู่บ้าน "Siamstr" ป้าอัญชัน คุณป้ารุ่นเก๋าที่มีผมหงอกขาว
เต็มหัว เดินออกมาจากบ้านพร้อมตะกร้าสานที่เต็มไปด้วยเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ป้าอัญชัน
เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องในหมู่บ้านเพราะเธอเป็นคนที่คอยสอนให้คนในหมู่บ้านรู้จัก
การปลูกพืชที่ใช้เวลาเติบโตนาน

"สวัสดีค่ะป้าอัญชัน" เสียงเรียกดังขึ้นจากเด็กสาวที่กำลังเดินผ่านหน้าบ้าน เด็กสาวชื่อ
ใบหม่อน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเมื่อไม่นานมานี้ และยังไม่คุ้นเคยกับวิถีชีวิต
ที่นี่มากนัก

"สวัสดีจ้ะ ใบหม่อน วันนี้จะไปไหนจ๊ะ?" ป้าอัญชันถามพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน
"หนูว่าจะไปช่วยพี่ทิวาปลูกต้นไม้ค่ะ เห็นว่าเขากำลังจะปลูกต้นไม้ใหญ่
 
หนูสงสัยว่า ทำไมเขาต้องปลูกต้นไม้ที่ใช้เวลานานกว่าจะโตด้วยค่ะ"
ใบหม่อนถามอย่างสงสัย

ป้าอัญชันยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า "อืม ที่นี่เรามีวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไปจ้ะ เราเชื่อว่า
การปลูกต้นไม้ใหญ่หรือทำอะไรที่ใช้เวลานานนั้นเป็นการลงทุนในอนาคต คนในหมู่บ้าน
นี้จะคำนึงถึงผลลัพธ์ในระยะยาวมากกว่าความสุขสบายชั่วคราว"

ใบหม่อนพยักหน้าอย่างเข้าใจแต่ยังมีแววตาที่ไม่แน่ใจ "แต่ทำไมเราต้องรอคอยนาน
ขนาดนั้นล่ะคะ?"

ป้าอัญชันพยักหน้าเบาๆ แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง 
"เมื่อก่อนป้าก็เป็นคนใจร้อนอยากได้อะไรก็ต้องได้เดี๋ยวนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งป้าได้พบ
กับคุณตาผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ท่านสอนให้ป้ารู้จักการปลูกต้นไม้ ป้าก็เลยลองปลูกดู มันใช้
เวลานานมากกว่าจะโต แต่เมื่อมันโตเต็มที่ ป้าก็ได้เห็นประโยชน์ของมันที่มีต่อชุมชน 
เรามีไม้สำหรับสร้างบ้านมีผลไม้กินไม่ขาดมือ และที่สำคัญเราได้เรียนรู้ถึงความอดทน
และการวางแผน"

"ถ้าเราไม่ปลูกอะไรที่ต้องใช้เวลานาน ตอนนี้เราคงไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ไม่มีผลไม้ที่
อุดมสมบูรณ์เหมือนตอนนี้หรอกจ้ะ" ป้าอัญชันกล่าวสรุป

ใบหม่อนพยักหน้าเข้าใจแล้ว "หนูเข้าใจแล้วค่ะป้าอัญชัน หนูจะลองเปลี่ยน
แปลงตัวเองดูบ้างค่ะ"

จากวันนั้น ใบหม่อนได้เริ่มต้นปลูกต้นไม้และทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้เวลานานขึ้น
เธอเรียนรู้ที่จะวางแผนและคิดถึงผลลัพธ์ในระยะยาวมากกว่าความสุขสบายชั่วคราว

เวลาผ่านไป ใบหม่อนกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนการใช้ชีวิตแบบ 
"Low  time preference" ในหมู่บ้าน "Siamstr" เธอได้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการลงทุนในอนาคต และความสุขที่เกิดจากการเห็นสิ่งที่เธอทำเติบโตและให้
ประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ในยามเย็นเมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้า ใบหม่อนนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่
เธอได้ปลูกขึ้น เธอยิ้มและรู้สึกถึงความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ 
ให้กับชุมชน เธอได้เรียนรู้ว่าความอดทนและการวางแผนในระยะยาวนั้นเป็นสิ่งที่มีค่า
และนำมาซึ่งความสุขที่แท้จริง

https://image.nostr.build/7cea322177122f7fdb02fe3c26a9c20dfe1f627f944ceeff815028e3894fa3c2.jpg 
 ดีจังครับ ลูกโตขึ้นผมว่า น่าจะเป็นบุคคลที่มีคุณภาพในสังคมคนหนึ่งเลยครับ 
 ขอบคุณที่ชอบครับ 
 Thanks a lot, bro! 
 สมมุติถ้ามีคนหนึ่ง
ขวนขวายหาความร... 
 ไม่ใช่ไม่มีทักษะครับ การหาความรู้เพิ่มเติมอะไรก็ได้ ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มทักษะแล้วครับ
เพียงแต่ภาษาอังกฤษเปรียบเสมือนห้องสมุดที่ใหญ่กว่าภาษาไทยครับ อาจจะมีหนังสือ
ที่เราสามารถเลือกอ่านได้มากกว่าและหลากหลายกว่า ครับ
 
 Shaka or Carabao hahaha! #Siamstr
nostr:nevent1qqsv6yp83jcct4xyua9e64w3tzgraha5ynuelm0s40836pz92hr6lhqzyqlhwrt96wnkf2w9edgr4cfruchvwkv26q6asdhz4qg08pm6w3djgqcyqqqqqqg4jhle4 
 ซาโตชิ (Sats) เล็กๆ น้อยๆ วันนี้ อาจกลายเป็นเงินก้อนโตในอนาคต

เคยเจอเหรียญบาท เหรียญสิบ ตกตามซอกโซฟาไหม? แม้จะดูไม่มีค่า แต่ถ้าเก็บสะสม
ไปเรื่อยๆ ก็อาจกลายเป็นเงินก้อนได้เหมือนกัน ซาโตชิ หรือ Sats (หน่วยย่อยของ Bitcoin) 
ก็เหมือนเศษเหรียญเล็กๆ เหล่านี้ ที่วันนี้ดูไม่มีมูลค่ามากนัก แต่ในอนาคตอาจพลิกชีวิตคุณได้

ทำไม Sats ถึงน่าสนใจ?

Bitcoin มีแนวโนมที่สามารถเติบโตในอนาคต : หลายคนเชื่อว่า Bitcoin จะเป็นเหมือน 
"ทองคำดิจิทัล" ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีจำนวนจำกัด ใครๆ ก็สามารถซื้อขายได้ 
และไม่ขึ้นกับธนาคาร ถ้า Bitcoin มีมูลค่าสูงขึ้น Sats ก็จะราคาพุ่งตามไปด้วย

Sats ทำให้ซื้อ Bitcoin ได้ง่ายขึ้น : ไม่ต้องรวยก็เป็นเจ้าของ Bitcoin ได้ 
เพราะ Sats มีราคาถูก ซื้อเก็บสะสมทีละน้อยๆ ได้สบายๆ

คนใช้ Bitcoin กันมากขึ้น : เดี๋ยวนี้ ร้านค้าออนไลน์หลายแห่งรับ Bitcoin เป็นค่า
สินค้าแล้ว ยิ่งมีคนใช้ Bitcoin มากเท่าไหร่ มูลค่าของ Sats ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น

Sats สอนให้รู้จักเก็บออม : การเก็บ Sats ทีละเล็กทีละน้อย เหมือนฝึกวินัย
ในการออมเงิน ทำให้เราเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น

ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ต้องลองเสี่ยง : ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร การลงทุนใน Sats เหมือนการเปิดโอกาสให้ตัวเอง เผื่อวันหนึ่ง Sats เล็กๆ ที่เราเก็บไว้ อาจกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ได้

ข้อควรระวัง : การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Bitcoin และ Sats 
ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน 
#Siamstr
 
 Talk : ชีวิตที่เป็นรมณีย์  | โจน จันใด
สวัสดีทุกๆคนครับ ก็อยากจะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตที่เป็น รมณีย์ ให้ฟังนิดหนึ่ง
เพราะว่า ผมเป็นคนที่เกิดในช่วงต่อระหว่างยุคสมัย รุ่น พ่อ ปู่ ลุง ของผมเนี่ย
ก็เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีความฝันมีเป้าหมาย อยากมีชีวิตที่เป็น รมณีย์ แต่ว่า
เขาไม่ได้ใช้คำนี้ในยุคนั้นครับ เป็นภาษาบาลี คนในสมัยก่อนเขาไม่ใช้คำนี้
เขาใช้คำว่า อยากจะไปอยู่แบบสงบๆ ก็คือคนที่ เติบโตขึ้นมาแล้วเนี่ย เลี้ยง
ครอบครัวจนได้ดิบได้ดีเสร็จปุ๊บ บั้นท้ายของชีวิตช่วง 60 ขึ้นไป คนเหล่านี้ก็จะ
เข้าวัดครับ เข้าไปอยู่ในวัด ไปอยู่ในร่มเงาของต้นไม้ ในวัดก็จะมีสระน้ำ มี
หนองน้ำ มีความเย็นสบาย แล้วก็คนเหล่านี้ ต้องการที่จะไปชื่นชมบรรยากาศ
ที่สงบ ร่มรื่น เพลิดเพลินกับความสงบ คำว่าเพลิดเพลินกับความสงบ มันเป็น
เป้าหมายของคนยุคก่อน อย่างหมู่บ้านผมก็จะพิเศษหน่อยเพราะเป็นหมู่บ้าน
ของพระกรรมฐานเป็นหลัก คนส่วนมากบั้นปลายก็คือจะทิ้งงานต่างๆ ให้ลูกให้
หลาน แล้วตัวเองก็จะไปเข้าวัด ไปปัดกวาดบริเวณวัด ไปนั่งสมาธิภาวนา ไปทำ
วัตรสวนมนต์ เข้ารู้สึกถึงความสงบเย็นและเพลิดเพลิน ซึ่งแต่ก่อนผมไม่เข้าใจเลย
ว่า คำว่าเพลิดเพลินกับความสงบมันหมายถึงอะไร แต่วันหนึ่งลุงของผม พาผมไป
ทุ่งนานั่งอยู่บนกระท่อม มองไปในทุ่งนาที่ต้นข้าวเขียวๆ กำลังถูกลมพัดเป็นคลื่นๆ
แกบอกว่า สงบนะ ผมก็รู้สึกว่ามันสงบยังไงมันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ แต่จริงๆแล้ว
มองดูชัดๆ เนี่ยเราจะเห็นความสงบท่ามกลางความเคลื่อนไหวครับ นี่คือความ
งดงามที่คนในยุคเก่าชื่มชม แล้วก็เพลิดเพลินกับการใช้ช่วงสุดท้ายของชีวิตกับ
ความงามในความสงบตรงนั้น ซึ่งภาษาบาลีอาจจะใช้คำว่า รมณีย์ก็ได้ แต่ว่า
ความเชื่อ ความฝัน ความรู้สึกแบบนั้นมันเริ่มจางหายไป ตอนที่มีไฟฟ้าเข้ามาใน
หมู่บ้าน มีโทรทัศน์ เข้ามา มีรถมอเตอร์ไซร์เข้ามา โทรทัศน์คือสิ่งแรกที่บอกว่า
พวกเรานี่จน การแก้ปัญหาความยากจนคือต้องทำงานมากขึ้นหาเงิน จากนั้นมา
เป้าหมายของคนก็เปลี่ยนจากคำว่า รมณีย์ กลายมาเป็นเงิน เป็นความร่ำรวย
จนถึงทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้จักคำว่า รมณีย์ อีกแล้ว ไม่มีคนที่ใฝ่ฝันถึงความสงบ
ร่มรื่น ไม่มีคนอยากจะไปใช้ชีวิตอย่างสงบร่มรื่นอีกแล้ว เพราะหลายๆคนบอกว่า
ล้าหลังไม่เจริญ ต่อต้านความเจริญก้าวหน้า คนก็มุ่งหาความร่ำรวยทางทรัพย์สิน
เงินทองมากขึ้น ก็ทำให้เศรษฐกิจอะไรเติบโตขึ้นทุกอย่าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
คือ ลึกๆแล้ว แต่ละคนยังโหยหาความสงบร่มรื่นทางภายในกับธรรมชาติซึ่งใน
สมัยก่อนจะเน้นความเพลิดเพลินกับความจริง ความดีและความงาม ก็เลยทำ
ให้สังคมสงบ แม้ว่าจะมีเรื่องร้ายๆบ้าง แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นรุนแรง แต่ในปัจจุบัน
เนี่ย เรามีอะไรมากมายกว่าคนสมัยก่อนเยอะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นในวันนี้ก็คือ
ความเครียด ความกลุ้มความกังวล หลายคนนอนไม่หลับครับ การนอนไม่หลับ
กลายเป็นโรคชนิดใหม่ ที่กำลังเกาะกินชีวิตของคนจำนวนมากในวันนี้ ดังนั้น
วันนี้ก็เลยเป็นวันที่คนกำลังโหยหาแต่ไม่รู้สึกตัว ว่าตัวเองโหยหาอะไร หาดิ้น
รนทำงานหนักซึ่งสมัยก่อนการมีเป้าหมายอยู่ที่ ความเป็น รมณีย์ มันจะทำให้
รู้สึกเบาสบาย สงบ ร่มรื่น แต่วันนี้เป้าหมายอยู่ที่ความร่ำรวย ชีวิตก็จะเปลี่ยน
ไป วันนี้ก็จะมีแต่ความเครียด ความกลุ้ม ความร้อน ความรุนแรง ความระอุ
นี่คือสิ่งที่ผมเริ่มสังเกตเห็นและทำให้ผมคิดถึง การใช้ชีวิตแบบนั้นว่า เราจะกลับ
ไปสู่ตรงนั้นได้อย่างไร แต่เราไม่ได้อยากไปอยู่แบบนั้น เพียงแต่ว่า เราอยากจะ
ทำให้มันดีขึ้นกว่านั้นได้อย่างไร มันเป็นไปได้ไหม อันนี้คือสิ่งที่ทำให้ผมสนใจที่
จะคิดถึงเรื่องความสงบ ความเย็น ความร่มรื่นแบบนั้น ก็เลยทำให้ผมเริ่มมาทำ
เกษตร มาปลูกป่าผมปลูกป่าทุกปีนะครับ ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยต้น แม้ไม่ใช่ที่ของ
ตัวเองผมก็ปลูกเพราะทันทีที่ปลูกป่าเนี่ย ผมถือว่ามันคือทรัพย์สินของเราทุกคน
ไม่ว่าจะในที่ใคร ออกซิเจนที่ต้นไม้ให้ออกมา ไม่มีใครเป็นเจ้าของนะครับ เราใช้
ร่วมกัน ร่มเงาความเย็นมันก็เป็นของทุกๆคน คนที่ใช้ร่วมกัน ดังนั้น ทุกปีผมก็
เลยต้องมีการไปร่วมกับคนนั้นคนนี้ ไปช่วยทุกปี นี่คือสิ่งที่ผมเห็นว่าวันนี้ ชีวิต
เรานั้นเหนื่อยมาก เครียดมาก ท้อมาก มองไม่เห็นฝั่งเลยว่า เมื่อไหร่เราจะได้หยุด
พักสักที เมื่อไหร่เราจะได้รู้สึกผ่อนคลาย เพราะเป้าหมายของเราคือกำไรสูงสุด
หรือมีเงินมากขึ้นแต่ไม่มีข้อจำกัด ดังนั้นในสภาวะแบบนี้ การกลับมาคิดถึงสภาวะ
ที่เป็นความร่มเย็น เป็นความเพลิดเพลิน กับความจริงความดีงามเนี่ย มันคือ
ทางออกที่ทำให้เราไม่เครียด ไม่กลุ้ม เบา สบาย ทุกวันนี้ผมเห็นว่าเราส่วนใหญ่
ทำงานหนักมาก เพื่อย่อยทรัพยากร เพื่อย่อย ดิน น้ำพืช สัตว์ และสังคม แปรรูป
มาเป็นเงินนี่คืองานหนักที่พวกเราทำ แต่มีกี่คนที่ทำงานหนักเพื่อที่จะสร้างดิน
น้ำ พืช สัตว์ ให้มันดีขึ้น วันนี้เราบริโภคมากเกินความสามารถของธรรมชาติ
ที่จะผลิตตรงนี้ให้เราได้ วันนี้เราจึงมาถึงจุดอับจนทางสังคมมากมาย ไม่รู้ว่า
เราจะไปไหนต่อ ทั้งโรคระบาด ทั้งสงคราม ทั้งสิ่งแวดล้อมแปรปรวน อะไรต่างๆ
จะเริ่มถาโถมเข้า ดังนั้นการกลับมาคิดถึงชีวิตที่เป็น รมณีย์ จึงเป็นสิ่งที่ควร
กลับมาใคร่ครวญอีกครั้งหนึ่ง การหาเงินเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การสร้างทรัพยากร
ขึ้นมาทดแทน ก็จำเป็นยิ่งกว่าเช่นกัน เพื่อที่เราจะอยู่ได้ ดังนั้นการกลับมาคิดถึง
ตัวเอง เรารักตัวเองได้ไหม ถ้าเรารักตัวเองได้ ชีวิตก็จะก้าวเข้าสู่ความเป็น รมณีย์
มากขึ้น แต่วันนี้เราไม่ได้รักตัวเอง เราทำงานหนัก แต่เราไม่เคยถามว่าเราทำงาน
หนักไปเพื่อใคร เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือร่างกายของเรา เราทำงาน
หนักได้เงินได้ทองมา แทนที่เราจะซื้ออาหารที่เป็นอินทรีย์มาบริโภค เพื่อให้
ร่างกายเราดีขึ้น เรากลับบอกว่ามันแพง ซื้อกินได้ยังไง ข้าวกิโลละ 50 บาทแต่พอ
ไปซื้อกาแฟแก้วละ 80 บาท เราไม่เคยถามสักคำเลยว่าแพงหรือไม่แพง ทั้งๆที่
กาแฟไม่ใช่อาหาร อันนี้คือสิ่งที่อยากจะยืนยันว่าเราไม่ได้รักตัวเอง ฉะนั้นถ้า
เรารักตัวเอง เรากลับมาคิดถึง เราต้องกินสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา วันนี้ถ้าเราลดการ
กินไข่ ไก่ หมู ป่าก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ควัน มลพิษทางอากาศทั้งหลาย
ก็จะลดลงมากทีเดียว เพราะวันนี้คนทุกคนต้องกินไก่ ไข่ หมู วันละ 3 มื้อ
จำเป็นจะต้องผลิตไก่ไข่หมูให้พอ เราก็เลยต้องถางป่า ปลูกข้าวโพดเยอะมาก
เพื่อที่จะเลี้ยงตรงนี้ ดังนั้น ผมเห็นว่าวันนี้ยังไม่สายเกินไป ที่เราจะมาคิดถึง
ความสุขสงบ ร่มเย็นในชีวิตครับ กลับมาคิดถึงตรงนี้ แม้เราจะเป็นคนเมือง
ปลูกต้นไม้ไม่ได้ปลูกผักอะไรไม่ได้ แต่เราสามารถส่งเสริมคนที่ปลูกได้ ไปช่วย
เหลือเกื้อหนุนคนที่เขาทำได้และก็มาลดตัวเองลงว่าเราจะกินให้หลากหลาย
ได้อย่างไร ไม่ใช่แค่ ไก่ หมู วันไหนก็ไข่เจียว ทุกวัน ถ้าเราเริ่มกินอะไรที่แตก
ต่างและหลากหลายมากขึ้น ความหลากหลายคือความงดงาม
ความหลากหลายคือความมั่นคง ความหลากหมายคือความยั่งยืนครับ
ถ้าเราเริ่มมากินหลากหลาย สุขภาพเราก็จะเปลี่ยนไปในแนวทางที่ดีขึ้น
สิ่งแวดล้อมก็จะดีขึ้น ผมคิดว่าแค่นี้ เราก็เปลี่ยนอะไรได้เยอะมากแล้วในชีวิต
ฉะนั้นวันนี้ผมได้ตัดสินใจมาใช้ชีวิตแบบนี้ ให้เวลากับตัวเองมากขึ้น แล้วก็
พยายามที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลคนที่คิดคล้ายๆกันมากขึ้น อันนี้คือสิ่งที่ผมคิดว่า
ผมพอจะทำได้แค่นี้ ในฐานะที่เป็นชาวนาเล็กๆคนหนึ่ง เราทำได้แค่นี้ แต่คน
อื่นๆ ถ้าทำได้มากกว่านี้ ผมก็คิดว่า มันจะยิ่งใหญ่มาก #Siamstr
https://www.youtube.com/watch?v=Zn1RSYTnOpQ
 
 เพิ่งทราบว่าเรา zap ผ่าน Zapple Pay ใน Damus ไม่... 
 วันนี้เราลองมาสำรวจคำนวณเงินเฟ้อกันครับ :

สินค้าและบริการที่ผมนำมาใช้คำนวณ ผมจะอ้างอิงตามที่ใช้คำนวณในตัวเลข CPI
มีบางอย่างอาจจะปรับเปลี่ยนบ้าง โดยผมจะคำนวณตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 เพราะว่า
ตรงกับ ค.ศ.1971 ที่มีการยกเลิกมาตราฐานทองคำไปครับ แล้วไปสิ้นสุด พ.ศ.2566
ระยะเวลาคำนวณผมจะคำนวณตั้งแต่ พ.ศ. 2514 - 2566 เป็นระยะเวลา 52 ปี

สินค้าและบริการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 หมวดหมู่ 
1. อาหารและเครื่องดื่ม : มีตัวแทนเป็น ก๋วยเตี๋ยวและน้ำเปล่า
2. ที่อยู่อาศัย : มีตัวแทนเป็น ค่าเช่าบ้าน
3. เครื่องนุ่งห่ม : มีตัวแทนเป็น เสื้อผ้าและร้องเท้านักเรียน
4. การคมนาคม : มีตัวแทนเป็น น้ำมันเบนซิน
5. การดูแลสุภาพ : มีตัวแทนเป็น ยาสามัญประจำบ้าน
6. ความบันเทิง : มีตัวแทนเป็น ค่าบัตรเข้าชมภาพยนตร์
7. การศึกษา : ค่าเทอมโรงเรียนเอกชน
8. อื่นๆ : มีตัวแทนเป็น ทองคำและที่ดิน

ตารางนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการต่างๆ
https://image.nostr.build/04f09f653bf5739cb506f38e3f0eac0f24679cd96aaf70b3115c5756f0bc37d7.png
หมายเหตุ : ราคาที่ระบุในตารางนี้เป็นการประมาณและอาจมีความคลาดเคลื่อน
จากความเป็นจริง ข้อมูลที่ใช้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น

ต่อไปคือตัวอย่างการคำนวณอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในรูปแบบทบต้น (CAGR) :
https://image.nostr.build/3a667ba15f397759a7598d2413218e456fe5888920bbc6df74abe53c3ad8bdb8.png

ต่อไปเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ย CAGR% ของสินค้าและบริการทั้งหมด :
https://image.nostr.build/1109c6b93f9c9fddfced030402d34c401d94dec4c7375c7b3b25f4c045201280.png

ดังนั้น ค่าเฉลี่ยของ CAGR% ของสินค้าและบริการทั้งหมดเท่ากับ 8.23% ซึ่งเราอาจ
สามารถใช้เป็นตัวเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มขึ้นของ เงินเฟ้อ ในระยะเวลาดังกล่าวได้ครับ

#Siamstr 
 ในส่วนของข้อมูล ลองหาใน Google (ถ้ามี) 
ผมก็ใช้ใน google เลยครับ แต่ผมจะมาเทียบเคียงกับความเป็นไปได้อีกครับ

ในส่วนที่ไม่มี ผมก็อาศัย ผู้สูงอายุภายในบ้านครับ แกอาจจะไม่ได้ให้คำตอบ
ได้ 100% เราก็ลองถามว่าราคานี้คิดว่าจะใช่ไหม แล้วลองๆ ปรับดูอีกทีครับ

แล้วผมลองใช้ Chat-GPT มันให้ราคาที่พอเป็นไปได้และใกล้เคียงกับที่ผม
พยายามเก็บข้อมูลมา ผมก็เลือกใช้ข้อมูลที่ประมาณมาจาก Chat - GPT
ครับ เป็นรูปที่เห็นใน Note เลยครับ เพื่อความสะดวก ผมก็เลยนำข้อมูลในส่วน
นั้นมาทำการนำเสนอ โดยผ่านการตรวจความถูกต้องอีกทีครับ  
 ต้องขอขอบพระคุณ Sats จากคุณ @cypherpruk 
ที่ทำให้การทดลองการเปิดร้านของผมเสร็จสมบูรณ์ #Nostr #Siamstr
https://image.nostr.build/a2b319b15447ba929bafb3b328a3d3c94513bc99a07374f19d89c693e911d749.png 
 55555 ขอบคุณน้องวัวด้วยเช่นกันครับ @siamstr.com  
 Nostr Market App ครับผม แต่ผมลองใช้ตัว Demo ครับ 
 ใครใจดีลอง Test - Nostr Market App ให้หน่อยครับ
รูปละ 210sats มี 2 รูปครับ 01 กับ 02 ขอบคุณครับ #Siamstr
https://market.nostr.com/?merchant=4d16dea70cda8f9c1e817cf52167186fb68cf8344421c15222e11edd9be619a4&stall=DLzVmWUeaftV9iH77fTwQH&product=K5sFgUxGzsSYKg6vJfub4j#/
-----------------------------------------------------------------------
https://market.nostr.com/?merchant=4d16dea70cda8f9c1e817cf52167186fb68cf8344421c15222e11edd9be619a4&stall=DLzVmWUeaftV9iH77fTwQH&product=2dgsoyaoaLXvJNxSv6fRWw#/
-----------------------------------------------------------------------