#Bitcoin #Nostr #Siamstr
https://image.nostr.build/d6522402dcd017bcda67383c98682bc0459b752ba186fa6e843a5065581d897f.jpg 

 ซื้อตุนไว้ 21 ครับ แล้วค่อยไปกินวันที่ 22 555+ #Siamstr
https://image.nostr.build/8e4e8b94eb9bd2b0afd0c300471c015bf3be3bf0c2616dadf4fbe8d41526bf52.jpg 

 เมื่อวานคาถาเลิกทาสพี่ชิต วันนี้คาถาเลิกทาสของผมครับ
------------------------------------------------------------------------
อาชีพที่ก่อให้เกิดรายได้ต้องสร้างผลิตผลหรือประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์
รายได้ของเรานั้นจึงจัดว่ามีคุณภาพ
------------------------------------------------------------------------
พยายามรักษาจำนวนรายได้ให้มากกว่ารายจ่ายที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับเรา
ยิ่งรักษาจำนวนให้ได้มากเท่าไหร่ ชีวิตเราจะมั่นคงมากเท่านั้น
------------------------------------------------------------------------
พอชีวิตมีความมั่นคงระดับหนึ่ง ก็จะสามารถแบ่งทรัพยากรที่เหลือเก็บไปสนองความ
ต้องการในชีวิต
------------------------------------------------------------------------
สุดท้ายเป้าหมายของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ไม่มีอะไรไปสามารถเป็นตัววัดหรือ
ตัวตัดสินได้ สุดล้วนแล้วแต่ความพึ่งพอใจของใครคนนั้น
------------------------------------------------------------------------
#Siamstr 

 คาถาเลิกทาส By @Wichit Saiklao 
------------------------------------------------------------------------ 
1.Be productive ทำงานให้หนัก หางานเพิ่ม job 2 job 3 ก้มหน้าทำไปด้วยความอดทน
------------------------------------------------------------------------
2.แดกให้น้อยลง มีเหลือ save ในบิตคอยน์
------------------------------------------------------------------------
3.ทำตามนี้อย่างน้อย 4 ปี
-----------------------------------------------------------------------
หากทำตามนี้แล้ว ชีวิตมึงยังไม่เป็นอิสระภายในปี 2025 ให้แวะมาหาพี่ ชาตินี้
เราคงไม่หลุดพ้นแล้วแหละ ไปหาแผ่นดินใหม่ ไปหาดาวดวงใหม่อยู่ หรือเราคง
เจอกันอีกทีชาติหน้า 555 #Siamstr
-----------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ : โพสเมื่อ Feb 18, 2022
https://image.nostr.build/188b43d6f8e04ef210c62fe2a0d89d86ac8ccf9f5df6f2e08c08222e8f6787bd.jpg 

 วันพิซซ่าบิตคอยน์ (Bitcoin Pizza Day) ฉลองกันทุกปีในวันที่ 22 พฤษภาคม 
เพื่อรำลึกถึงการทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ครั้งแรกที่ใช้บิตคอยน์ ในวันนี้ในปี 2010
โปรแกรมเมอร์ชื่อ Laszlo Hanyecz ได้จ่ายบิตคอยน์จำนวน 10,000 เหรียญ 
เพื่อซื้อพิซซ่าจาก Papa John’s สองถาด ในขณะนั้น บิตคอยน์เหล่านี้มีมูลค่า
ประมาณ41 ดอลลาร์ การทำธุรกรรมนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์
ของบิตคอยน์โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมันในฐานะเป็นวิธีการแลกเปลี่ยน
-----------------------------------------------------------------------
นี่คือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับวันพิซซ่าบิตคอยน์ :
-----------------------------------------------------------------------
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ : การทำธุรกรรมนี้เน้นย้ำถึงการใช้บิตคอยน์ในทาง
ปฏิบัตินอกเหนือจากบริบททางดิจิทัล มันเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า
บิตคอยน์สามารถใช้ซื้อสินค้าในโลกจริงได้
-----------------------------------------------------------------------
การเปลี่ยนแปลงมูลค่า : บิตคอยน์ 10,000 เหรียญที่ใช้ซื้อพิซซ่าในตอนนั้นจะมี
มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของมูลค่า
บิตคอยน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความผันผวนและการเติบโต
อย่างรวดเร็วของสกุลเงินดิจิทัลนี้
-----------------------------------------------------------------------
ผลกระทบทางวัฒนธรรม : วันพิซซ่าบิตคอยน์ได้รับการเฉลิมฉลองจากผู้ที่สนใจ
ในสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก มักมีการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นที่เกี่ยวกับพิซซ่า 
เป็นการเตือนถึงจุดเริ่มต้นของบิตคอยน์และการเดินทางสู่การยอมรับในกระแสหลัก
-----------------------------------------------------------------------
ช่วงเวลาเพื่อการศึกษา : วันนี้ยังถูกใช้ในการให้ความรู้เกี่ยวกับบิตคอยน์และสกุลเงิน
ดิจิทัล ประวัติศาสตร์ของมัน และศักยภาพในอนาคต มันเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนา
เกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินและเทคโนโลยีของสกุลเงินดิจิทัล
-----------------------------------------------------------------------
วันพิซซ่าบิตคอยน์เป็นการเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความคิดถึงสำหรับ
ชุมชนคริปโต โดยเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในการเดินทางของบิตคอยน์จาก
สกุลเงินดิจิทัลที่ไม่เป็นที่รู้จักไปสู่สินทรัพย์ทางการเงินที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้าง
ขวาง 
------------------------------------------------------------------------
#Siamstr
 

 Good Night #Siamstr
Success is never accidental. @jack 
https://image.nostr.build/66ac8f63e4ab62ed0a073da09c023b317cea72d29270d33acafeebb69263ae1d.jpg 

 "We rely on Bitcoin as a tool to protect against inflation."
------------------------------------------------------------------------
"Bitcoin also relies on us as a tool to protect and run the system."
------------------------------------------------------------------------
#Bitcoin #Nostr #Siamstr 

 3 ดอลลาร์ในวันนั้นประมาณ 500000 ซาโตชิ
แต่ต้องแลกมากับการฟังพี่ชิตเล่าเรื่องบิตคอยน์ 5 นาที
เท่ากับว่า 5 นาที แลกกับ 500000 ซาโตชิ
ก็ตกเฉลี่ยนาทีละ 100000 ซาโตชิ
----------------------------------------------------------------------
ถ้าวันนั้นคุณเป็นผู้โชคดี คุณได้ฟังพี่ชิตเล่าเรื่องบิตคอยน์แค่ 5 นาที
มูลค่าของการฟังของคุณ 5 นาทีในวันนั้น
จะมีมูลค่า 327 ดอลลาร์ในวันนี้
ถ้าตีเป็นเงินบาทไทยก็ 11772 บาท
ถ้าคิดเป็นนาทีก็นาทีละ 2354 บาท
----------------------------------------------------------------------
นี่อาจจะแสดงถึงการที่ตัวบิตคอยน์เองสามารถต้านทานการเสื่อมค่าของเงินได้
และแสดงถึงกาลเวลาที่พ่อหนุ่มคนนั้นไม่สามารถหวนคืนกลับไปรับบิตคอยน์ได้
ดังนั้น เวลาของเรามีค่าและมีจำกัด โปรดเสียสละเวลามาศึกษาบิตคอยน์
----------------------------------------------------------------------
#Siamstr @Wichit Saiklao 

https://image.nostr.build/3168ae9b1ab225b1c94ec7d8034dd0cfb1e66d6ad32b0597a9754668a646be54.jpg 

 ผมว่าจะลองเปิดรับแทงหวยเป็น sats ดูครับ มีใครสนใจไหมครับ
จะเปิดให้แทงตั้งแต่เลข 00-99 ครับ เลขละ 100 sats 
โดยจะมีรางวัลสำหรับผู้ถูกรางวัลเลขท้ายสองตัว 1000 sats ครับ
รางวัลที่ออกจะยึดตามสลากกินแบ่งของรัฐบาลเรา วันที่ 1 กับ 16 ครับ
ใครสนใจสามารถ พิมพ์ตัวเลข โดยการ Reply มาได้เลยครับ
การชำระเงินก็คือ การ zaps มาให้ผมครับ โพสนี้เลยครับ
ละเดี๋ยวผมจะไปไล่เช็คอีกทีครับ ขอบคุณครับ #Siamstr 

 Episode นี้โครตดีครับ ต้องขอบคุณ @Right Shift และคุณ @970ffed0 ที่นำเสนอครับ 
เขาพยายามเล่นกับการหลั่งสาร Dopamine จากการทำกิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุข
ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่สามารถกระตุ้นนั้นก็คือ กิจกรรมที่เกี่ยวกับ Sexual matters เรื่องพวกนี้
ถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เพราะมนุษย์เราอาศัยสิ่งนี้ในการดำรงเผ่าพันธุ์ ถ้าเราไปฝืน
เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ผมเคยลองมาแล้วจนถึงตอนนี้ผมยังไม่สามารถเอาชนะมันได้
ส่วนหนึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเราถูกสังคมหล่อหลอมและปลูกฟังมาตั้งแต่วัยรุ่น
ทำให้เราคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่เกี่ยวกับเรื่อง Sex นี่เป็นเรื่องปกติ ทำให้เราไม่ได้คิดถึง
มุมมองทางธุรกิจที่ พวกสื่อต่างๆกำลังหากินเกี่ยวกับ ความใคร่ของเรา ทำให้เราหลง
จนพอมารู้เข้าอีกที เราก็ตกเป็นทาสของพวกสื่อต่างๆเหล่านั้นไปแล้ว สิ่งที่พอจะทำได้
สำหรับผม ผมพยายามที่จะอยู่ห่างจากสื่อเหล่านั้นไว้ แม้ไม่ได้สนใจ แต่ยังไงมันก็ขึ้น
มาให้เราเห็น อีกทางหนึ่งที่พอจะช่วยได้สำหรับผมคือการ ฝึกนั่งสมาธิ มันช่วยให้เรา
ไม่ฟุ้งซ่าน นำหลักธรรมมาเป็น กุศโลบาย สักหน่อย ถ้าเรายังไม่สามารถลดการเสพ
กามของเราได้ เราก็ไม่สามารถที่จะลดภพชาติได้สักที เราจะเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้
จักจบสักที เพราะเราล้วนแล้วแต่เกิดมาจากการเสพกามของ พ่อและแม่เรา #Siamstr
https://www.youtube.com/watch?v=VcprOeAtA84
 

 Satoshi Nakamoto เป็นนามแฝงของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่สร้าง Bitcoin 
และเขียนโปรแกรม Bitcoin-Qt โดยมีเอกสารไวท์เปเปอร์ (white paper) 
ที่ชื่อว่า "Bitcoin : A Peer-to-Peer Electronic Cash System" 
เผยแพร่เมื่อปี 2008 และเป็นพื้นฐานของการสร้าง Bitcoin ในปี 2009
-----------------------------------------------------------------------
แนวคิดหลักที่ทำให้ Satoshi Nakamoto สร้าง Bitcoin ขึ้นมา มีดังนี้ :
-----------------------------------------------------------------------
การทำธุรกรรมโดยไม่มีตัวกลาง : หนึ่งในเป้าหมายหลักของ Bitcoin คือ การสร้าง
ระบบการเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือสถาบันการเงินใดๆ ทำให้การทำธุรกรรม
สามารถเกิดขึ้นได้โดยตรงระหว่างผู้ส่งและผู้รับ (peer-to-peer)
-----------------------------------------------------------------------
ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ : ระบบของ Bitcoin ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
(blockchain) เพื่อบันทึกธุรกรรม ซึ่งมีลักษณะกระจายศูนย์และไม่สามารถแก้ไข
ได้ง่ายๆ ทำให้ธุรกรรมมีความปลอดภัยและโปร่งใส
-----------------------------------------------------------------------
การกระจายอำนาจ : Bitcoin ออกแบบมาให้ไม่มีศูนย์กลางควบคุมใดๆ การทำธุรกรรม
และการขุด Bitcoin สามารถทำได้โดยทุกคนที่มีอุปกรณ์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การกระจายอำนาจนี้ทำให้ Bitcoin ไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือองค์กรใดๆ
-----------------------------------------------------------------------
ลดค่าธรรมเนียม : การทำธุรกรรมผ่าน Bitcoin มักมีค่าธรรมเนียมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ
การทำธุรกรรมผ่านธนาคารหรือบัตรเครดิต ทำให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายใน
การโอนเงิน
-----------------------------------------------------------------------
ความเป็นส่วนตัว : Bitcoin ช่วยให้ผู้ใช้งานมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในการทำธุรกรรม
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากมาย เช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลธนาคาร
-----------------------------------------------------------------------
การสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระจากเงินเฟ้อ : Bitcoin มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ
ซึ่งทำให้ไม่สามารถผลิตเพิ่มขึ้นมาได้ไม่จำกัด ส่งผลให้ Bitcoin มีศักยภาพในการ
รักษามูลค่าและป้องกันเงินเฟ้อในระยะยาว
-----------------------------------------------------------------------
#Siamstr 

 Dollar Cost Averaging (DCA) vs MVRV 
: A 10-Year Bitcoin Investment Comparison
--------------------------------------------------------------------------
Investment Period : October 1, 2014 - June 1, 2024
--------------------------------------------------------------------------
Dollar Cost Averaging (DCA) Approach :
- Strategy: Invest $3 USD on the 1st day of each month, purchasing at
the opening price.
- Total Amount Invested : $351 USD
- BTC Acquired : 0.2698 BTC
- Total BTC Value : Approximately $16,608 USD
- Compound Interest Rate : 47.1%
--------------------------------------------------------------------------
MVRV Approach :
- Strategy : Purchase only when the MVRV ratio is below 1.0, investing
the same amount as DCA at the opening price.
- Note : During the period from November 1, 2023 to June 1, 2024,  
as MVRV was above 1.0, all funds were invested on June 1, 2024.
- Total Amount Invested : $351 USD
- BTC Acquired : 0.2433 BTC
- Total BTC Value : Approximately $14,978 USD
- Compound Interest Rate : 45.5%
--------------------------------------------------------------------------
Conclusion :
While Dollar Cost Averaging (DCA) involves a simple monthly 
investment approach, it yields better returns compared to 
the MVRV strategy over the specified period.
#Bitcoin #Nostr #Siamstr
 

 @chontit  #Siamstr
https://www.youtube.com/watch?v=4tiTfNmeNDs
nostr:nevent1qqsz3vklwzmv4dvak7s24qs0h8cyf57pwz45l3m70vql4da5s6q0znqpz4mhxue69uhhyetvv9ujuerpd46hxtnfduhsygyt36v7k40l3l0n6z07pphxks3smuez00fszmsnlvutqyty4j693spsgqqqqqqs3gvuy9 

 Lightning Network ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาอะไรบ้าง
--------------------------------------------------------------------------
Scalability (ความสามารถในการขยายตัว) : Bitcoin blockchain มีข้อจำกัดในการ
ทำธุรกรรมต่อวินาที (ประมาณ 7 ธุรกรรมต่อวินาที) ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการที่
เพิ่มขึ้นของผู้ใช้ เมื่อเครือข่ายมีการใช้งานมากขึ้น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะสูงขึ้น
และการยืนยันธุรกรรมจะช้าลง Lightning Network เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถใน
การทำธุรกรรมของ Bitcoin โดยการสร้างช่องทางการชำระเงินแบบ off-chain ซึ่ง
หมายความว่าธุรกรรมจำนวนมากสามารถทำได้โดยไม่ต้องบันทึกทุกธุรกรรมลงใน
blockchain หลัก
--------------------------------------------------------------------------
ลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม : การทำธุรกรรมผ่าน Lightning Network สามารถ
ทำได้ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าการทำธุรกรรมบน Bitcoin blockchain หลัก
เนื่องจากไม่ต้องรอการยืนยันจาก miners หลายครั้ง อีกทั้งการทำธุรกรรมผ่าน
Lightning Network สามารถทำได้แทบจะทันที (instantaneous transactions)
ทำให้ผู้ใช้สามารถโอนเงินได้อย่างรวดเร็วและถูกกว่ามาก
--------------------------------------------------------------------------
ความเป็นส่วนตัว : ธุรกรรมที่ทำบน Lightning Network จะไม่ถูกบันทึกลงใน
blockchain หลัก จึงสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้มากขึ้น
--------------------------------------------------------------------------
Microtransactions : เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่ต่ำและความเร็วในการทำธุรกรรม
ทำให้ Lightning Network เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมขนาดเล็กหรือ microtransactions ที่ไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพบน 
Bitcoin blockchain หลัก
--------------------------------------------------------------------------
#Siamstr 

 ชุมชนที่ไม่มีรัฐบาล : การจัดการและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
------------------------------------------------------------------------
ในยุคปัจจุบัน การมีรัฐบาลเป็นสิ่งที่เราเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ยังมีชุมชนบางแห่งที่เลือก
หรือจำเป็นต้องดำรงอยู่โดยไม่มีรัฐบาลกลางหรือท้องถิ่นที่มีอำนาจสั่งการอย่างชัดเจน
ชุมชนเหล่านี้มักดำเนินชีวิตด้วยระบบที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งสามารถสะท้อนถึงความ
หลากหลายทางวัฒนธรรม ความเชื่อ และวิธีการจัดการสังคมที่แตกต่างออกไป
------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่างชุมชนที่ไม่มีรัฐบาล
------------------------------------------------------------------------
1. ซาปาติสต้า (Zapatistas) ในเม็กซิโก
ซาปาติสต้าเป็นกลุ่มชาวพื้นเมืองในรัฐเชียปัส (Chiapas) ของเม็กซิโกที่ก่อตั้งระบบ
การปกครองตนเองขึ้นในปี 1994 พวกเขายึดหลักการของการบริหารจัดการตนเอง
(self-governance) โดยมีการจัดตั้งสภาท้องถิ่นที่ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงและเน้นการ
แบ่งปันทรัพยากรและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซาปาติสต้ายังเน้นการศึกษาและสาธารณสุขเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและยั่งยืน
------------------------------------------------------------------------
2. ฟรีทาวน์ คริสเตียนเนีย (Freetown Christiania) ในเดนมาร์ก
คริสเตียนเนียเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในเมืองโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 
บนพื้นที่เดิมของฐานทัพทหาร ชุมชนนี้มีระบบการบริหารที่ไม่ใช่แบบทุนนิยมและ
ไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลาง แต่ใช้การตัดสินใจร่วมกันผ่านการประชุมชุมชน 
สมาชิกของชุมชนมีความรับผิดชอบในการบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง 
เช่น การจัดการขยะ การรักษาความปลอดภัย และการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร
------------------------------------------------------------------------
การจัดการในชุมชนที่ไม่มีรัฐบาล
------------------------------------------------------------------------
1. การตัดสินใจร่วมกัน
การตัดสินใจในชุมชนที่ไม่มีรัฐบาลมักใช้วิธีการประชุมและการอภิปราย 
สมาชิกในชุมชนจะมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ
อย่างเท่าเทียม การตัดสินใจจะใช้วิธีการเห็นพ้องต้องกัน (consensus) 
เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่ามีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบในผลการตัดสินใจ
------------------------------------------------------------------------
2. การแบ่งปันทรัพยากร
ชุมชนเหล่านี้มักมีระบบการแบ่งปันทรัพยากรอย่างเป็นธรรม เช่น การใช้ที่ดินร่วมกัน
การแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการโดยไม่ใช้เงินสด และการสร้างระบบความช่วยเหลือ
ซึ่งกันและกัน สมาชิกในชุมชนจะมีการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและทักษะต่างๆ 
เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์
------------------------------------------------------------------------
3. การรักษาความสงบเรียบร้อย
ในชุมชนที่ไม่มีรัฐบาล การรักษาความสงบเรียบร้อยมักเป็นหน้าที่ของสมาชิกทุกคน
การสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความรับผิดชอบร่วมกันช่วยลดปัญหาการเกิด
อาชญากรรมและความขัดแย้ง นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการหรือ
กลุ่มงานเฉพาะกิจเพื่อดูแลเรื่องนี้
------------------------------------------------------------------------
ชุมชนที่ผมรู้จักในประเทศไทยที่เน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก คือ หมู่บ้านราชธานีอโศก อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นชุมชนที่รวมกลุ่มคนที่ศรัทธาใน
ท่านสมณะโพธิรักษ์ อันมีแนวทางการปฏิบัติที่ฝึกฝนตนเองตามแนวทางของศาสนาพุทธ
มีการดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทำการเกษตรกรรมปลอดสารพิษ
และการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม
#Siamstr 

 ระบบเงิน Fiat (Fiat money) เริ่มต้นครั้งแรกในประเทศจีนในช่วงสมัยราชวงศ์ถัง 
(ค.ศ. 618–907) และพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271–1368) 
โดยใช้เงินกระดาษแทนการใช้เหรียญเงินและทองคำที่มีน้ำหนักและมีค่าจริง 
ในระยะแรก ระบบการเงินนี้ถูกนำมาใช้เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมและพกพา 
โดยมีการรับรองมูลค่าโดยรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจ ระบบนี้มีความสะดวกกว่าการใช้เหรียญเงินหรือทองคำซึ่งมีน้ำหนักเยอะและต้องตรวจสอบความบริสุทธิ์ของโลหะหรือทองคำ 
ประเทศจีนจึงถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของระบบเงิน Fiat ซึ่งหลังจากนั้น ระบบนี้ได้แพร่ขยาย
ไปยังส่วนต่างๆ ของโลก โดยยุโรปและประเทศอื่นๆ เริ่มนำมาปรับใช้ตามในช่วงเวลาต่อมา
#Siamstr 

 ระบบการเงินในรูปแบบ Fiat เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันอย่างมากในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ 
ผู้กำหนดนโยบาย และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน แม้ว่าระบบนี้จะมีข้อดี เช่น ความยืดหยุ่นในนโยบายการเงินและความสามารถในการตอบสนองต่อวิกฤตทางเศรษฐกิจ แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับด้านที่ "แย่" ของระบบการเงินในรูปแบบ Fiat :
1. ความเสี่ยงของเงินเฟ้อและภาวะเงินเฟ้อรุนแรง
เงินในรูปแบบ Fiat ไม่มีการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์อะไรเลยเช่นทองคำหรือเงิน นั่นหมายความว่ามูลค่าของมันขึ้นอยู่กับคำสั่งและความไว้วางใจของรัฐบาล ธนาคารกลางสามารถพิมพ์เงินเพิ่มได้ตามต้องการ ซึ่งอาจนำไปสู่เงินเฟ้อหากปริมาณเงินเติบโตเร็วกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ในกรณีที่รุนแรง อาจเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง ซึ่งทำลายกำลังซื้อและการออม ตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ได้แก่ ซิมบับเวและสาธารณรัฐไวมาร์ในเยอรมนี
2. การสูญเสียมูลค่าในระยะยาว
เนื่องจากเงินเฟ้อ สกุลเงิน Fiat มักจะสูญเสียมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป นั่นหมายความว่ากำลังซื้อของเงินลดลง และคนต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าและบริการเท่าเดิม สิ่งนี้อาจส่งผล
กระทบต่อการออมและการลงทุนในระยะยาว บังคับให้ผู้คนหาทางเลือกอื่นในการเก็บรักษามูลค่า
3. การควบคุมและการแทรกแซงโดยรัฐบาล
มูลค่าและปริมาณของเงิน Fiat ถูกควบคุมโดยธนาคารกลางและรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การแทรกแซงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ รัฐบาลอาจใช้วิธี "การพิมพ์เงิน" เพื่อเป็นทุนสำหรับการใช้จ่ายโดยไม่เพิ่มภาษี ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่รับผิดชอบทางการคลังและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ
4. การพึ่งพาหนี้สิน
ระบบเงินในรูปแบบ Fiat มักนำไปสู่หนี้สินระดับชาติที่สูง รัฐบาลสามารถกู้ยืมเงินได้ง่ายขึ้นเนื่องจากสามารถพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ตาม การกู้ยืมที่มากเกินอาจนำไปสู่วิกฤติหนี้ ซึ่งความสามารถในการชำระหนี้กลายเป็นคำถาม ทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ
5. ความไม่เท่าเทียมและการกระจายความมั่งคั่ง
การสร้างเงินใหม่และการกระจายเงินในช่วงแรกอาจนำไปสู่ความไม่เท่าเทียมกันของความมั่งคั่ง ผู้ที่ได้รับเงินใหม่ก่อน เช่น ธนาคารและสถาบันการเงิน จะได้รับประโยชน์มากกว่าผู้ที่ได้รับเงินในภายหลัง สิ่งนี้อาจทำให้ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และความมั่งคั่งแย่ลง นำไปสู่ความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจ
6. ความซับซ้อนและการขาดความโปร่งใส
ระบบการเงินในรูปแบบ Fiat เกี่ยวข้องกับกลไกที่ซับซ้อน เช่น การธนาคารสำรองแบบส่วนเกินและการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ซึ่งอาจยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจ ความขาดความโปร่งใสนี้อาจทำให้ความเชื่อมั่นในระบบการเงินลดลงและทำให้ผู้คนตัดสินใจทางการเงินได้ยากขึ้น
7. ความเสี่ยงต่อวิกฤตการณ์
ระบบการเงินในรูปแบบ Fiat อาจเสี่ยงต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เช่นที่เห็นในวิกฤตการเงินโลกปี 2008 ความเชื่อมโยงกันของธนาคารและสถาบันการเงิน พร้อมกับระดับการกู้ยืมและความเสี่ยงที่สูง อาจนำไปสู่ความล้มเหลวของระบบที่ต้องการการแทรกแซงจากรัฐบาลและการช่วยเหลือบริษัทขนาดใหญ่ Too Big to Fail
#Siamstr
 

 Moderator : มารู้จักบิตคอยน์ได้อย่างไร?
P'Chit : จริงๆก่อนบิตคอยน์เนี้ย! พี่ชิตมานั่งไล่ Logic ของปัญหาที่อยู่รอบข้างพี่ชิต
พี่ชิตรู้แล้วว่า ไอ่เหี้ย! เกือบกับทุกปัญหาแม่ง! เกี่ยวกับเงินหมดเลย ไอ่สัส! เงินแม่ง
ไม่ซื่อสัตย์ เงินแม่งไม่สุจริต ทำไมมึงทำงานแค่นี้ มึงรับแค่นี้ แต่คนไทยทำงานแค่นี้
รับเพียงน้อยนิด แม่ง! Something Wrong! แม่งไม่แฟร์ คือมันเต็มไปด้วยความ
ไม่แฟร์ของระบบการเงินอยู่แล้ว แม่งต้องสร้างเงินใหม่ ไดเดียสร้างเงินใหม่ของพี่ชิต
ตั้งแต่ 2009-2010 เพื่อที่จะสร้าง Token ใหม่ที่จะเป็นตัว Represent น้ำพักน้ำแรง
คุณค่า มูลค่าของพวกเรา แล้วอยู่ดีๆ ก็มาได้ยินคำว่า"บิตคอยน์"เป็นเงินชนิดใหม่ 
ได้ยินครั้งแรกบิตคอยน์ 100$ ผ่านไปแป๊บเดียว ประมาณปี 2013 บิตคอยน์ขึ้นไป
1000$ ก็พยายามจะเข้าไปศึกษาและก็สนใจมัน ยังได้ไม่ลึก แต่พอลงไปในเชิง
ของตรรกะ วิธีการ Proof of work, Decentralized, Cryptography เชี้ย! นี่มัน
คือเครื่องมือที่เรา ที่พี่ชิต จินตนาการและก็ตามหามาตลอดเวลา อะไรอย่างเงี้ย
ความสนใจอะ มันมีมาก่อนหน้านี้แล้ว ว่ามันต้องมีเงินที่แม่งเจ๋ง! ทำให้เวลาของ
ทุกคนในโลกนี้แม่งแฟร์! แต่ปัจจุบันแม่งไม่แฟร์
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : ซื้อขายบิตคอยน์สมัยก่อนยากแค่ไหน?
P'Chit : ก็อยากซื้อ แต่มันซื้อยากมาก จำได้ว่า อยากจะโอนเงินไปที่ Mt.Gox 
เพราะมันเป็น Exchange เดียวในโลก ดูเหมือนจะยากจังเลยก็ เอางี้ละกัน ไปซื้อ
Thumb Drive เครื่องขุดบิตคอยน์ 2 ตัว ละก็มานั่งทำกับน้อง 2 คน แล้วก็
Joy mining pool แล้วแม่งได้บิตคอยน์จริงๆโว้ย!
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : ได้มาเท่าไหร่คะ?
P'Chit : พี่ชิตจำไม่ได้ว่า อ๊าา ไม่รู้สัก 0.1 บิตคอยน์ ก็ 10 ล้านซาโตชิแล้ว คือตอนนั้น
ยังไม่รู้ว่า 1 บิตคอยน์ หน่วยย่อย แม่งเรียกว่าซาโตชิ เข้าใจไหม? ก็พอได้มาเสร็จปั๊บ
เฮี้ยแม่ง! work เฮี้ย work เราควรจะซื้อเครื่องที่แม่ง! แรงมากกว่านี้ ก็รวบรวมเงิน
จาก พี่ๆ น้องๆ ได้อีก 75000 บาท เราไปซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ พอเราได้เครื่องขุด
บิตคอยน์ ก็เรา เฉลี่ยเราได้เดือนหนี่งประมาณ 1 บิตคอยน์ แล้วเราก็เอาบิตคอยน์
แบ่งไปตามคนที่ลงเงิน พี่ชิตกับน้องก็เก็บไว้ค่าบริหารจัดการประมาณ 10-20% 
อะไรอย่างเงี้ย! นั่นคือวิธีการได้มาบิตคอยน์ แต่พอได้มาเสร็จปั๊บ พี่ชิตก็ชอบ ชอบที่จะ
เล่าเรื่องไอเดียบิตคอยน์ ให้คนฟังแต่ส่วนใหญ่แม่ง! ก็ไม่เชื่อ พี่เลยบอกให้ไป
Download wallet เลย แล้วพี่ก็โอนให้คนละ 3$ 3$ 3$ บิตคอยน์วันนั้นเนี้ยประมาณ
5 แสนซาโตชิ อะไรเงี้ย! เพราะงั้นพี่ชิตโอนบิตคอยน์ไปทั้งหมด กลับไปดูที่ Wallet
พี่ชิตก็โอนไปล้านกว่าบาท แจกบิตคอยน์ คือ ใครฟังพี่ชิต มึงทนฟังพี่ชิตเล่าเรื่อง
บิตคอยน์ได้ 5 นาที เชี่ย! มึงเอาไปเลย 3$ 3$ อะไรเงี้ย! ก็คือคนละ 100 บาท
อันนั้นคือเฟส 1 อีกเฟสหนึ่งก็คือ เป็น Miner เป็นคนขุดบิตคอยน์ บิตคอยน์มัน
ทำอะไรได้บ้างอย่างเงี้ย!
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : ทำไมถึงเชื่อมั่นในบิตคอยน์?
P'Chit : มึงอย่าลืมนะว่า พี่ชิตมีโจทย์นะ ไอ่สัส! ระบบการเงินแม่งไม่แฟร์ ไอ้เหี้ย!
มึงเข้าใจไหม? มึงทำร้ายประชาชน มึงทำร้ายคนจน มึงทำร้ายอยู่ทุกวันนี้ แล้ว
พ่อแม่พี่น้องเราก็ แม่งไม่เข้าใจว่า พวกมึงไม่มีเครื่องมือเก็บพลังงาน เข้าใจไหม?
มึงเก็บไว้ในเงินสดเนี้ย มึงรู้ไหม Inflation จริงๆมันมากกว่า 7% อะพี่ชิตให้ 7%
คนก็แม่งไม่รู้อีกว่าถ้า Inflation เงินเฟ้อ 7% เนี้ย เงินล้านหนึ่งในบัญชีเนี้ย ผ่านไป
10 ปีเนี้ย เหลือแค่ 5 แสนนะครับ แต่คนมันไม่เข้าใจว่า ว่าไม่ใช่ตัวเลขหนึ่งล้าน
เข้าใจไหม? มันคืออำนาจในการซื้อ กระดาษนะมันไม่ใช่ของจริง มันเป็นแค่ Buffer
ถ้าเราเรียนคอมพิวเตอร์มาเข้าใจไหม? บิตคอยน์ มันเป็นแค่ Buffer มันเป็นแค่
Container มันเป็นแค่เซลล์ แต่มัน Hold มัน Hold energy มันเก็บ Energy นั่นคือ
ของจริง มนุษย์ไม่รู้ว่า มึงทำงานมี Output นั่นคือของจริง แต่มึงไม่รู้จะเก็บยังไง 
แล้ววันหนึ่งมึงจะเปลี่ยนไปเป็นของอย่างอื่น มนุษย์ก็เลยคิด Concept การสื่อสาร
แลกเปลี่ยน Energy น้ำพักน้ำแรงกันด้วย การหาอะไรสักอย่างหนึ่งเงี้ย! เขาเรียกว่า
Money ก็แล้วกัน จริงๆ Money แม่งจะเป็นเหี้ยอะไรก็ได้ไง แยกให้ออกระหว่าง
ของจริงกับวัตถุอะไรก็ได้ เป็นเหี้ยอะไรก็ได้ไง กระดาษก็ได้ แล้วทำไมเป็น 
Digital Container ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ของจริง บิตคอยน์ไม่ใช่ของจริงไอ่สัส!
ของจริงก็คือ คุณค่า มูลค่า น้ำพักน้ำแรงที่เราสร้าง Output เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
นั่นคือของจริง เพราะทางเดียวเท่านั้นที่จะสร้างความมั่งคั่ง ทางเดียวเท่านั้นที่เราจะ
หลุดพ้น ทางเดียวเท่านั้นที่เราจะขยับ ลำดับชั้นในสังคม มึงต้องอดออม แต่ทีนี้ 
คนแม่ง! ไม่ Appreciate อดออม เพราะคนอดออมในระบบเงิน Fiat ไอ่เหี้ย!
มึงคือ Loser 555+ เพราะมึงมันออม มึงเก็บไว้ในเครื่องมือที่มันห่วยมากอะ ละคนก็
ไม่รู้อีกว่า ทำไมอยู่ดีๆ พวกมึงจบมา พวกมึงกำลังเรียนหนังสือแล้ว มึงต้องเข้าใจ
ลงทุน Investment แล้ว เพราะระบบการเงินแม่งเหี้ยไง มึงก็เลยต้องไปอีก Step 
หนึ่ง เพราะมันด้อยค่าลงทุกวินาที มึงก็อยากจะเอาชนะอัตราเร่งของการด้อยค่า
ก็คือเงินเฟ้อ มึงชนะป่ะล่ะ 7% มึงชนะป่ะล่ะ Return 10% อะ แล้วชาวนาจะต้อง
เหี้ย! ไถ ดำ หว่าน เก็บเกี่ยว เหนื่อย เหี้ยๆ! อยู่แล้ว อยู่ดีๆจะต้องมาเข้าใจ 
ลงทุนอีกหรอ Portfolio, Risk management อีกหรอ ทำไมไม่แค่ออมอะ ออมอะ
ออมอะ เพราะงั้น ออมเนี้ยเป็น Action เดียวที่แม่ง! Apply ได้ทั้ง 70 ล้านคน 
Work กว่าเยอะ
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : แล้วทองล่ะ?
P'Chit : โอเคร มึงมีทอง ทองคำก็ใช่ แต่ทองคำ โฮ้! มึงต้องแบบ มึงต้อง มีงต้อง
เก็บพลังงานเหลือกินเหลือใช้เป็น Batch...Batch อย่างน้อยมันต้องเก็บให้ได้
1 สลึง 8000 บาท โอ้โฮ้! ใครจะมี Discipline เห็นไหม Unit ในการ Stored
น้ำพักน้ำแรง โฮ้แม่งยาก! แต่บิตคอยน์ เหี้ย! บาทโง่ๆของมึง แม่ง! 50 ซาโตชิ
70 ซาโตชิ ถูกเหี้ย!
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : ราคาร่วงแค่ไหนก็ไม่สำคัญ?
P'Chit : ถูกต้องเพราะมันมีจำกัด นี่คือการันตี แต่ Energy ของมนุษย์ที่จะใส่ลง
ไปใน Network นี้ มันไม่จำกัด มัน Infinity ใครเข้าก่อนก็ได้เปรียบทีนี่
You deserve it. ก็มึงคู่ควรไอ่เหี้ย!
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : เริ่มออมบิตคอยน์ตั้งแต่เมื่อไหร่?
P'Chit : ตั้งแต่ 2013-2020 ก็ได้มาจากการที่บอกให้ฟัง แจกคนไปเยอะ พี่ชิตตั้งใจ
เก็บ Energy ของพี่ชิตจริงๆ 29 ธันวาคม 2020 มึงคิดดูขนาดพี่ชิตเนี้ย! พี่ชิตเก็บที่
790000 บาท ละหลังจากนั้นพี่ชิตไม่เคยสนใจราคา 790000,900000,1200000,
1500000, 2400000 กูไม่ได้สนใจ สนใจว่ากูจะหา Fiat ที่ไหนที่มันจะเร็วที่สุด
เท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อจะเก็บในเซลล์ที่มันมีอยู่จำกัด Point มีอยู่แค่นี้ วันเนี้ยหา
Fiat ได้ไม่ทัน เข้าใจไหม?
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : ซื้อทุกราคา?
P'Chit : ซื้อทุกราคา มันจะบ้าหรอ ที่ดินในสีลมอะมึง หมดแล้วหมดเลยอะ
เข้าใจไหม? หมดแล้วหมดเลย มีอยู่แค่นี้ เอ้า!อย่างงี้ มันก็ไม่แฟร์สิพี่ชิต คนทั้งโลก
ไม่มีสิทธิถือบิตคอยน์ เข้าใจรึยัง!
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : 21 ล้านบิตคอยน์ไม่พอสำหรับคนทั้งโลก?
P'Chit : อ้าว! แล้วมันจะแฟร์ยังไง ก็ต้องสร้างอย่างอื่น Refer ออกไปสิ Expand
มันออกไปสิ เข้าใจไหม!
-----------------------------------------------------------------------
Moderator : เอามาอ้างอิง?
P'Chit : ถูกต้อง มันต้องอ้างอิงกับสิ่งนี้ พี่ชิตก็จะเล่าให้ฟังว่า หากมีที่ดินในสีลม
หมดแล้วหมดเลย แต่เจ้าของที่ดินบอกว่า ก็ฉันมีที่ดินในสีลม ผู้ประกอบการ บอกว่า
เช่าสักไร่ได้ไหม อยากจะสร้างตึกสัก 100 ชั้น อ๊ะเห็นไหม มีคนมาขอเช่าพื้นที่
สร้างตึก 100 ชั้น อีกคนหนึ่งเดินมา ฉันไม่มีปัญญาที่จะไปกู้เงิน 1000 ล้าน เพื่อมา
สร้างตึก ขอเช่าสักชั้นได้ไหม เพราะฉันอยากเปิด Software company อยากได้
ตรงนี้ ห้องตรงนี้ ชั้นนี้ อีกคนบอกว่า ฉันก็ไม่มีปัญญาที่จะสร้างบริษัท Software
แต่ฉันเขียนโปรแกรมได้ พนักงานบริษัท hear นั่งอยู่ใน Office บนตึกสร้างอยู่บน
ที่ดินสีลม อีกคนหนึ่งมาเห็น บอกว่า Software เขียนไม่เป็น แต่ตอนเที่ยงมึงต้อง
ลงมาแดกข้าวแน่ ขอทำเป็นรถเข็น ขายผลไม้ข้างๆ ตึกที่สร้างอยู่ในพื้นที่ที่สีลม
ที่มีพนักงาน Office นี่คือ...บิตคอยน์...นี่คือ...บิตคอยน์
@Wichit Saiklao #Siamstr 

 คุณโจนถือเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความคิดที่น่าสนใจครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้แกลองมาแชร์มุมมองดูครับ @Right Shift #Siamstr
https://www.youtube.com/watch?v=ijVRXehDBvc 

 พอดีผมเป็นคนว่างงาน ผมเลยอยากจะลองหางาน ที่ทำเกี่ยวกับบิทคอยน์ดูครับ
ไม่ทราบว่า community #Siamstr นี้ มีที่ไหน หรือใคร ที่รับสมัครบ้างครับ
ผมมองว่ามันยังเป็น technology ที่ยังใหม่อยู่ ผมมองเห็นโอกาสตรงนี้
เลยอยากที่จะลอง ศึกษาเรียนรู้ และ ทำ สิ่งต่างๆเกี่ยวบิทคอยน์ดูครับ 

 สวัสดีครับ #Siamstr เราสามารถใช้ wallet ไหนเชื่อมกับ #Nostr ได้บ้างครับ