อยากสดุดีและให้กำลังใจน้อง (ไม่อยากให้ใครคิดว่าผมขโมยซีน) ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหลายๆ อย่างผ่านโน๊ตนี้ เราจะข้ามสำนวนภาษาเรียลๆ นั่นไป (ซึ่งมันก็ต้องใช้ความกล้าอย่างมากที่จะเขียนออกมาแบบนี้) เราได้เห็นแล้วว่า สิ่งที่อยู่ในหัวกับสิ่งที่เราแสดงออก มันมักไม่เหมือนกัน และนั่นทำให้เราอึดอัด
คนที่เข้าคลาสพี่เป็ดก็น่าจะเข้าใจแล้วว่ามันเพราะอะไร ทำไมเราถึงเลือกจะทำให้ภาพลักษณ์เป็นแบบนึง ทั้งที่ตัวตนเราเป็นอีกแบบนึง.. เราคิดถึงผลที่ตามมา เราคาดหวังกับมันจนเรากลัวผลเหล่านั้น และมันปิดกั้นจินตนาการหลายๆ ด้าน บิดเบือนธรรมชาติหลายๆ อย่างในแบบที่ไม่จำเป็น ไม่มีถูกหรือผิดในเรื่องนี้ มันคือ “Choice” ที่แต่ละคนเลือกได้ตามสิทธิ์โดยธรรมชาติ
ถึงแม้เราจะได้รู้แล้วว่าการจัดงานอะไรแบบนี้มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องเจอ แต่ผมไม่อยากให้เรารู้สึกว่ามันหนักหนาอะไร ยุ่งยากอะไรขนาดนั้น เราไปถามทุกคนที่ผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาได้เลย สุดท้ายแล้วพวกเขา Happy ไหม? คุณมีความสุขใช่ไหม คุณรู้สึก appreciate ในสิ่งที่ตัวเองทำ ภูมิใจในสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเปล่า?
โชคดีของเราที่วินหวี มีสติ ระลึกรู้ตลอดเวลา ณ ขณะที่ทำสิ่งต่างๆ ไม่งั้นคงจำไม่ได้ละเอียดขนาดนี้ว่าตัวเองคิดหรือรู้สึกอะไรในตอนนั้น เราถึงได้อ่านมันทุกบรรทัดแบบละเอียดยิบ และความกล้าหาญที่จะเล่ามันออกมานั่นก็น่าชื่นชม
จริงๆ ผมรู้สึกได้ถึงการต่อสู้ของเขาในตัวเอง เสียงในหัวกับความจริง และสุดท้ายนายก็ได้เรียนรู้และข้ามมันมาได้ ทั้งหมดที่เขียนมามันบอกพี่ชัดแล้วว่านายข้ามมันมาได้แล้ว สิ่งที่รบกวนใจนายคือความคาดหวัง นี่คือสิ่งที่เกิดกับทุกคน
จริงๆ แล้วงานศิลปะไม่ใช่การออกแบบและจัดการให้งานออกมาดี แต่มันคือความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่ไม่ดีที่อาจเกิดขึ้นได้แม้เราจะเตรียมตัวมาดีแค่ไหนแล้วก็ตามต่างหากล่ะ สิ่งนั้นแหละคือบททดสอบที่มีค่า คือสิ่งที่เราต้องเจอไม่มีทางเลี่ยง เพราะเราออกแบบอนาคตไม่ได้จริงๆ หรอก มันจะมีบางอย่างที่ผิดวิสัยไปเสมอ
เมื่อรู้ว่ามันต้องมีแบบนี้อยู่แล้ว ทำไมเราจะต้องไปกังวลกับมันล่ะ?
กลับมานั่่งคิดสิ.. ในแต่ละสถานการณ์อะไรบ้างที่เราอาจคาดไม่ถึงที่จะเกิดขึ้นได้? และถ้ามันดันเกิดขึ้นจริงๆ ตามกฏของเมอร์ฟี เราจะรับมือกับมันยังไง มันดีกว่าเรามานั่งคิดว่าทำยังไงไม่ให้มันเกิดเสียอีก จริงป่ะ?
เมื่อเราเบรคทรูเรื่องนี้ได้ เราจะไม่เหลือความกดดันอะไรอีกเลย ไม่มีความคาดหวังอะไรทั้งสิ้น มีแต่ความพร้อมที่จะเผชิญและก้าวข้ามทุกปัญหาที่เป็นไปได้ เรามีแนวทางสำหรับทุกเรื่องเตรียมไว้แล้ว จากนั้นหัวของเราก็จะโล่ง เราจะเดินเข้าสู่สถานการณ์ต่างๆ ที่ว่ายากได้อย่างองอาจ
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พี่อยากเสริมให้ ทั้งกับวินและทุกคนที่ได้อ่าน รวมถึงคนที่เข้าใจอยู่แล้วว่าหลักการนี้คืออะไร เพื่อจะทำให้เราพัฒนาสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ออกมาดีกว่าเดิมในอนาคต ต่อไปนายก็แค่ยืดอกพกถุงแล้วพูดออกมาว่า “ใครก็ได้ เอามาเลย” นายจะไม่กลัวเรื่องแบบนี้อีกแล้ว นายจะอยากทำอีก จัดอีก 103, 104, 105, …
พี่ชื่นชมทุกการจัดการ ทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น พี่สบายใจขึ้นมากเมื่อรู้ว่าคอมมูนิตี้ของเราเต็มไปด้วยคนที่มีศักยภาพ คนที่พร้อมจะทำให้ “ความหวัง” ของอนาคตกลายเป็นความจริง..
ขอบคุณมากๆ ที่ทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นมา และขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันสร้างเรื่องราวดีๆ ไปด้วยกันครับ 🙏
#korat102 nostr:nprofile1qqsvtqpjnh60ruxludgjr92l7e3kvq0hsr6psnw7yphlx0a4p59k0jcpz4mhxue69uhhyetvv9ujuerpd46hxtnfduhszxrhwden5te0wfjkccte9eekjctdwd68ytnrdakj7qgcwaehxw309aex2mrp0yhxumm5daeks6fwwa5kutc0k7g9s
nostr:nevent1qqs933pnkqqv80gvq8m4cjharyt0yy9auq8y5s5ty27ra2fccwzz3hspramhxue69uhkummnw3ez6vpj9ejx7unpveskxar0wfujummjvuhsygx9sqefma837r07x5fpj40lvcmxq8mcpaqcfh0zqmln876s6zm8evpsgqqqqqqszt4a0r
"ทุกคนล้วนทำตามสิ่งที่ตัวเองถนัด"
สิ่งที่งานนี้เป็น ก็คือผมรวมของสิ่งที่ทุกคนในงานเป็น