Oddbean new post about | logout
 https://image.nostr.build/ec558fd93ae4d6cd9cadb3daa0b1cd311b5555a65aa26178623065e70941d735.jpg 
เกลียดตัวเองที่มีมาตรวัดอีกแล้ว ความรู้เท่าหางอึ่งยังมิอาจนะตัวเธอหาเรื่องจริงๆ 55555555
ชอบ กุศโลบายของวัฒนธรรม แต่เกลียดคำว่าจารีต

ทวด : เป็นหยั่งคือบ่ใส่ผ้าสิ่น บ่มีบ่ เอาบ่ มีพอได้ใส่ยุตั่ว
หลาน : 5555 มี แต่มันไม่คล่องตัว (การไม่ใส่ผ้าถุงสมัยนี้เป็นเรื่องง่าย คงไม่ทำให้ผิดจารีตทีคนเค้าทำๆกันมาเหมือนสมัยก่อนทีไครไม่ทำตามดูจะผิดจนถูกตราหน้า) 
ถ้าว่าไปก็ไม่ใช่แค่เรื่องผ้าถุง เฮ้ย 555555จารีตนะ

อืม การใส่ผ้าถุง คือดีและชอบมากด้วย มันจะทำให้เราไปช้าลง ได้อวดลายผ้าสิ่นว่าไครท้อสวย555 จะนั่งจะเดินหรือทำอะไรๆระมัดระวังมากขึ้นตามกุศโลบาย ถ้าไปวัดควรใส่ผ้าถุงจะได้ กิริยาเรียบร้อยสวยงามให้สมสถานที่ (ให้เกียรติสถานที่) หรือ ไม่ให้ได้ว่าเดินที่บ้านชามแตกที่วัด พูดเบาหัวเราะเบาให้มี “มันยาบๆ” (มารยาท555)
แต่ด้วยอะไรๆดูผิดเพี้ยนไปตามสมัยผ้าถุงที่ถูกเฟียตนำ 
“โอ้ยเจ้าคือใส่ผ้าถุงงามแท้ ซื้อมาจากไส” ใส่แล้วต้องสวยงามให้ตามยุคให้ทันสมัย ซื้อมาเต็มตู้ก็ไม่ว่า ผู้ไม่มีจะซื้อต้องยิบยืมขวนขวายหามาใส่ให้สวยเท่า กลายเป็นว่ามาใส่ผ้าถุงอวดกันว่าไครได้มาใหม่และทันสมัยกว่า (ดูก็เพลินดี) การใส่ผ้าถุงผืนเก่าเลยดูหลุดสมัยไปพร้อมกับกุศโลบาย(แล้วผืนเก่าที่ท้อมือก็ถูกลืมทิ้งในตู้ทั้งที่มันดีอยู่ และปล่อยขาดไปตามเวลาหาประโยชน์บ่มี ) คงลืมกันไปว่าไหมก็เป็นที่เก็บมูลค้าได้ดีเช่นกันถ้ารักษามันดีๆ ราคาตอนนี้ก็เอาเรื่องอยู่ ขึ้นแล้วไม่มีลง
อะไรที่ทำให้คนสิ้นหวัง
แล้วทำบุญกะคือกัน สรรคหากราบไหว้อันไหนที่ว่าดี ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ทุกวันนี้เห็นแต่นักขอนักกลัว ขอให้ได้โน้นได้นี้ตามสมหวัง หรือกลัวโน้นกลัวนี้กลัวไม่ได้ขี้นสวรรค์กลัวจะตกนรก นั้นก็อาจเป็นกุศโลบายนึงที่อยากให้คนอยากเข้าวัดเพื่อความกตัญญู บอกบุพการีตายแล้วอยู่ที่วัดต้องไปทำบุญกราบไหว้  
“เวลาคนเป็นดีอยู่ ไม่มีเวลาดูแล แต่พอตายไปเอาอะไรที่ว่าดีวางกันหน้าอัฐิ แล้วเรียกมากินกัน นั้นว่าเป็นการกตัญญูหรือบุญ”

ทวด : จักเว้าหยั่งฟังบ่ฮู้ความ
หลาน : 555555555 ยายหูบ่ดีแล้ว

ทำบุญทำมั้ยต้องทำที่วัดเท่านั้น ที่ไหนๆก็ทำบุญได้ แม่เลี้ยงลูกก็ว่าบุญ หลานดูยายก็ว่าบุญ (“ให้”แบบไม่เดือดร้อนตัว จะเงินหรือรูปแบบไหนตามกำลังมันก็บุญไหมยาย เหมือนกันการสร้างคุณค่า ไม่ได้บอกว่าทำตรงนี้ตรงนั้น ทำบุญต้องเท่านั้นเท่านี้ และต้องทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะสร้างคุณค่าได้ ที่ไหนๆอาชีพใดๆก็สร้างได้ อยู่หัวไร่ปลายนายังสร้างได้ นั่งทำงานในห้องแอร์ที่ว่าไม่มีเวลาก็ทำได้ ทำในแบบของไครที่ตามกำลัง “ทำบนความไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ใช่ต้องให้ได้ดังใจไครนั้นถึงเรียกว่าคุณค่า มันก็สร้างคุณค่าและบุญแล้วไหมยาย” (อยู่ที่ไหนๆบุพการีท่านก็รับได้) อย่างน้อยก็คุณค่าและบุญให้ตัวเอง ให้ไครไม่ได้ก็ให้ตัวเองก่อนหรือจะหาว่านั้นเห็นแกตัวก็แล้วไงถ้าตัวไม่รอดจะเอาไครรอดได้ งั้นคนที่อยู่ไกลบ้านก็ลำบากซิ อั้ยพวก Fๆทั้งหลายมันยิ่งทำให้คนใช้ชีวิตลำบากอยู่
หรือจะเอาแบบนักการเมือง จะท้องถิ่นหรือระดับประเทศ ที่สร้างคุณค่าบน………ไว้หาเสียง ที่ว่าคนอื่นเห็นว่าเป็นคุณค่าจากคำยกย่องเชิดหน้าชูตา สุดท้ายก็ถูกกลืนจนไม่มีไครรู้ตัวกัน อย่างว่านั้นเป็นคุณค่าในแบบของเค้านั้นนะ เงินที่เอามาก็ไม่ใช่เงินตนมันคุณค่าตรงไหน “รัฐกับวัดไม่ได้ไกลกันเลย” ที่ว่าชุมชนเข็มแข็งสามัคคีจนไร้การแทรกแซงได้ มันจริงหรือ ผู้นำชุมชนก็นักการเมืองท้องถิ่น ถ้าเราทำอะไรๆที่ว่าดีที่สร้างคุณค่าเพราะวัดเป็นมูลค่าเงินในกระเป๋า ถ้าไม่ได้อะไรมากะสร้างบ่ได้ เงินทองหามาอย่างไรช่างที่ว่าซักๆฟอกๆให้ขาวมันกะได้ทุกที่ คุณค่าและคุณงามความดีมันดูผิดเพี้ยนไป
เหมือนที่ว่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว 
(ก็เค้าไม่ชอบให้เราพี่งพาตนเองได้นี้เนอะ)
ถอยออกมา แล้วมองตัวเองช่างเล็กจิ๋ว หรือถอยไกลไป  เอ๊ะลองถอยทางซ้ายทีถอยทางขวาที อึอยังไงเอ่ย55
นี้ไงมันถึงต้องมีที่เก็บเวลาไว้บ้าง เดี๋ยวไม่ดูสาวตลอดเวลา 5555

ทวด :แม่ใหญ่บอกให้เอาตั่ว
หลาน : บ่ อยู่ให้คนเสียดายเล่น 555555 (แต่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ชั้นเลิศอย่างเราสูญพันธุ์สินะ 55555)
ทวด : แม่ใหญ่ว่าแมนบ่น้อ ยามสิเอา จั่กไปเอายุไส เอานำไผ มันบ่คือยุธนคารกับเอาไว้กับจะของเด้
หลาน : ก็เก็บมันไว้กับจะของ มันเป็น ธนคารของตัวเอง จะเบิกยามไดกะได้เบิกกับจะของ
ทวด : จักเว้าหยั่งฟังบ่ฮู้ความ เป็นแม่ยาแม่หญิงอย่าไปหาเรื่องให้จะของเด้อได้ยินมายุเด้ เพิ่นสิจับเข้าคุกเด้หล้า
หลาน : 555 จั่งว่า 55555555555 ยายหูบ่ดีอิหลีเด้นิ 555  ปะไปทำบุญ
ทวด : ไปใส่สิ่น
หลาน : หูยยยย 555555
 
 ใหม สระ  ใ 
 โอ้ยแย่ละใช้ np ผิดตอนไหนเนียยยยย  ตั้งกะ 23hที่แล้วววว ตายละทั้งวันเลย โอ้ยหลับในหรือไงเนีย ยังไงละที่เนีย