พุทธเคลือบผีแบบไทยให้ประโยชน์กับชนชั้นนำ เลยถูก Adopt และใช้งานเป็นเครื่องมือในการปกครอง
ตอนคนไทยแต่ก่อนที่นับถือผีล้วนๆ มีความเชื่อว่า ‘คน’ เกิดมาจากน้ำเต้า แต่พวก ‘เจ้า’ ไต่บันใดลงมาจากฟ้า มีผีฝ้า พญาแถน เป็นผู้ดลบันดาลฟ้าฝน มีการนับถือผีบรรพบุรุษ มีการบูชายันให้ไร่นา
เมื่อพุทธเข้ามา ในพุทธประวัติมีคำสอนเรื่องการสั่งสมบุญแต่ชาติปางก่อน เพื่อให้มีบารมีพอจะเป็นใหญ่ในชาตินี้
กลายเป็นว่า ตรงสเปคกับชนชั้นนำพอดี เรื่องบารมีที่คนธรรมดาจะเทียบเคียง ‘เจ้า‘ ไม่ได้ เพราะ ’เจ้า’ สะสมบุญบารมีมานานแล้ว
แต่ถ้าเอาพุทธเพียวๆมาเลย มันยากที่จะให้คนนับถือตาม จึงมีการเคลือบพิธีกรรมในศาสนาผีไปด้วย ให้ชาวบ้านเก็ทง่ายขึ้น อย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การตั้งศพ ก่อนเผา (Secondary burial) ซึ่งเป็นความเชื่อศานาผีแท้ๆ ที่ตั้งศพไว้ก่อน เพื่อรอให้ขวัญกลับเข้าร่าง
พุทธ จากพระศรีลังกาที่ติดขบวนเรือทางการค้าเข้ามางทางพม่า - ด่านเจดีย์สามองค์ จึงเริ่มงอกเงยในเมืองโบราณอย่าง อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม ศรีเทพ และพัฒนาเป็นกลุ่มอารยธรรมทวารวดี
ปล. พุทธ ไม่ตอบสนองชนชั้นนำในอินเดียเพราะที่นั้นมีระบบวรรณนะที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว และการที่พุทธบอกว่าใครก็บวชได้นี่ค่อนข้างทำลายระบบพอสมควร
ปลล. อะไรที่ตอบสนองชนชั้นนำในไทยมากกว่าพุทธ ก็คือพรามห์ ที่เข้ามามีส่วนในพิธีกรรมต่างๆ ของวังตั้งแต่สมัยอยุทธยา
ผมแค่แปลกใจตรงที่คุณบัตเตอร์เชื่อว่าการนำเข้าพุทธมาจาก การที่ชนชั้นนำ นำเข้ามา ซึ่งผมมองต่างออกไป55
แปลกใจเหมือนกันที่ตั๋งเข้าใจที่ผมเขียนไปในทางนั้นเฉยเลย 555 ผมเขียนไม่เคลียใช่มั้ยนิ
1. ผมเขียนว่าชนชั้นนำ ADOPT นะครับ ไม่ได้นำเข้า คือ เขาเห็นว่าหลักการมันมีประโยชน์ในการสืบอำนาจ เลยเอามาปรับใช้
คนนำเข้ามา อย่างที่ผมเขียนไว้ คือพระจากศรีลังกา ผ่านคาราวานการค้าทางทะเล มาถึงย่านนี้
มันเผยแพร่มาจนถึงระดับนึงที่คนเริ่มรู้จัก จนชนชั้นนำ adopt และ ทำให้แพร่หลาย
เรื่องพวกนี้ ขอโทษจริงๆ ผมไม่มี source เลย พิมพ์จากความทรงจำที่ฟัง podcast หรือ รายการจาร สุจิตต์
2. ชื่อ พัตเตอร์ ครับ 😂
กำ ใครมันบอกว่าชื่อเนย !!!!
ผมน่าจะพลาดไป แต่ผมแค่จะสื่อว่าสิ่งที่มันหลอมหลวมในความเป็น หรือ สภาวะทางสังคม มันไม่ใช่การชี้นำโดย ใครสักคน แต่มันคือ สิ่งที่มิสามารถอธิบายได้ แม้แต่ชนชั้นนำเอง
หากเรามองในทางชนชั้น ก็คือการยัดความเชื่อ แต่มันไม่ได้ผิดที่ชนชั้นนำ หรือ ชนชั้นกรรมาชีพที่เชื่อ และ ตัว ความเป็นของสภาวะทางสังคม มันคือธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นแล้ว
การที่มองว่านี่ไง มันใช้เรื่องเหล่านี้เพื่อปลูกฝังแล้วกดทับ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มองว่า ความเป็นของ สิ่งนั้นๆ มันมีแนวร่วมกันของสังคม
แม้กระทั่ง ระบบ เฟียต