Oddbean new post about login | logout Bitcoin have this effect on people. It changes them, or rather set them free and give them purpose. I'd like to hear how Bitcoin has changed you. บิตคอยน์มีำลังพิเศษในการเปลี่ยนแปลงจิตใจคน ผมเองก็ได้รับผลของมันมาพอสมควร ทั้งในแง่การติดถึงอนาคต ครอบครัว สุขภาพ จิตใจ และแม้แต่ศาสนาและปรัชญาต่างๆ แต่ผมอยากรู้ว่า บิตคอยน์ มันเปลี่ยนคุณไปยังไงบ้าง? #siamstr
ของผมมีสติกับ การเมืองมากขึ้น มองเห็นอนาคตมากขึ้นทำอะไรช้าลงไม่รีบรวยเร็ว (ความเป็นวัยรุ่นตอนจบใหม่ๆ อยากรวยเร็ว) คำสอนให้ออมเงินของแม่ผมในตอนเด็กจากที่มองว่าแม่ไร้สาระมีคุณค่ามากขึ้นถ้าเราเลือกออมให้ถูกที่เช่น อย่าเก็บเงินในธนาคาร รักครอบครัวมากขึ้น ส่วนเรื่อง วินัยกับศาสนา อันนี้ผมยังคงต้องศึกษาอีกต่อไปเพราะอ่อนเรื่องนี้จริงๆ แต่ก็ได้แนวทางจากศาสตร์การลงทุนของคุณพ่อ อ. มาเยอะพอสมควร และ ยังมีเรื่องการพัฒนาตัวเองที่ยังต้องเพิ่มทักษะตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างเช่น ภาษา อันนี้ผมขาดวินัยเอง สรุป ตั้งแต่รู้จัก Bitcoin มันทำให้ผมมองเห็นอนาคตมากขึ้น อยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น รักครอบครัวมากขึ้น ขอบคุณ คุณลุงพ่ออ. กับ อ. มากครับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้ฟังก็รู้สึกได้ว่า ของจริง เทียบกับ อ. คนอื่นๆที่เคยได้ฟังมาผมเลย Follow อ. มาจนถึงทุกวันนี้แหละครับ ❤️🫰
ตั้งแต่รู้จัก Bitcoin มันทำให้ผมมองเห็นอนาคตมากขึ้น อยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น รักครอบครัวมากขึ้น nostr:nevent1qqs2grcj7rn2s2774m7e7mrljwamr0d3ca0akrmh0uxnsala38qvjlqpremhxue69uhkummnw3ez6vpj9ejx7unpveskxar0wfujummjvupzqzxfmrznxpjxq7nlyaykraanwhea9lpyhggmwuencakqmqmh4v0nqvzqqqqqqy58ve5j
ผมเปลี่ยนไปเพราะรู้จักอาจารย์นี่แหละ 5555 มันมีคำถามมากมายสำหรับผมอยู่ในหัว มันไม่ใช่เพราะว่าบิทคอยน์มันดียังไง แต่ขณะที่ผมอายุ24 พึ่งเริ่มทำงาน ไม่กี่เดือน มันมีคำถามว่าจะเอายังไงต่อดีกับชีวิต และควรมีอะไรในชีวิต อาจารย์เหมือนคนบอกว่า เห้ย หากชีวิตมึงมีค่า มึงก็ควรมีสินค้าที่เริ่มจากตัวมึงเองมีได้ก่อน และเป็นทรัพย์สิน นั่นคือ Bitcoin อย่างที่สองคือเรื่องมุมมองทางการเมือง มันมีศรัทธา และคำถามในใจผม ตอนที่เชียร์พรรคก้าวไกลอย่างสุดริ่ม(2021) ว่าเราเชื่อสิ่งนี้ แล้วมันดีจริงหรอ สุดท้าย อาจารย์เหมือนเป็นฟันเฟืองทางความเชื่อให้ผมเชื่อใจตัวเองเพราะพวก นักการเมืองมันตอแหล ให้รักได้เพียงแค่นโยบาย ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ก็พอ “เพราะนักการเมืองทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้จากการปั้นอากาศให้เป็นตัว” อย่างที่สาม อนุรักษ์นิยม แต่ก่อนผมเป็นพวก มักมากในกาม ทำเพจสารพัดหาเงิน กับสิ่งเหล่านี้ พอได้เรียนรู้เรื่องราวของเหตุและผล ไม่ว่าจะเรื่อง การทำงานของสมอง แทบจะไม่กลับไปแตะอีกเลย อย่างที่สี่ หลักการเบสิค สุดคือการเก็บออม ผมมีเงินออมเป็นบิทคอยน์ทุกเดือน(เก็บมาสองปี ถอนมา ใช้ กยศ หมด ทั้งๆที่เรียนไม่จบ) อย่างที่ห้า การพัฒนาตัวเองสำคัญ ที่สุดและคือ หัวใจหลักของปัจเจกบุคคล ผมกลับมาอ่านหนังสือ เยอะขึ้น (เดือนที่แล้ว ซัดไป 600 หน้า((บางเล่มก็600หน้าเยอะเกินยังอ่านไม่จบ))) และอย่างสุดท้าย คือ การหลุดพ้นจริยธรรมหมู่มาก
ทำให้ใส่ใจกับสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ รวมโฟกัสเรากลับมาเหลือไม่กี่อย่างในชีวิตที่เราอยากให้ "เวลา" กับมันจริงๆ -ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว(ครอบครัว,เพื่อน,เพื่อนร่วมงาน,แมว) -สุขภาพ การกิน การนอน การออกกำลังกาย -ความรู้ สติปัญญา -(อยาก) ทำเพื่อสังคมมากกว่านี้ ขอเวลาปลดแอกก่อนนะ
บิตคอยน์ทำให้ผมกล้าที่จะบอกรักผู้ชายด้วยกัน ผมรักอาจารย์ครับ ≧◉◡◉≦ #siamstr nostr:nevent1qqs2grcj7rn2s2774m7e7mrljwamr0d3ca0akrmh0uxnsala38qvjlqpzemhxue69uhhyetvv9ujuerpd46hxtnfduxs5q3qprya33fnqerq0fljwjtp77ehtu7jlsjt5ydhwveuwmqdsdm6k8esxpqqqqqqz695a5e
เปลี่ยนให้เป็นคน เอะ! กับอะไรๆที่ไม่ค่อยได้สนใจมาก่อน... แล้วก็...เห็นความเป็นไปได้ ในเป้าหมายที่เคยล้มเลิกมันไปแล้ว😅 nostr:nevent1qqs2grcj7rn2s2774m7e7mrljwamr0d3ca0akrmh0uxnsala38qvjlqpz9mhxue69uhkummnw3ezuamfdejj7q3qprya33fnqerq0fljwjtp77ehtu7jlsjt5ydhwveuwmqdsdm6k8esxpqqqqqqz2zj4kp
ก่อนหน้าจะรู้จักบิตคอยแบบจริงๆจัง (ไม่นับที่เคยได้ยินตอนมัธยม แบบ เห่ย เงินดิจิทัลว่ะ) ผมก็คิดนะว่าโตขึ้นแล้วเราจะสามารถเลี้ยงดูตัวเอง และ ครอบครัวได้ยังไงวะ พอโตขึ้นมาจริงๆ มีงานครั้งแรก ก็เอาละ เชี่ย แม่งสิ้นหวังสัสๆ เพราะ นอกจากเงินเดือนที่ได้มันแทบไม่พอจ่าย ไม่เหลือเก็บ เรายังดันเจองานที่ไม่ชอบไม่ใช่แนว ก็เลยคิดว่า เอ้อ ถ้าเรายังทนทำงานที่ไม่ชอบ และ ได้เงินที่ไม่พอเก็บแล้ว ชีวิตมันคงไม่มั่นคงเป็นแน่แท้ หลังจากนั้นพอกลับมาที่บ้านเกิด ได้ลองทำงานแนวราชการครั้งแรกก็ทำให้มีเวลามากขึ้น เพราะต่างจังหวัดเดินทางสะดวก ก็มีเวลาลองศึกษาอะไรมากขึ้นด้วย เพราะงานค่อนข้างเลิกตามเวลา และหยุดเสา อาทิตย์ ก็ได้ลองศึกษาบิตคอยเพื่อหาทางให้ชีวิตมั่นคง และ สุดท้ายก็ได้พบกับอาจารย์ สุดหล่อ เห่ย เสียงหล่อ เห่ย ถูกแล้ว ทั้งคู่ ✨🤣 อาจารย์ตกผมให้ไปศึกษาบิตคอยได้อย่างไม่ต้องสงสัย และ หลังจากศึกษามันนี่แหละ มันก็ทำให้ผมเริ่มเก็บออมจริงๆ จังๆมากขึ้น ยิ่งรู้มาก ยิ่งทวีความเก็บออมมากขึ้นเท่านั้น แถมเปลี่ยนวิถีชิวิตเดิมๆ ไปเกือบหมด จากไม่ค่อยออกกำลังกาย กลับมาออกกำลัง จากเป็นคนชอบกินข้าวมากๆ ก็เริ่มลดข้าว หรือ เปลี่ยนไปกินอย่างอื่นแทน นอนไวขึ้น หยิบหนังสือมาอ่านบ้าง ☀️ ออกไปตากแดด ตากลม ซึ่งพฤติกรรมเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดหลังจากมาอยู่แคนาดาด้วยส่วนหนึ่ง เพราะ ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และ อยู่ตัวคนเดียว ทั้งเรียน ทั้งทำงาน แต่รู้สึกว่าเราจัดการเวลาได้ดีขึ้นมาก และ ควบคุมอะไรหลายๆอย่างได้ ถ้าเทียบกับอยู่ที่ไทย ทุกวันนี้ใช้ชีวิตที่ทำงานที่เราชอบ เก็บบิตคอย และ ออกไปเดินป่าก็แฮปปี้ดี แต่ติดตรงที่ว่าอนาคตต่อจากนี้อยากทำธุรกิจตัวเอง และ ออกไปทำสิ่งที่เรารัก และกลับไปอยู่กับครอบครัวอาจจะที่ไทย หรือ ที่นี่ เรื่องไอเดียธุรกิจก็พอมี แต่ ยังไม่หาไอเดียที่ชอบไม่เจอจริงๆ ก็ต้องศึกษาและหาความรู้ต่อไป สุดท้ายนี้ อยากบอกว่าบิตคอยมีพลังงานบางอย่างที่ดึงดูดเราตลอดเวลาจริงๆ แบบพอเรารู้จักมัน มันทำให้เราอยากครอบครองตัวบิตคอยมากขึ้น เพราะ เรารู้อยู่ลึกๆในใจว่า สิ่งนี้จะไม่ทรยศความพยายามและหยาดเหงื่อของเราในการได้มันมาเหมือนสิ่งอื่นๆในโลกใบนี้ ✨💕😌 ปล. Theory of money and credit อ่านยากจิง 555555 https://nostrcheck.me/media/public/nostrcheck.me_9701026771285312531694897354.webp
อ่านยากมากครัฒอ่านแค่สารบัญ แล้วปิดเลย
55555 ภาษาแบบผู้ดือสมัยก่อน
ถ้าใครศึกษาจริงๆ จะพบว่า Austrians Economics คือศาสตร์ชั้นสูง
กำลังค่อยๆศึกษาเลยครับ น่าสนใจมาก มี หนังสืออันไหนอ่านง่าย หรือ ช่องทางไหนบ้างครับคุณตั๋ง
ลอง ฟัง Hans Hermann Hoppe ดูครับ ฝันเปียกของ Bitcoiner เลยแหละ Pure Decentralize from Localism Hoppe เป็น Anarcho-Capitalist ครับ และเป็น ลูกศิษย์และเพื่อนของ Rothbard ร่วมกันก่อตั้งสถาบัน mises insitute เพื่อ เสนอแนวทางตลาดเสรีและ Praxeology(Human Action ของ Mises)
ก่อนหน้าจะรู้จักบิตคอยแบบจริงๆจัง (ไม่นับที่เคยได้ยินตอนมัธยม แบบ เห่ย เงินดิจิทัลว่ะ) ผมก็คิดนะว่าโตขึ้นแล้วเราจะสามารถเลี้ยงดูตัวเอง และ ครอบครัวได้ยังไงวะ พอโตขึ้นมาจริงๆ มีงานครั้งแรก ก็เอาละ เชี่ย แม่งสิ้นหวังสัสๆ เพราะ นอกจากเงินเดือนที่ได้มันแทบไม่พอจ่าย ไม่เหลือเก็บ เรายังดันเจองานที่ไม่ชอบไม่ใช่แนว ก็เลยคิดว่า เอ้อ ถ้าเรายังทนทำงานที่ไม่ชอบ และ ได้เงินที่ไม่พอเก็บแล้ว ชีวิตมันคงไม่มั่นคงเป็นแน่แท้ หลังจากนั้นพอกลับมาที่บ้านเกิด ได้ลองทำงานแนวราชการครั้งแรกก็ทำให้มีเวลามากขึ้น เพราะต่างจังหวัดเดินทางสะดวก ก็มีเวลาลองศึกษาอะไรมากขึ้นด้วย เพราะงานค่อนข้างเลิกตามเวลา และหยุดเสา อาทิตย์ ก็ได้ลองศึกษาบิตคอยเพื่อหาทางให้ชีวิตมั่นคง และ สุดท้ายก็ได้พบกับอาจารย์ สุดหล่อ เห่ย เสียงหล่อ เห่ย ถูกแล้ว ทั้งคู่ ✨🤣 อาจารย์ตกผมให้ไปศึกษาบิตคอยได้อย่างไม่ต้องสงสัย และ หลังจากศึกษามันนี่แหละ มันก็ทำให้ผมเริ่มเก็บออมจริงๆ จังๆมากขึ้น ยิ่งรู้มาก ยิ่งทวีความเก็บออมมากขึ้นเท่านั้น แถมเปลี่ยนวิถีชิวิตเดิมๆ ไปเกือบหมด จากไม่ค่อยออกกำลังกาย กลับมาออกกำลัง จากเป็นคนชอบกินข้าวมากๆ ก็เริ่มลดข้าว หรือ เปลี่ยนไปกินอย่างอื่นแทน นอนไวขึ้น หยิบหนังสือมาอ่านบ้าง ☀️ ออกไปตากแดด ตากลม ซึ่งพฤติกรรมเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดหลังจากมาอยู่แคนาดาด้วยส่วนหนึ่ง เพราะ ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และ อยู่ตัวคนเดียว ทั้งเรียน ทั้งทำงาน แต่รู้สึกว่าเราจัดการเวลาได้ดีขึ้นมาก และ ควบคุมอะไรหลายๆอย่างได้ ถ้าเทียบกับอยู่ที่ไทย ทุกวันนี้ใช้ชีวิตที่ทำงานที่เราชอบ เก็บบิตคอย และ ออกไปเดินป่าก็แฮปปี้ดี แต่ติดตรงที่ว่าอนาคตต่อจากนี้อยากทำธุรกิจตัวเอง และ ออกไปทำสิ่งที่เรารัก และกลับไปอยู่กับครอบครัวอาจจะที่ไทย หรือ ที่นี่ เรื่องไอเดียธุรกิจก็พอมี แต่ ยังไม่หาไอเดียที่ชอบไม่เจอจริงๆ ก็ต้องศึกษาและหาความรู้ต่อไป สุดท้ายนี้ อยากบอกว่าบิตคอยมีพลังงานบางอย่างที่ดึงดูดเราตลอดเวลาจริงๆ แบบพอเรารู้จักมัน มันทำให้เราอยากครอบครองตัวบิตคอยมากขึ้น เพราะ เรารู้อยู่ลึกๆในใจว่า สิ่งนี้จะไม่ทรยศความพยายามและหยาดเหงื่อของเราในการได้มันมาเหมือนสิ่งอื่นๆในโลกใบนี้ ✨💕😌 nostr:note15s839u8x4q4aathanak8lyamkx7mr36lmv8hwlcd8pmlmzwqe97qxq7ehq
You taught and showed me the way. I chose to walk the path. Bitcoin gave me hope. Right Shift gave me purpose. Life was never this simple and peaceful. "Change" is a big thing. And I don't think I will live long enough to witness the actual change happens. But I'm so grateful to have the chance to be part of the change when it slowly, gradually started. Thank you with all my heart. 🧡
-บิตคอยน์ในแง่ของความอดทน -บิตคอยน์ในแง่ความเป็นส่วนตัว -บิตคอยน์ในแง่ความปฏิสัมพันธ์ พอได้ยินว่าจะมีคนมาเล่าเรื่องบิตคอยน์ให้ฟังถึงการเกิดขึ้นมาจากไหน ตั้งอยู่ได้อย่างไร ล่มสลายไปด้วยเหตุผลใด เอาไปใช้ประโยชน์ที่ไหน แก้ปัญหาได้โดยวิธีใด พอเป็นเรื่องที่อยากรู้ ไม่รู้ไปเอาความอดทนมาจากไหน ไม่รู้จักเหนื่อยพลังงานมาเต็ม ยิ่งเรียนรู้ยิ่งเจอสิ่งที่ซ่อนอยู่ บิตคอยน์ทำให้รู้จักความเป็นส่วนตัวที่แท้จริง แต่ก่อนมีแต่ฝากความเป็นส่วนตัวให้เขาดูแลด้วยความเชื่อใจ บิตคอยน์พอรู้จักแล้วอยากบอกอยากเล่าอยากส่งต่อความรู้ เพราะมองเห็นประโยชน์ของผู้รับมากกว่าอื่นใด ยังกะว่าเก็บเรื่องราวของบิตคอยน์ไว้คนเดียวอกจะแตกตาย555 อยากเขียนมากกว่านี้ แต่ไม่ถนัดภาษาเขียน ชอบคุยภาษาเพื่อนมากกว่า พิมพ์ในโทรศัพท์ก็ลำบากแต่ก็สนุกในความพยายามของตัวเอง นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการได้รู้จักบิตคอยน์
บิตคอยน์ มีหลักการและแนวคิดเบื้องหลัง ปรัชญาแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกนึกคิดของพวกเรา.. เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ จริงๆ แล้วบิตคอยน์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราเลย ผมพบว่าหลายคนที่รู้จักบิตคอยน์ เข้าใจบิตคอยน์อาจจะมากกว่าเราด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้มีวิธีคิดหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใด ในบางกรณีมันไปเพิ่มความยโสโอหังในตัวเขามากขึ้นไปอีก ในบางกรณีมันเป็นเพิ่มอีโก้และความลุ่มหลงในตัวเองของบางคนให้เปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น บางคนปรามาสคนอื่นๆ ที่ไม่เข้าใจบิตคอยน์ เพียงเพราะคิดว่าบิตคอยน์ทำให้พวกเขาดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐกว่า.. ฯลฯ หากพิจารณาจากกรณีตัวอย่างเหล่านี้ เราสามารถบอกได้หรือไม่ว่าบิตคอยน์ทำให้คนมีจิตใจเลวทรามอย่างไม่ควรจะเป็น? การสรุปแบบนั้นดูจะไม่ยุติธรรมต่อบิตคอยน์เท่าใดนัก.. เพราะตัวมันเองไม่ได้ทำอะไรในเชิงนั้นแต่อย่างใด มันก้มหน้าก้มตาทำงานตามกฏที่ถูกกำหนดไว้อย่างแข็งขัน มันไม่สนว่าตัวมันเองต้องเข้าไปยุ่งรุ่มร่ามกับชีวิตใคร.. มันเป็นตัวมนุษย์เอง ที่พยายามจะตีความหลักการต่างๆ ที่ถูกแฝงเอาไว้เบื้องหลัง พวกเขายึดโยงหลายๆ แง่มุมเข้ากับมัน และเลือกบางอย่างไปปรับใช้ตามความพึงพอใจของแต่ละปัจเจกบุคคล บ้างได้รับมุมมองที่เข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิตและจิตใจ บ้างก็ได้รับผลในด้านตรงกันข้าม บ้างก็ใช้บิตคอยน์เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกและเพิ่มความชั่วช้าให้กับตน จากข้อสังเกตุทั้งหมดที่ว่ามานี้.. ผมสรุปได้ว่า บิตคอยน์ไม่ได้มีบทบาทในการเปลี่ยนอะไรเรา มันเป็น "คนที่ได้ศึกษาบิตคอยน์" ต่างหากที่เลือกจะเปลี่ยนแปลงตัวพวกเขาเอง มันจึงขึ้นกับว่า คนเหล่านั้น ได้เข้าหาและศึกษาทำความเข้าใจบิตคอยน์ในแง่มุมไหน ในแต่ละด้านส่งผลกระทบต่อผู้คนไม่เหมือนกัน และผลกระทบเดียวกันให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ตัวอย่างยืนยันที่ชัดเจนที่สุด ก็คือคอมเม้นท์ทั้งหมดของโน๊ตนี้ ที่แทบไม่มีความเหมือนกันเลยในแต่ละท่าน Narrative ที่ไม่เหมือนกันของแต่ละคน ผมรู้สึกชื่นชมทุกท่านที่สามารถเปลี่ยนความเข้าใจ เปลี่ยนความตื่นรู้ไปปรับปรุงและพัฒนาความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง จนรับรู้ได้ว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นได้ส่งผลในด้านบวกต่อพวกเขา แต่ถ้าจะมีใครสักคนที่เรารู้สึกว่าบิตคอยน์ไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจและพฤติกรรมของพวกเขาเลย ก็ขอให้เรารับรู้ไว้ว่า บิตคอยน์ ไม่เคยทำอะไรผิด มันเป็น "เขา" คนนั้นต่างหากที่เลือกจะเป็นในแบบที่เขาพึงพอใจ สำหรับผม การศึกษาบิตคอยน์แค่เพียงผิวเผินก็มีพลังมากพอจะเปลี่ยนวิธีคิดทุกอย่างที่ผมมีต่อทุกสิ่งรอบตัวแล้วล่ะ.. ผมทั้งรู้สึกดีใจกับการตื่นรู้ที่เกิดขึ้น และรู้สึกผิดบ้างที่เราประพฤติหรือเปลี่ยนไปสำหรับบางคน โดยที่เขาเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พวกเขารู้สึกประหลาดใจกับท่าทีที่แตกต่าง การตอบสนองที่แปลกใหม่ของผม มันต่างไปจากที่พวกเขาเคยรับรู้ เคยสัมผัสมา ในที่สุด.. พวกเขากล่าวหาว่า บิตคอยน์ คือต้นเหตุที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป > ผมแค่อยากจะบอกว่า.. มันไม่ใช่บิตคอยน์ มันคือตัวเราที่เลือกจะเปลี่ยนตัวเอง แต่เมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นนำความสุขใจมาให้เรา เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะ.. ขอบคุณนะ.. บิตคอยน์ #Siamstr
โถ่เอ้ย จะเขียนดีไปไหนหนุ่ม สงสารเงินในกระเป๋าเรามั่งสี้
ไม่ได้ตั้งใจ โถ่... แถม: ขอบคุณบิตคอยน์ แล้วอย่าลืมขอบคุณตัวเองด้วยที่กล้าลุกขึ้นมาทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นในแบบที่มีความสุขกันมันได้..
ธรรมชาติที่เป็นสังขตะไม่เคยหยุดนิ่ง
ลึกซึ้ง
"เปลี่ยน" วิธีมองข้อมูลที่เคยรับรู้มาแล้ว ให้มีมิติที่กว้างและลึกขึ้น เช่น นิพพานไม่ใช่สถานที่ที่ตั้งอยู่ภายนอกระบบที่ผู้ที่ต้องการจะต้องออกไป แต่เป็นเพียงสภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นจากภายใน "เปลี่ยน" ความอคติเดิมที่ถูกยัดเยียดจากการต้องเลือกข้าง ยึดถือไว้ว่าเป็นของตน ให้ได้ใช้เวลาที่มี ทำความเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ตรงข้ามทางความคิด เช่น "พระเจ้า" สำหรับชาวพุทธที่ไม่มีอยู่จริง ทำไม่ชาวคริสต์ถึงได้รักพระองค์อย่างสุดหัวใจ เราอาจจะ "ใช้คำเรียก" สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน "พระเจ้า, พระยะโฮวา, พระยาเวห์, God, Elohim, Adonai, ระบบธรรมชาติ" และด้วย "คำเรียก" เราอาจจะกำลังพูดถึงสิ่ง ๆ เดียวกันอยู่ เพียงแต่เราไม่เข้าใจกันและกันก็เป็นได้ "อาจยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง และเราไม่มีวันได้คำตอบที่ถูกต้องที่ถูกที่สุด ภายในชั่วชีวิตนี้ แต่เราจะยังค้นหามันต่อไป" บิตคอยน์ เป็นมากว่าแค่เรื่องของเงิน การต่อต้านผู้กดขี่ แต่มันสร้างระบบความคิดบางอย่างขึ้นมาใหม่ให้กับเรา (หรือกลับไปเป็นในสิ่งที่เราควรจะเป็น) เพียงแค่เราใช้เวลาทำความเข้าใจมัน ศาสตร์ที่ประกอบเป็นบิตคอยน์ขึ้นมา ทำให้เราได้อะไรมากกว่าการรู้แค่เรื่องของเงิน และเมื่อถือครองมันแล้ว มันทำให้เรามีความกล้า และอยากที่จะส่งต่อข้อมูลบางอย่างที่เรารู้มานี้หรือแม้แต่ความคิดที่เกิดขึ้นภายในหัวของเรา แชร์มันต่อให้กับคนอื่น ๆ ที่ก็ถือครองมันอยู่เหมือนกันกับเรา เพราะเราก็คิดว่าพวกเขาที่มีมันอยู่จะต้องเข้าใจ หรืออย่างน้อยถกเถียงกันในสิ่งที่เราบอกไป ด้วยระบบทางความคิดที่เป็นเหมือน ๆ กันกับเราอย่างแน่นอน "เราละวางอคติ และเราถอมตนเป็นผู้รู้น้อย เรารับฝัง และคิดตามด้วยความมีสติ เราสงสัยและเราไปหาข้อมูลเพิ่ม" อื่น ๆ ที่เราได้จากบิตคอยน์ คือ ความต้องการจะเป็นคน ๆ เดิมที่ดีขึ้น ไม่ใช่จากค่านิยมที่ถูกวางไว้ แต่ดีขึ้นเพราะเราอยากจะคนเป็นแบบนั้นจริง ๆ และเพื่อลูกหลานของเรา จะได้อยู่ในนิเวศที่หล่อหลอมให้พวกเขาเป็นเหมือนกันกับเรา ไม่ใช่จากระบบที่ถูกใครบางคนวางมันไว้เพื่อเป็นผลประโยชน์ให้กับพวกเขา รักนะครับอาจารย์ 🧡 #Siamstr
เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่หัวจรดซอกเล็บขบ ยกเว้นเรื่องการถูกเมียใช้ซักผ้า ก็ยังซักอยู่ครับ....โถ๊
เยอะมาก จนไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ที่มันเปลี่ยนความคิดหนักๆเลยคือ ก่อนหน้านี้ เราไม่อยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเลย มันไม่สะดวก ไม่สบาย อยากกินไม่ได้กิน อยากช้อปไม่ได้ช้อป แต่พอศึกษา Bitcoin มากขึ้น มันทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ว่า บ้านที่เราพึ่งพาได้ คือ บ้านต่างจังหวัดของเราเอง ไม่ใช่ที่นี่
เอาตรง ๆ ผมไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจมาตั้งแต่จำความได้เลย และส่วนตัวก็กลัวที่จะเรียนรู้และติดตามเรื่องการเมืองการปกครองมาก ไม่กล้าคิดไม่กล้าพูดความคิดเห็นของตัวเองออกสาธารณะเลย แต่พอได้ลงโพรงกระต่ายนี้มาผมก็เปลี่ยนเป็นคนละขั้วเลย ผมได้รู้ความสำคัญของเงิน โดยเฉพาะเรื่องของ "เงินที่ดี" (และเพราะผมเชื่อในคณิตศาสตร์มาก ๆ ก็เลยสนใจ Bitcoin แบบจริงจัง) ผมได้รู้เรื่องของหลักเศรษฐศาสตร์ ได้เห็นความบิดเบี้ยวของสังคมผ่านมุมมองทางเศรษฐกิจ และที่ฟีคที่สุดคือมันทำให้ผมกล้าที่จะศึกษาแนวคิดทางการเมืองมากขึ้น เริ่มเปิดโลกว่าแนวคิดทางการเมืองมันไม่ได้มีแค่ประชาธิปไตยกับเผด็จการอย่างที่สื่อกระแสหลักและเหล่าแกนนำทางการเมืองคอยเป่าหูเรามาตลอดเกือบ 20 ปี ทุกวันนี้คือเปิดโลกมากจริง ๆ ครับ แนวคิดเกี่ยวกับอิสรภาพที่เราเข้าใจผิวเผินก็เข้าใจมากขึ้น เปิดกว้างมากขึ้น เปิดกว้างยันแนวคิดทางการเมืองว่ามันมีสเปกตรัมมากมายและไม่มีอะไรผิดหรือถูก เรามีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็น เก็บสะสมความมั่งคั่งโดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะมากดขี่และดูดความมั่งคั่งของเราออกไปทุกชั่วขณะ ก่อนที่จะมาเป็นตัวเองในทุกวันนี้ผมสิ้นหวังกับชีวิตมาก เหมือนกับว่าเราไม่มีโอกาสที่จะหนีออกจากกระแสสังคมที่คอยกดดันให้ต้องเป็นฝ่ายนั้น ต้องทำแบบนี้ ต้องรวยเร็ว ต้องชีวิตดีลงโซเลียล ฯลฯ ยาส้มอร่อยครับ
bitcoin เปลี่ยนมุมมองด้านอิสระภาพทางการเงิน เมื่อก่อนคิดว่าต้องมีเงินเยอะๆถึงจะสบาย ถึงจะ มีความมั่นคงในชีวิต พอมีความมั่นคง แล้วจะได้มีอิสระภาพแล้วอยากทำอะไรก็ทำ แต่เมื่อได้ศึกษา bitcoin ไปเรื่อยๆ(จาก internet อาจารย์และ ทีม right shift 🙏) ก็พบว่าเราไม่ต้องมีเงินเฟียตเยอะก็ได้(จริงๆมีเยอะก็ดี 😆) ขอแค่มีระบบเงินที่ชัดเจนและปลอดภัย มันก็พอที่จะช่วยให้เราเก็บออมได้ และวางแผนทางการเงินของครอบครัวได้จากนโยบายทางการเงินที่มั่นคงจากระบบการกระจายศูนย์ของมัน เหมือนกับว่า bitcoin ทำให้รู้ว่าเงินมัน auto save ตัวเองได้แล้ว เงินมันออมตัวของมันเองได้แล้ว และมันมีประโยชน์กับอิสระภาพของมนุษย์อยู่พอสมควรหากได้ลองศึกษามัน หวังว่า bitcoin จะปลดหนี้ที่เราโดนยัดเยียดมาจากระบบ fiat ได้สักวัน ขอบคุณครับ⚡️🙏
nostr:note15s839u8x4q4aathanak8lyamkx7mr36lmv8hwlcd8pmlmzwqe97qxq7ehq I could see more brighter future of mine.
Yes, definitely. I am back to wanting to live long and see what the future holds. Before I did not care, I was hoping my life will end sooner rather than later. I will probably not live long enough to see it, but now I do believe that humanity will go back to not owning all of the land (there will be land that you can just take it and have it without asking nor thanking anyone, much less paying for it), and all legal systems will remain with natural persons only by erasing the term of legal person altogether. So there will be no shareholders, no property of legal persons, and no salaries. After graduating from schools and apprenticeships everybody will be masters, and they will own everything. Like the worker will own all the machinery he uses in his work and will exchange invoices with everyone who works together to build the product. Bitcoin will eventually achieve all this because it removes the wrong incentives.
Bitcoin เปลี่ยนอะไรผมไปบ้าง 1. ที่สำคัญที่สุด คือมี store of value สำหรับสถานการณ์แบบพม่าที่ผมกลัวในตอนนั้น เลยศึกษาไปศึกษามาเจอ Bitcoin นี่แหละ 2. เรื่องการกิน เปลี่ยนไปมาก หันมาสนใจว่าอะไรควรกินไม่ควรกิน เราโดน propaganda อะไรหลอกอยู่ พ่วงด้วยออกกำลังกาย จนมีแต่คนทักว่าไปทำไรมา ทั้งเพื่อนทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งญาติ เราก็อยากตอบไปตามจริงว่า เพราะศึกษาและทำความเข้าใจ Bitcoin แต่ไม่เอาดีกว่าตอบแบบทั่วไปดีกว่า เดี๋ยวเรื่องจะยาว 3. เป็นคนตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆมากกว่าเดิม จากเดิมที่ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวเยอะกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว ตอนนี้จะมุ่งไปที่ภาพใหญ่มากขึ้น ประเทศนั้นทำอะไร คนนั้นพยายามจะบิดเบือนอะไร เอ๊ะไปหมด 4. กลายเป็นคนกวนตีนในสายตาคนอื่นเวลาที่ทำงานพูดกันเรื่องโลกร้อน carbon neutral เอ้าเราก็แค่ถามไปตามความสงสัย 555 5. ส่วนเรื่องไม่มีลูกนี่ไม่สามารถเปลี่ยนผมได้ #siamstr ปล.อ่านของคนอื่นๆก็เพลินเช่นกัน ขอบคุณที่มาแชร์กันครับ
ตอนแรกว่าจะแปะไว้ก่อน ค่อยมาเขียนสวยๆทีหลัง แต่นึกย้อนกลับไปตอนอัดสภายาส้มหลังจากวันงาน อาจารย์บแกว่า.. "เราไม่ได้แข่งกันซึ้งเว้ยยย" งั้นผมขอพิมพ์ปื้ดเดียวแบบไม่ประดิษฐ์เลย ผมเป็นที่พยายามตามหาตัวเองมาตลอด เป็นคนที่อยากให้สังคมยอมรับ อยากอยู่ในสปอตไลท์ ชีวิตในแต่ละวันมีแต่ความน้อยเนื้อต้ำใจกับคำว่า ตัวเองไม่ใใช่ ไม่มี ไม่ดีพอ เหมือนคนอื่นเขา ผมเข้าใจเรื่องความต้องการแสดงสถานะทางสังคมนี้จากตอนที่ศึกษาเรื่องการเงินการลงทุน ก็เข้าใจเรื่องพวกนี้ระดับหนึ่งนะ... แต่ผมก็ยังไม่หลุดจากวงจรอุบาทนี้ซักที อยากได้อยากมี ทั้งสิ่งของ รายได้ หน้าโปรไฟน์ ผู้ติดตาม ยอดเอนเกจ มันช่วยเติมเต็มหัวใจดวงน้อยๆที่รั่วอยู่นี้ให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ คอยสร้างภาพความสำเร็จอย่างที่สังคมบอก ถ่สยรูปถ่ายวิดีโอถ่ายสตอรี่ ลงคอนเทนให้คนอื่นได้เสพและส่งต่อ... เพราะวันนั้นเลยจริงๆ... วันที่อยากจัดการพอร์ตคริปโตเลยกดฟัง Bitcoin talk #99 ก็ได้แต่สงสัยว่าฐานเงินออมทำไมต้องบิตคอยน์ด้วยวะ? แล้วคลิปถัดไปดันชื่อ Why Bitcoin? คลิปนี้แหละที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดการ ขายADAทั้งหมดแล้วกดซื้อBTCแบบไม่สนราคา ชีวิตผมจากนี้คงคล้ายหลายคนที่ตามอาจารย์มาเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะบิตคอยน์หรือเป็นเพราะอาจารย์กันแน่... ผมมีความฝัน,ความหวังขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกมีเซฟโซน มีคนคอยชี้ทาง ผมไม่ได้เพียงความรู้บิตคอยน์ แต่ยังได้แง่คิดในการใช้ชีวิตจากอาจารย์อีกด้วย อาจารย์ตอบได้โดยไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่เคยพูดไว้ก่อนหน้า การติดตามอาจารย์ยังนำพาผมมาเจอคนเจ๋งๆอีกตั้งมากมาย สิ่งดีๆที่รับมาจากอาจารย์ มันทำให้ผมมีความสุขเหลือเกิน ผมรักตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็น รักครอบครัว รักคนรอบตัวมากขึ้น ความรู้สึกดีๆมันตื้นตันจนบอกไม่ถูก (ก็เลยปล่อยโฮแบบตอนอยู่ร้านข้าวยั่นแหละฮะ) ถ้าถามว่าบิตคอยน์เปลี่ยนชีวิตยังไง ก็คงตอบคล้ายๆกับทุกคนในนี้แหละครับ ผมได้รู้จักตัวเองมากขึ้น มีจุดยืนมากขึ้น มองเห็นอนาคตตัวเองมากขึ้น ยังมีช่วงสับสนในตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงค้นหาตัวเองต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับการศึกษาบิตคอยน์ และสิ่งสุดท้ายที่อยากบอกใน Note นี้... "ขอบคุณบิตคอยน์ที่ทำให้ผมรู้จักอาจารย์พิริยะครับ" รักอาจารย์นะครับ สุขภาพแข็งแรง อยู่กับพวกเราไปนานๆนะครับ❤️
มีสติ ตื่นรู้มากขึ้นครับ จำได้ว่ามันเหมือนเป็นยูเรก้าโมเม้นที่ทุกอย่างที่เคยสงสัยมันเชื่อมโยงถึงกัน อยู่ๆมันก็คลิกขึ้นมาในหัว แล้วก็ตกหลุมกระต่ายลึกลงมาเรื่อยๆครับ บิตคอยน์ชี้ให้เห็นว่ายังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้อะไรเลย ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก stay humble, stack sats ต้องขอบคุณอาจารย์พิริยะที่คอยแจกยาส้มมาตลอดครับ 🙏🏻 https://image.nostr.build/0509f72f66c2e5b1a26f8af38cff388d89024db7e5044daa1290c8b6e19c8e82.jpg
มื่อปีที่แล้วเหมือนเคยมีคนถามคำถามประมาณนี้ครั้งหนึ่ง พอเจอคำถามของอาจารย์ ”บิตคอยน์ มันเปลี่ยนคุณไปยังไงบ้าง” นั่งคิดอยู่นานคำตอบก็ยังเหมือนเดิมเหมือนปีที่แล้ว(เอ๊ะหรือตัวเองไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นเลย)แต่ก็นั้นแหละคะ ก็ยังจะตอบแบบเดิม คือ ไม่เปลี่ยนอะไร การดำเนินชีวิตยังเป็นเหมือนเดิม เค้าเข้ามาอยู่ด้วยอย่างเป็นปกติสงบนิ่งไม่ได้เร็วขึ้นหรือช้าลง แต่ถ้าว่าอะไรๆอยู่ถูกที่ถูกทางมากขึ้น มีความสุขอยู่แล้วเหมือนจะมีความสุขมากขึ้นอีก (ถ้าว่าบ้าขวางโลกก็เป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรหรือจะเป็นอันนี้ที่เปลี่ยน มีคนบอกว่าหลังๆเริ่มบ้าขวางโลกหนักกว่าเดิมนะ555555)
ตั้งแต่ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับบิตคอยน์ สิ่งที่บิตคอยน์ทำให้ผมเปลี่ยนคือ เปลี่ยนประเทศครับ ไม่ต้องรอลุ้นเลือกตั้งทุกๆ 4 ปี เปลี่ยนตัวเราไปอยู่ในระบบเฟียตสกุลอื่นง่ายกว่า มีเงินเฟียตเหลือให้ stack sats เยอะกว่าเดิมด้วย #siamstr nostr:nevent1qqs2grcj7rn2s2774m7e7mrljwamr0d3ca0akrmh0uxnsala38qvjlqpp4mhxue69uhkummn9ekx7mqzyqyvnkx9xvryvpa87f6fv8mmxa0n6t7zfws3kaen83mvpkph02clxqcyqqqqqqg9g8cg4
- หัดให้เป็นคนตั้งคำถามบางคำถามที่ไม่มีใครตั้งมาก่อน รวมไปถึงคำถามที่คนไม่กล้าถาม - กล้าคิดต่าง ไม่คิดตามกระแสที่เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นชักจูงให้คิดเห็นเหมือนคนหมู่มาก - หัดให้ไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง - low time preference กลายเป็นค่านิยมหลักในการดำเนินชีวิตผมเสริมกับความเป็น minimalist ในตัวอยู่แล้ว - เห็นคำสอนในศาสนาพุทธแจ่มแจ้งขึ้น ... ผมยังแปลกใจว่ามาได้ยังไง - เข้าใจความสำคัญของ "เวลา" นึกออกเดี๋ยวมาใส่เพิ่มครับ
