Oddbean new post about | logout
 ขอเขียนเพิ่มเติมซะหน่อยละกัน

อันนี้ผมคิดเล่นๆ ว่าเป็นอีก 1 ตัวอย่างสะท้อนว่ายิ่งภาครัฐใช้ กม. แทรกแซงยิ่งเละนะครับ มันจะทำลายวัฒนธรรมการให้ทิปเอาได้เลยในระยะยาว

เดิม milton friedman เคยบอกว่าการให้ทิปเป็นวิธีการหาทางออกของตลาดรูปแบบหนึ่ง ในการให้รางวัลคนที่ทำดีและลงโทษคนที่บริการห่วย เป็นการหาทางออกอย่างชาญฉลาดโดยไม่ต้องพึ่งกลไกรัฐ

ทุกวันนี้กลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้สินะ 

ส่วนนึงผมมองว่าอาจเป็นเพราะประชาชนถูกทำให้ชีวิตอยู่ยากขึ้นจนต้องเห็นแก่ตัวเพื่อเอาตัวรอด (จากเดิมไม่ได้ทิปอาจจะแค่เสียโอกาส แต่ตอนนี้ถ้าไม่ได้ทิปอยู่ไม่ได้แล้ว นายจ้างเองก็อาศัยช่องโหว่ตรงนี้ตัดต้นทุนตัวเองซึ่งถูกบังคับมาจากค่าแรงขั้นต่ำ และแน่นอนว่าผู้ที่ทำชีวิตคนให้ยากขึ้นคือรัฐ ด้วยระบบเงิน fiat)

ในขณะเดียวกัน การศึกษาจากภาครัฐก็ไปบังคับปลูกฝังแนวคิดเรื่องสิทธิต่างๆ ให้คน entitled คิดว่าตัวเองสมควรได้รับสิ่งต่างๆ นานาเพียงแค่เกิดมาเป็นคน ไม่ได้ถูกปลูกฝังให้เน้นเรื่องความรับผิดชอบและยอมรับผลจากการกระทำของตัวเอง คนมันเลยยิ่งคิดกันแต่ว่าฉันทำงานเทอต้องให้ทิปฉัน

เมื่อนายจ้างลำบากจาก กม. ค่าแรงขั้นต่ำจนต้องผลักภาระมาให้ผู้บริโภคช่วยจ่ายทิปให้พนักงาน เมื่อพนักงานรายได้ไม่พอจนต้องลำเลิกเอาเงินจากทุกคนในทุกทางเพื่อเอาตัวรอดแม้จะบริการห่วยแค่ไหน เมื่อผู้บริโภคเจอบรรยากาศแบบนี้และถูกบีบบังคับกลายๆ ให้ต้องจ่ายทิป คิดว่าเค้าจะชื่นชมกับสิ่งที่ได้รับ และมองวัฒนธรรมการจ่ายทิปเป็นเรื่องที่ดีเหรอ จะพาลให้เค้าอยากโจมตีวัฒนธรรมการให้ทิปมากกว่า ทั้งที่จุดเริ่มต้นมันควรจะเป็นเรื่องที่ดีแบบที่ friedman บอก

ไม่อยากอคติ แต่มันก็อดคิดไม่ได้ ว่าบางทีการล่มสลายของวัฒนธรรม มันก็มาจากเรื่องเล็กๆ และฝีมือของภาครัฐที่กระทำการโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และสร้าง unintended consequences ที่อยู่นอกเหนือโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ของเหล่า central planner ขึ้นมาอีกแล้ว

#siamstr nostr:note1dyuhg8qrhdtge08s569g7ge8dt8ara3xflauw4pxncnsdwx3ygtqyzpjk6