Oddbean new post about | logout
 #bitcointalk Ep. 179
นั่งดูไปสองสามรอบ ขนมปังเยอะมาก 555+ ปลาตัวไหนหิวบ้างเอ่ย? "โม้ะๆๆๆๆ" คาถาเรียกปลา ใครทันบ้างนะ 555+

ยิ่งทำงานยิ่งหาเงิน กลับยิ่งจนลง ไม่เคยพอใช้? ไม่รู้สึกถึงความมั่นคงในชีวิต ไม่สามารถมองการณ์ไกลได้ มองไม่เห็นอนาคต ชีวิตเอารอดอยู่แค่ไม่กี่วัน ชีวิตต้องแสวงหาแต่ผลกำไร ชีวิตมันเหนื่อย สิ้นความหวัง...
#siamstr

ตั้งแต่นาทีที่ 37:00 
เงินฝืดมันดีกว่าเงินเฟ้อจริงๆเหรอ? ตลาดจะตาย เศรษฐกิจจะพังหรือเปล่า การมีเงินเฟ้ออ่อนๆ 2% นิดๆมันถูกต้องแล้วหรือเปล่า?
- ความหมายที่แท้จริงของคำว่า Inflation และ Deflation
- สิ่งที่รัฐบาลทำ เมื่อเกิดสภาวะ เงินฝืดและเงินเฟ้อ
- แพะรับบาปที่รัฐบาล บอกว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา เศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่การพิมพ์เงินไม่จำกัด
- เกิดอะไรขึ้นเมื่อมีคนๆหนึ่งมีอำนาจผูกขาด ในการผลิตเงินโดยแทบไม่มีต้นทุน ไม่ต้องทำงาน ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร
- Fiat ที่มากขึ้น ถูกส่งต่ออย่างช้าๆ แต่ค่าครองชีพโดยรวมพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้คนที่ได้ fiat ท้ายสุด ขาดสภาพคล่อง ต้องขายทรัพย์สิน เกิดความไม่มั่นคงของชีวิต
- เมื่อคนหมดแล้วซึ่งทรัพย์สิน ขาดสภาพคล่อง จะเริ่มขอให้ภาครัฐเข้ามาช่วย ต้องการสวัสดิการ ต้องการเงินอย่างเร่งด่วน เป็นการสนับสนุนให้รัฐมีอำนาจมากขึ้นกว่าเดิม กลายเป็นเหยื่อเกมการเมือง ความมั่งคั่งของประเทศชาติที่อยู่ในมือของประชาชน จะค่อยๆถูกขายเปลี่ยนมือ ไปอยู่ในมือของนายทุน 
- Cantillonaires คนที่ได้ประโยชน์จากระบบการพิมพ์เงิน กระบวนการที่จะหลอกคน เพื่อที่จะผ่องถ่ายความมั่งคั่งของคนอื่นไปสู่คนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น หน้าที่ของเขาคือทำตัวเป็นคนดีย์ ถูกมองว่ามีจิตใจเมตตากรุณา ทำบุญบังหน้า ทั้งๆที่เป็นแวมไพร์สูบเลือดคน
- Wealth redistribution system ใช้กลไกการพิมพ์เงิน เพื่อยกค่าครองชีพขึ้น ทำให้คนต้องขายความมั่งคั่งที่ปู่ย่าตายายเขาเคยทำไว้จนหมด รายได้ไม่มากขึ้น สุดท้ายก็ต้องเรียกร้องให้รัฐบาลมาช่วยกูหน่อย กูจน ไม่ไหวแล้ว เครียด กินเหล้า พิมพ์เงินมาช่วยกูหน่อย!
- การแข่งขันกันตัดราคาสินค้า คือการเอาของที่มีค่ามาขายถูก บางทีขายถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อที่จะเอาเงินที่เสื่อมค่าเร็วๆ มาแลกกับสภาพคล่อง เพราะฉะนั้น ในระดับโลกประเทศที่เป็นประเทศส่งออกทั้งหลาย ก็จะค่อยๆสูญเสีย Wealth แลกกับ Liquidity ... ทำให้รู้สึกร่ำรวยเพียงชั่วขณะ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะแพงขึ้น เพราะเข้าไปส่งผลต่อกลไกทางตลาด แต่ Wealth ก็จะค่อยถูกสูบไปเรื่อยๆ ไปอยู่กับประเทศที่เป็นประเทศมหาอำนาจในการพิมพ์เงินทั้งหลาย กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วทำหน้าที่เป็นองค์กรณ์ที่จะสูบเอาทรัพยากรจากประเทศที่ 'พัฒนาไม่ทัน'
- ประเทศที่'กำลังพัฒนา' จะต้องถูกทำให้พัฒนาไม่ได้ นอกจากถูกสูบทรัพยากรแล้วจะต้องถูกกดให้ไม่พัฒนาด้วย การบังคับให้ประเทศใช้พลังงานต้นทุนสูงที่สุดและเอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ประเทศเหล่านี้ต้องเลียแข้งเลียขาประเทศมีอำนาจและขายวิญญาณของประเทศ เมื่อราคาสินค้าในประเทศขยับสูงขึ้น รัฐบาลจะเข้ามาใช้กฎหมายในการตั้งกำแพงภาษีเพื่อกีดกันการนำเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบที่มีความจำเป็น ซึ่งนั่นเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตอีกทาง
- ความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศส่งออกต่างๆ(Net Exporter) ค่อยๆถูกสูบไปอยู่ประเทศนำเข้า(Net Importer) ประเทศที่ผลิตมากกว่าที่กินกลายเป็นประเทศที่ยากจน กลับกันประเทศที่กินมากกว่าผลิต ค้นพบวิธีที่จะรวยมากขึ้นเรื่อยได้ด้วยการ 'Export เงินเฟ้อ' ไปยังประเทศอาณานิคมทั้งหลาย แล้วประเทศอาณานิคมทั้งหลายก็ส่งออกสินค้าที่มีค่าแลกกับเงินเฟ้อกลับเข้าไป สูบเอา Wealth ของทั้งโลกแล้วไปผลาญทิ้ง

นาทีที่ 1:23:00
- Deflationary Money (เงินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป) จะเป็นกลไกสำคัญ ในการปรับระบบการผ่องถ่าย Wealth จะทำให้คุณมีเงินเก็บออมมากขึ้น? ผลิตสินค้าได้ดีขึ้น? มีชีวิตที่ดีขึ้น? อย่างไร ...ไปดูเอาเอง 😄 


https://www.youtube.com/live/pU1HSLhwhig?si=S2q4DwGsfjW2tv1W