ผมมองว่าปัญหามันลึกกว่านั้นลงไปอีกครับ ทุกวันนี้ต้นทุนที่คนๆ นึงต้องจ่ายเพื่อการมีชีวิตของตัวเองและดูแลตัวเองได้ (บ้าน, รถ, ค่ารักษาพยาบาล, ประกันสุขภาพและประกันอื่นๆ) มันสูงเกินกว่าที่เค้าจะเอื้อมถึง เค้าไม่สามารถ afford มันด้วยตัวเองได้อีกแล้ว จนต้องมาหวังพึ่งใบบุญภาครัฐ
ถึงจุดนี้มันก็วนลูปแล้วครับ ยิ่งประชาชนต้องการพึ่งรัฐมาก รัฐยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมาก ยิ่งรัฐมีค่าใช้จ่ายมากยิ่งต้องรีดภาษีหรือเสกเงินเพิ่ม ยิ่งเสกเงินเพิ่มยิ่งทำลายเงินเก็บประชาชนจนซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อดูแลตัวเองไม่ได้ ยิ่งประชาชนดูแลตัวเองไม่ได้ยิ่งต้องคลานกลับมาพึ่งรัฐ
กระบวนการทั้งหมดทั้งมวลนี้ส่งเสริมให้รัฐมีขนาดใหญ่ขึ้น และรัฐไม่มีทางจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพได้เท่าเอกชน (รัฐได้เงินมาจากคนอื่นและเอามาใช้เพื่อคนอื่น เป็นรูปแบบการใช้เงินที่แย่ที่สุดใน 4 แบบ) เท่ากับว่าเรากำลังเดินสู่หนทางที่ยิ่งจนแต่ยิ่งต้องใช้เงินแบบประสิทธิภาพต่ำครับ